สวัสดีค่าา สาวๆ SistaCafe ที่น่ารักทุกคนเลย (.❛ ᴗ ❛.)
เชื่อว่าคนที่คลิกอ่านบทความนี้ คงกำลังสนใจบุคลิกแบบ ' Introvert ' หรือคนโลกส่วนตัวสูงไม่มากก็น้อยล่ะนะ... ไม่ว่าจะเพราะคล้ายกับนิสัยตัวเอง หรืออยากเข้าใจคนรอบตัวที่มีนิสัยแบบนี้มากขึ้นก็ตาม ก่อนอื่นต้องบอกว่า บ้านเราเพิ่งจะตื่นตัวเรื่อง Introvert กันเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง เพราะคนยุคใหม่เปิดเผยว่าเป็นกันเยอะขึ้น แม้แต่คนดังเซเลบเมืองนอกก็มีบุคลิกนี้กันมากมาย ซึ่งสมัยก่อนกลุ่มคนเหล่านี้มักจะถูกเข้าใจผิดว่า เป็นคนประหลาด ดูเก็บตัวไม่สุงสิงกับใคร มีปัญหาครอบครัวรึเปล่า? จากที่ดูแปลกแยกอยู่แล้ว สังคมก็ไปตีตราและเอาตัวออกห่างจนดูแย่ยิ่งกว่าเดิม #เซ็งสุดๆ -___-
คน Introvert ไม่ใช่คนไม่ดี ไม่ใช่คนต่อต้านสังคม พวกเขายังอยากสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น มีเพื่อนสนิท มีครอบครัวที่เข้าใจ มีคนรักเหมือนคนทั่วไปนั่นแหละ ทั้งที่เขาแค่มีความคิดและทัศนคติบางอย่างต่างจากคนทั่วไปเท่านั้น! หากเธอเองเป็นหนึ่งในคนเหล่านี้ และอยากทำความเข้าใจกับตัวเองให้มากขึ้น หรือเธอเป็นคนชอบเข้าสังคม ร่าเริง ที่รายล้อมไปด้วยแก๊ง Introvert บทความนี้จะช่วยให้เธอเข้าใจตัวตน ปรับตัวให้เข้ากับพวกเขาได้อย่างแน่นอน! กับ ' 7 สิ่งควรรู้เกี่ยวกับบุคลิก Introvert ' ที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า ต้องเงียบ ต้องเข้าถึงยากแน่ๆ จะจริงไหม มาหาคำตอบไปด้วยกัน!

ข้อแรก คนไทยหลายคนมักมีภาพจำที่ผิดว่า ' คนโลกส่วนตัวสูง = คนขี้อาย มนุษยสัมพันธ์แย่ ' ไม่กล้าสบตาหรือคุยกับคนแปลกหน้า ไม่กล้าออกไปพบเจอผู้คน ไม่ชอบท่องเที่ยว อยู่แต่บ้าน ซึ่งไม่ใช่ความจริงเสมอไป! อันที่จริงแล้ว Introvert ที่ชอบเมคเฟรนด์ ชอบแบ็คแพ็คท่องเที่ยวก็มี เพียงแต่จะต่างกับ Extrovert หรือคนชอบสังคมตรงที่ว่า ' ขีดจำกัดของพลังงานชีวิต ' จะต่างกันค่ะ
Extrovert สามารถกระตือรือร้น หาเพื่อนใหม่ได้ทุกรูปแบบ ไม่เบื่อ ไม่เหนื่อย คุยกับคนแปลกหน้าได้ทั้งวัน เที่ยวขึ้นเหนือลงใต้ก็ไม่บ่น ไปกับเพื่อนเป็นสิบยี่สิบคนก็ไม่หวั่น สนุกดีด้วยซ้ำ เหมือนแบตเตอรี่ที่ชาร์จเต็ม 100% ตลอดเวลา ในขณะที่ Introvert จะมีรูปแบบที่ต่างออกไป คือคุยกับเพื่อนใหม่ๆ ได้ แต่สักพักแบตในตัวจะเริ่มอ่อน ล้า หมดพลังเหมือนแบตเหลือ 5% ต้องปลีกตัวออกมาอยู่คนเดียวสักพักเพื่อรีชาร์จตัวเอง หรือหากไปเที่ยว ก็มักชอบการแบ็คแพ็คลุยเดี่ยวหรือไปกับเพื่อนกลุ่มเล็กๆ ไม่เกิน 3-5 คน มากกว่าไปกับญาติเป็นสิบหรือคณะทัวร์ เป็นต้น

อย่างที่บอกจากข้อข้างบนว่า Introvert ไม่ค่อย ' เปล่งประกาย ' นักเมื่ออยู่กับสังคมกลุ่มใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อรายล้อมไปด้วยคนที่ไม่รู้จัก หรือคนที่ไม่ได้สนิทสนมกันดีพอ Introvert มากมายจะรู้สึกตัวลีบเล็กเหลือสองนิ้ว ไม่กล้าพูดคุยหรือออกความคิดเห็นในวงสนทนาทันที ( บางคนก็กล้าพูดนะ แต่มีน้อย แบบนั้นจะเรียกว่า Social Introvert ) จึงทำให้ดูไม่ค่อยเป็นมิตร คนไม่ค่อยกล้าชวนคุยเท่าไหร่ แต่ที่จริงถ้าชวนคุย เขาก็คุยได้ปกติแหละค่ะ แค่ไม่ใช่ฝ่ายเริ่มเท่านั้น
ในทางกลับกัน Introvert จะแสดงความเป็นตัวเอง และสบายใจที่สุดเมื่ออยู่กับแก๊งเพื่อนที่มีบุคลิกแบบเดียวกัน ไทป์เดียวกันซะมากกว่า หรือจะเป็น Extrovert ก็ได้ แต่ต้องสนิทกันมานานแล้วพอสมควร เพราะรู้ว่ามีแต่คนที่เข้าใจ ไม่ขัดคอ ไม่ตั้งแง่หรือตั้งคำถามให้ต้องสะดุด คนเหล่านี้จะเซย์โนพวกปาร์ตี้ หรือคอนเสิร์ตที่ต้องเจอคนแปลกหน้าชวนคุย ชวนดื่ม เพราะไม่รู้จะวางตัวยังไง ถ้ามีคนไปชวนก็ต้องทำใจว่าโอกาสปฏิเสธสูงถึง 99% เพราะเขากลัวบรรยากาศในงานกร่อย หรือไม่สนุกนั่นเอง

ลักษณะพิเศษอย่างหนึ่ง ที่เอาไว้แยก Intro กับ Extro ได้ค่อนข้างดีคือ ' หัวข้อหลักในการสนทนา ' ค่ะ ในขณะที่ Extrovert เป็นสายชอบสังคม ทำความรู้จักคนอื่น คือเน้นการได้คุยมากกว่าเนื้อหา หัวข้อสนทนาจึงไม่ค่อยสลักสำคัญ อาจเป็นแค่การถามเรื่องดินฟ้าอากาศ ชมว่าเสื้อผ้าสวย ทำผมเริ่ด วันนี้ไปไหน กินข้าวหรือยัง ประมาณนี้เพื่อคีพความสัมพันธ์เฉยๆ ตอบไม่ตอบก็ไม่เป็นไร
แต่คนบุคลิก Introvert จะกลับกันเลย คือถ้าคิดจะคุย ก็ต้องคุยแบบจริงจัง พวกเขาจะไม่สนใจการทักสภาพอากาศ ( จะถามทำไม ไม่ดูในแอพเอาล่ะ? ) ไม่ถามว่าอีกฝ่ายจะไปไหน กินข้าวเมื่อไหร่ ( ก็เรื่องส่วนตัวไหม? ) หากมีใครทักเรื่องพวกนี้กับ Introvert จะเกิดเดตแอร์หรือประหม่าทันที พวกเขาจะถนัดตรงเข้าประเด็นกับหัวข้อสนทนาแบบลึกๆ เชิงประเด็นถกเถียงกันเลยมากกว่า เช่น เศรษฐกิจ การเมือง สถานการณ์ในสังคม หรือดูหนัง อ่านหนังสือจบแล้วมีอะไรมาวิเคราะห์ แลกเปลี่ยนความเห็นกัน เป็นต้น ดังนั้นถ้าเธอเป็นคนที่คิดจะจีบหรือหาเพื่อน Introvert ก็ต้องหาหัวข้อที่เขาสนใจมาคุยกันยาวๆ ถ้าทักแค่รูปลักษณ์ภายนอก จบใน 30 วิแน่นอน = =

Extrovert มักหล่อเลี้ยงตัวเองได้ด้วยการรายล้อม ความสนใจจากผู้คน แม้จะอยู่ท่ามกลางคนมากมาย เสียงดังอื้ออึงขวักไขว่ ก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัด กลับเพิ่มพลังการใช้ชีวิตให้เสียด้วยซ้ำ แต่ขั้วตรงข้ามอย่าง Introvert จะรู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก คิดประมวลผลอะไรไม่ออก พวกเขาจะดิ้นรนหาสถานที่ที่เงียบสงบ ไม่จำเป็นต้องเข้าป่าเขาลำเนาไพร อาจจะเป็นห้องคอนโดในเมือง สวนสาธารณะ หรือมุมเล็กๆ ในร้านหนังสือที่ไม่ค่อยมีคน แค่ไปอยู่ตรงนั้นสัก 30 นาที- 1 ชั่วโมง ก็ชาร์จแบตพร้อมลุยกับชีวิตต่อแล้ว

Extrovert เป็นบุคคลที่ชอบเข้าสังคม พบปะสังสรรค์ผู้อื่นโดยธรรมชาติอยู่แล้ว จะลากไปคุยกับใคร หรือเข้าสังคมแบบไหนก็มาเลยไม่หวั่น ไม่จำเป็นต้องบอกล่วงหน้า บางทีมีปาร์ตี้ตอนเย็น บอกตอนเช้า คุณเธอก็หาเวลามาปรากฎตัวจนได้ถ้าไม่ติดนัดจริงๆ นี่คือเรื่องปกติของ Extro และเมื่อเข้างานมาก็จะหาเรื่องคุยกับคนนั้นคนนี้ หากิจกรรมทำ สร้างสีสันให้งานนั้นไม่น่าเบื่ออีกด้วยล่ะ
แต่ถ้าเธอจะเป็นฝ่ายชวน Introvert มางานสังคมสักอย่างที่ไม่ได้มีแค่คนสนิท แต่มีญาติห่างๆ, เพื่อนของเพื่อน, ผู้หลักผู้ใหญ่, คนอื่นที่แทบจะเรียกว่าเป็นคนแปลกหน้ามาด้วย ต้องบอกล่วงหน้ายาวๆ เลย เผื่อเตรียมตัวหาชุด หาหัวข้อสนทนา และที่เยอะสุดคือต้องเตรียมใจ!! หากจัดบ่าย ชวนเช้า ร้อยทั้งร้อยปฏิเสธแน่นอน พวกเขาไม่ได้อยากมางานที่ต้องเจอคนขนาดนั้นอยู่แล้ว ยิ่งมีเงื่อนไขที่ทำให้บอกปัดง่าย เขาไม่ไปแน่นอน และถ้าเป็นไปได้ ทักมาทางข้อความ อย่าโทร เพราะพวกเขาจะรู้สึกถูกรุกล้ำความเป็นส่วนตัวสุดๆ ค่ะ

เรื่องนี้แม้แต่คนไม่เคยรู้จัก Introvert ก็น่าจะพอรู้ว่า คนเหล่านี้โลกส่วนตัวสูงถึงสูงมาก ต้องการเวลาเพื่อคิด ไตร่ตรองอะไรเงียบๆ คนเดียว ไม่ว่าจะมีเรื่องสำคัญต้องคิด หรือแค่อยากนอนเปื่อยพักผ่อน พวกเขาก็อยากมีพื้นที่และเวลาส่วนตัวอยู่ดี ซึ่งจริงๆ จะ Extro หรือ Intro ก็ต้องมีพื้นที่ส่วนตัวทั้งนั้น เพียงแต่ Introvert จะต้องการเยอะเป็นพิเศษเท่านั้นเองค่ะ
ซึ่งแม้แต่ Introvert แล้ว ก็ยังมีหลายระดับแตกย่อยออกไปอีก เพราะสเกลพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคนไม่เท่ากัน เช่น บางคนแค่ขอมุมเล็กๆ ในห้องส่วนตัวก็พอแล้ว จะมีคนเดินไปมาหน้าห้องบ้าง หรือเคาะประตูเข้ามาคุยบ้างก็ไม่เป็นไร แต่บางคนต้องแยกบ้านเป็นสัดเป็นส่วนเลยถึงจะพอใจ ห้ามคนรบกวนเด็ดขาด หากเธอเป็นคนที่ต้องอยู่รวมกับ Introvert ก็ต้องดูว่าจะปรับตัวเข้าหายังไง หาก ' เยอะ ' เกินไปจนรบกวนผู้อื่น เจอกันตรงกลางได้ไหม ขอแค่เปิดใจคุย พวกเขาก็พร้อมรับฟังค่ะ ( ถ้าไม่ใช่คนหัวดื้อจริงๆ ซึ่งคนแบบนั้น Extro ก็มี จะบุคลิกแบบไหนไม่ใช่ประเด็นแล้วล่ะ )

อย่างที่เกริ่นไปก่อนเข้าบทความว่า สมัยก่อนคนไทยไม่ค่อยมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของบุคลิก Introvert มากนัก อาจเพราะลักษณะนิสัยคนไทยชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่มสังคม ไปมาหาสู่ ต้องรู้จักเข้าหาผู้ใหญ่ ช่างพูดช่างเจรจาจึงจะเป็นที่รักของคนอื่น พอเป็นคนโลกส่วนตัวสูง ไม่ค่อยชวนใครคุย ( แม้จะไม่ได้ทำตัวเกเรที่ไหนเลยก็เถอะ ) ก็จะถูกตั้งแง่ว่าเป็นเด็กมีปัญหา หนักเข้าก็นินทาว่ามีภาวะทางจิต เข้ากับคนอื่นไม่ได้ ต้องพาไปหาจิตแพทย์ etc. ทำให้คนเหล่านั้นใช้ชีวิตยากขึ้นเสียอย่างนั้น #อยู่ดีๆก็โดนเหม็น TT
ขอแก้ความเข้าใจผิดไว้ตรงนี้เลยว่า Introvert ก็แค่บุคลิกหนึ่ง นิสัยอย่างหนึ่ง เหมือนคนกินมูมมาม คนเรียบร้อย คนสกปรก คนสะอาด ที่ก็ไม่ได้เกี่ยวกับปัญหาทางจิตใจแต่อย่างใด ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดที่น่ากลัว ใครๆ ก็มีบุคลิกแบบนี้ได้ ไม่ใช่แค่ตัวเราเท่านั้น แต่อีกหลายล้านคนบนโลกใบนี้ก็เป็น Introvert บางทีเราก็ต้องเข้าใจว่า การที่เราต่าง ( หรือคนอื่นต่าง ) ไม่ได้แปลว่าเขาผิด เขาแค่ไม่เหมือนเธอก็เท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินหรือยัดเยียดข้อหาแย่ๆ ใส่เขาค่ะ

-----------------------------------
เรื่องราวที่ชาว Introvert อยากให้ชาวโลกได้รับรู้ก็ประมาณนี้~~ แม้บุคลิกและความคิดหลายอย่างของคนโลกส่วนตัวสูง อาจไม่ค่อยเหมือนกับคนส่วนมาก จนมักโดนมองว่าอยากทำตัวเด่น นอกคอก แต่ที่จริงคนเหล่านี้ไม่ได้อยากให้คนอื่นมาสนใจหรือมาสงสาร สิ่งที่ต้องการก็แค่มุมเล็กๆ ให้ได้ชาร์จพลัง ให้พื้นที่กันในเวลาส่วนตัว เคารพซึ่งกันและกันก็เท่านั้น ซึ่งนั่นก็ควรจะเป็นเงื่อนไขพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันในสังคมอยู่แล้ว
สาวๆ คนไหนที่เข้าข่าย Introvert หวังว่าเธอจะเข้าใจตัวตนของตัวเองมากขึ้น รู้เท่าทันอาการเหนื่อย พลังหมดเมื่ออยู่กับคนเยอะเป็นเวลานาน รู้หนทางชาร์จแบตให้ตัวเองอยู่เสมอ ส่วนใครที่กำลังหาวิธีปรับตัวอยู่ร่วมกับแก๊งคนโลกส่วนตัวสูง ก็คงได้ทริคกลับไปพอสมควรเนอะ ยังไงสังคมในโลกนี้ก็ไม่ได้มีแค่คนบุคลิกเดียว เรียนรู้ที่จะอยู่รวมกันอย่างหลากหลายให้เป็นสุขจะดีกว่า (/^-^(^ ^*)/ ♡ สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่คราวหน้า บ๊ายบายค่า
Comments