ฟรายเดย์ก็เพิ่งเข้าวงการ
Makeup-Addict
มาไม่ถึงปี แต่บอกเลยว่าตอนนี้กำลังกังวลเรื่องกระเป๋าเครื่องสำอางไม่พอเก็บ หลังจากนั่งเช็คมาเมื่อกี๊ว่าลิปสติกกำลังจะเพิ่ม 20 เป็น 21 แล้ว แง TT__TT
แต่ถึงอย่างงั้นก็อยากได้ลิปเพิ่มอีก ( wishlist ยังเหลืออีกเป็นร้อยใครจะยอมล่ะ ) เวลาไปคุยกับเพื่อนๆ ก็ได้แต่หน้าเหวอๆ ว่าทำไมแกซื้ออะไรเยอะขนาดนั้น ปากก็มีแค่ปากเดียว *ฉึก*
ยังมีหลายๆ เรื่องตลกของบรรดาสาวๆ
Makeup-Addict
ที่ฟรายเดย์อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง ว่ามีเรื่องอะไรที่เหมือนกันบ้าง *0* ตามฟรายเดย์มาดูเลย!
1) มันยังไม่พอ !! จะซื้ออีก ซื้ออีก ซื้อจนไม่มีที่เก็บ
บอกเลยว่าชั้นวางของของเหล่าสาวๆ คลั่งเครื่องสำอางคงเต็มไปด้วยเครื่องสำอางต่างๆ จะใช้หรือไม่ใช้ก็วางๆ กระจายกันตรงนั้น มีเยอะขนาดที่ว่าใช้ทั้งปีทั้งชาติก็ไม่หมดกับเขาเสียที แต่มีเยอะขนาดนี้แล้วจะหยุดซื้อไหม ตอบเลยว่า
ไม่ !!
ไอ้นั่นก็สวย ไอ้นี่ก็สวย กรี๊ด แบรนด์นี้ออกตัวใหม่ บอกเลยว่า Wishlist ยาวเป็นหางว่าวแล้วก็ยังไม่หยุด
2) ร้องไห้โฮเพราะทำเครื่องสำอางตกพื้น
ที่สุดของความ " ตะเตือนใต " ของบรรดา Makeup-Addict คือ
แป้งตลับตกพื้น!!บรัชออนตกพื้น !!ไฮไลท์ตกพื้น!!สารพัดจะตกพื้น !!
!
ตกแล้วเป็นยังไงเหรอ พังไงคะ พัง โห น้ำตานองพื้นเลย เหมือนถูกหนุ่มขอเลิกกลางทาง ฟรายเดย์เคยเฮิร์ทไปหลายชั่วโมงเพราะดันทำไฮไลท์ที่ซื้อมาตกแตกกระจายเป็นผง ฮือออ
3) สควอชสีบนแขนแล้วเดินเที่ยวทั้งวัน
เวลาไปร้านขายเครื่องสำอางก็อดไม่ได้จริงๆ ที่จะ สคอวชสีบนท้องแขน สวอชสีมาเป็นสิบ ทั้งลิปสติก บลัชออน แป้ง แล้วยังไงต่อเหรอ ไม่ล้างจ้า ส่วนหนึ่งก็เพราะสีของเครื่องสำอางในร้านมันดูไม่ถนัดเพราะอยู่ในแสงไฟ เลยเดินออกมาข้างนอกด้วยเพื่อเช็คสีเวลาอยู่ในแสงธรรมชาติ เอ้า เช็คตอนกลางคืนอีกที ไปๆ มาๆ ก็ไม่ได้ล้างยันกลับบ้าน ก็มันสวยนี่นา
4) จะไม่ดื่มน้ำเด็ดขาด เดี๋ยวลิปสติกหลุด
ทำงานอยู่ ก็ดันอยากดื่มน้ำขึ้นมาซะงั้น แต่พอจะยกแก้วขึ้นมาดื่ม เอ่อ.. ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวลิปสติกหลุด ขี้เกียจทาใหม่ ทำงานต่อไปอีกซัก 20 นาที ก็หิวน้ำ แต่ก็ไม่อยากให้มีรอยเปื้อน T_T เป็นวัฎจักรวนไปอย่างนี้เรื่อยๆ สุดแล้วก็กลั้นใจไม่ให้ดื่มน้ำอยู่ดี
#ความสวยต้องมาก่อน
5) เก็บเงินออมเพื่อเครื่องสำอางโดยเฉพาะ
การออมเงินเป็นสิ่งที่ดีนะคะสาวๆ โดยเฉพาะออมเงินในสิ่งที่ชอบ ( อิอิ ) คนอื่นๆ อาจจะออมเงินไปเที่ยว ออมเงินไปเปย์ผู้ เอ้ย ไปคอนเสิร์ตดารานักร้องที่ชอบ แต่สำหรับสาวๆ คลั่งเครื่องสำอางนั้น บอกเลยว่าเธอจะออมเงินเพื่อไปซื้อเครื่องสำอางโดยเฉพาะ ยิ่งช่วงไหนมีรุ่นระดับลิมิเต็ดอิดิชั่นนั้น ยิ่งต้องออมไปแต่เนิ่นๆ เดี๋ยวจะพลาดคอลเลคชั่นโปรดเอา
6) หูตาว่องไว ลิปนั่นท่านได้แต่ใดมา
พอเริ่มเข้าสู่วงการไม่นาน เธอก็เริ่มหูตาไวมากขึ้น โดยเฉพาะกับเครื่องสำอางบนใบหน้าคนอื่น เอ้า ก็สีมันสวยนี่นา ยี่ห้อไหนนะที่ให้เท็กเจอร์แบบนี้ อุ้ย อยากได้ๆ พอเธอเข้าสู่ขั้นแอดวานซ์ ก็จะเริ่มกวาดรายละเอียดการแต่งหน้า อุ้ย คนนี้ลงคอนทัวร์หนักมาก คนนี้แก้มระเรื่อมีมิติจัง ก็ดูไว้เพื่อศึกษา เผื่อจะแต่งเลียนแบบบ้างไงแหม อิอิ
7) ปรายตามองก็รู้ว่ามาจากยี่ห้อไหน รุ่นอะไร
มีความช่ำชองในสกิลแยกแยะเครื่องสำอางเกิดขึ้น เมื่อสั่งสมประสบการณ์ไปมากๆ เธออาจเข้าขั้นสามารถรู้ได้เลยว่าสีที่ทาบนปากเพื่อนนั้นมาจากแบรนด์ไหน ชื่ออะไร สีอะไร เผลอๆ เธอสามารถท่องชื่อสีของแบรนด์นั้นๆ ออกมาจนหมด บอกเลย สมัยเรียนยังไม่ขยันท่องหนังสือเท่านี้เลยนะ
8) ซื้อสีซ้ำ ! (ซะที่ไหนกันเล่า)
สิบเท้ายังรู้พลาด นักปราญช์ยังรู้พลั้ง นับประสาอะไรกับสาวๆ เดินดินธรรมดาอย่างเราๆ กันล่ะคะ มันก็มีพลาดซื้อสีซ้ำกันมาบ้างแหละ แต่ซ้ำแล้วยังไง ! ดูเนื้อสีมันต่างกันนะ อันนี้เนื้อแมท อันนี้เนื้อครีม อันนี้แบบซาติน อันนี้จิ้มจุ่ม อันนั้นแบบกลอส เห็นเปล่า ไม่ได้ซื้อสีซ้ำจริงจริ๊ง
===========================
ไหนนนๆๆ? ใครมีนิสัยครบตามที่บอกกันมาบ้าง ไม่ใช่ย่อยนะเราน่ะ เรียกตัวเองว่าตัวแม่ด้านเครื่องสำอางเลยดีกว่า ยังไงใครเป็นคนที่ติดเครื่องสำอางหนักมากขนาดนี้ก็ต้องระวังเงินในกระเป๋าด้วยนะจ๊ะ เดี๋ยวหายไปไม่ถึงสิ้นเดือนจะแย่เอา
