รูปภาพ:https://pa1.narvii.com/6729/d9bce3e31ddc6530a767529699209c3afc6a682c_hq.gif

สวัสดีค่าา สาวๆSistaCafeที่น่ารักสุดคิ้วท์ๆ ทุกคนช่วงนี้ก็ยังอยู่ในเดือนกุมภาพันธ์ กับควันหลงเทศกาลวาเลนไทน์กันอยู่เนอะ! หากพูดถึงวันแห่งความรัก สาวซิสจะคิดถึงเรื่องอะไรเป็นอันดับแรก? ที่เราเห็นผ่านตากันบ่อยๆ ก็คงเป็นการให้ดอกไม้ ช็อกโกแลต แลกการ์ด ติดสติ๊กเกอร์หัวใจที่ปกเสื้อสมัยเรียน แอบไปสารภาพรักกับคนที่ชอบ ถ้ามีแฟนก็พากันไปเดตซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นธรรมเนียมที่ทำกันทั่วโลก แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า ประเพณีเหล่านี้มันมีประวัติหรือที่มาจากอะไรกันแน่?คนที่ยังไม่เคยศึกษาก็อาจคิดว่า มีประวัติริเริ่มจากความรักมุ้งมิ้ง หัวใจสีชมพูแน่เลย แต่ที่จริงมันมีความหมายซับซ้อนและดราม่ากว่านั้นเยอะมากๆ!แม้แต่การพาไปเลี้ยงข้าวในร้านหรู ก็มีรากฐานจากประเพณีเก่าแก่เกี่ยวกับการแต่งงานในสมัยโบราณ ในบทความนี้เราจะพาสาวๆ ไปรู้ที่มาของวันวาเลนไทน์ทั้งหมด 7 ข้อที่อาจไม่เคยรู้มาก่อนจะมีอะไรบ้างเราไปอ่านพร้อมๆ กันเลยค่า

1. ในสมัยก่อน วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็น ' เทศกาลตั้งครรภ์ ' ของชาวโรมัน

รูปภาพ:https://www.thesun.co.uk/wp-content/uploads/2020/02/NINTCHDBPICT000562183344-e1581438782213.jpg

หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า ทำไมทั้งโลกต้องกำหนดให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นวันที่แสดงถึงความรัก อาจจะน่าตกใจ แต่มันคือ ' วันตาย ' ของนักบวชคาทอลิกชื่อวาเลนไทน์ ( St. Valentine ) ที่ถูกประหารชีวิตโดยจักรพรรดิชาวโรมัน พระเจ้าคลอเดียสที่สองในช่วงคริสตศักราชที่ 3


ซึ่งมีการคาดเดาสาเหตุการประหารกันมากมาย อย่างไรก็ตาม ในยุคโบราณ ช่วงวันที่ 13-15 กุมภาของทุกปีคือเทศกาลนอกรีตอย่าง ' the pagan festival ' ค่ะ

ในเทศกาลนี้ คนโรมันจะเฉลิมฉลองด้วยการบูชายัญแพะ สุนัขและเฆี่ยนตีผู้หญิงอย่างโหดร้าย! ซึ่งไม่ได้ตีเบาๆ พอเป็นพิธีนะ แต่ตีให้เจ็บปวดเป็นแผลจริงๆ เพราะมีความเชื่อว่าการทำแบบนี้จะทำให้ผู้หญิง ' เจริญพันธุ์ ' หรือตั้งครรภ์ มีลูกได้มากขึ้น ซึ่งผู้หญิงในสมัยนั้นก็ต่อคิวเรียงให้ถูกโบยตีจนเลือดอาบจริงๆ

ในช่วงศตวรรษที่ 5 พระสันตะปาปา Gelasius I ประกาศให้พิธีนี้ผิดกฎหมาย และสถาปนา 14 กุมภาพันธ์เป็นวันวาเลนไทน์อย่างเป็นทางการ ถือว่าเป็นพิธีที่มาก่อนวันวาเลนไทน์ในโลกใบนี้ที่เหี้ยมโหดที่สุดแล้ว

2. ชื่อ ' วาเลนไทน์ ' มาจากชื่อนักบวชชื่อ เซนต์ วาเลนไทน์ ที่สละชีวิตเพื่อความรัก

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/ab7987cafa6bb04702d906c52a7562c2.jpg

มีตำนานหนึ่งกล่าวไว้ว่า ตอนที่นักบวชวาเลนไทน์ถูกจองจำในคุก เพราะไปทำพิธีแต่งงานให้คู่รักที่อายุน้อย ซึ่งผิดกับกฎหมายของจักรพรรดิในสมัยนั้น เขาได้สวดภาวนาให้กับลูกสาวของหนึ่งในผู้พิพากษาที่ทำการตัดสินคดี และรักษาอาการตาบอดของเธอได้!


ก่อนเขาจะถูกประหารชีวิต เขาได้เขียนจดหมายและลงท้ายด้วยคำว่า " จากวาเลนไทน์ของเธอ ( from your valentine ) '


ไม่ว่าแท้จริงแล้วจดหมายนั้นจะแสดงความรักในเชิงโรแมนติกหรือชู้สาวหรือไม่ ( ซึ่งก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ) การกระทำนี้ก็ถูกมองว่าเป็นความหลงใหลและความห่วงใย ซึ่งนำมาสู่การแสดงความรักในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปีค่ะ

3. รูปร่างของ ' หัวใจ ' ที่ใช้กันแพร่หลาย มีที่มาจาก ' พืช '

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/ed63793e352bb3060c95255b20cdd950.jpg

ข้อนี้คิดว่าสาวๆ หลายคนอาจจะไม่รู้ แต่รูปร่างหัวใจที่แพร่หลายไปทั่วโลกนั้น มันไม่ได้มาจากหัวใจในร่างกายคนจริงๆ นะคะซิส

ถ้าเคยดูซีรีส์แนวหมอๆ ที่ต้องผ่าตัด เห็นอนาโตมีร่างกายก็จะรู้ว่าหัวใจจริงๆ จะเหมือนก้อนทรงกลมที่มีเส้นเลือดและกล้ามเนื้อพันกันมากกว่า ส่วนหัวใจที่เป็นสัญลักษณ์ของความรักที่วาดง่ายกว่ากันเยอะนั้น ถ้าเอาจริงๆ ก็ไม่สามารถระบุได้ชัดว่ามาจากอะไรกันแน่

แต่ความเป็นไปได้อย่างหนึ่งคือรูปทรงมันไปคล้ายกับพืชชื่อ ' silphium ' ที่ปัจจุบันนี้ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว สมัยก่อนเคยพบที่เมือง cyrene ในทวีปแอฟริกา โดยนำไปใช้ในรูปแบบของสีผสมอาหาร, น้ำเชื่อมแก้ไอและที่โด่งดังที่สุดคือนำมาทำเป็น ' ยาคุมกำเนิด '

หรือบางความเชื่อก็กล่าวว่า รูปทรงหัวใจนี้มีความเชื่อมโยงกับเพศสัมพันธ์ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับความรัก หรือเป็นตัวแทนของรูปทรงหน้าอก บั้นท้าย อวัยวะเพศ หรือรูปวาดคร่าวๆ ของหัวใจทางกายภาพ เป็นต้นค่ะ

4. 'ดอกกุหลาบสีแดง' หมายถึงสิเน่หา (romance) ในภาษาดอกไม้ของชาววิกตอเรียน

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/7d28d28f5c468191db5518eaee0041e8.jpg

ย้อนกลับไปในสมัยวิกตอเรียน ผู้คนจะแสดงออกทางความรู้สึกผ่าน ' floriography ' หรือภาษาดอกไม้ ซึ่งการให้ดอกไม้ชนิดไหนกับใครจะมีความหมายแฝงที่ค่อนข้างชัดเจน เช่น ดอกกุหลาบสีแดงหมายถึง ' สิเน่หา ( romance ) '

ซึ่งความหมายนี้ก็นำมาใช้ถึงปัจจุบัน เช่นในสหรัฐอเมริกาที่เป็นตลาดของวาเลนไทน์ที่ใหญ่อันดับต้นๆ จะซื้อดอกกุหลาบจำนวนมหาศาลจากฟาร์มในโคลัมเบียและเอกวาดอร์ที่ค่าแรงถูกมากๆ และใช้เวลาขนส่งเพียง 3-4 วันเท่านั้น

โดยผู้ปลูกมีการควบคุมอุณหภูมิในการเติบโตของดอกกุหลาบ เพื่อให้ดอกเต่งตูมและบานสวยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์พอดี


จะมองว่าคนปลูกดอกไม้ปรับตัวรับกับความต้องการซื้อช่วงเทศกาล หรือมองว่าเป็นมาร์เกตติ้งชั้นยอดที่ทำให้คนขายดอกไม้มีกำไรก็เป็นได้ทั้งหมด เพราะในเมืองไทยเอง ดอกกุหลาบก็จะถูกโก่งราคาสูงลิบในช่วงนี้เช่นกัน

5. ' ช็อกโกแลต ' ในวันวาเลนไทน์ เป็นแค่การตลาดที่คนฮิตมากๆ เท่านั้น

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/eb920660ace046e0e79ec87683ec7c7d.jpg

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมขนมหวานที่ฮิตสุดๆ ในวันวาเลนไทน์ต้องเป็น ' ช็อกโกแลต ' โดยเฉพาะช็อกโกแลตหลายไส้ หลากสีที่อยู่ในกล่อง เป็นของขวัญสิ้นคิดที่มอบให้คนรักได้ง่ายๆ เลย ก็ต้องย้อนเล่าไปถึง Richard Cadbury เจ้าของบริษัทช็อกโกแลต Cadbury ของอังกฤษค่ะ


หลังจากเขาและน้องชายรับกิจการขายช็อกโกแลตของที่บ้านมาทำต่อ เขาพบวิธีที่จะสกัดโกโก้บัตเตอร์แท้ๆ จากเมล็ดเพื่อนำช็อกโกแลตแบบดื่ม ทำไปทำมาก็เหลือโกโก้บัตเตอร์เยอะกว่าที่คิดไว้ เขาเลยนำมาทำเป็น ' ช็อกโกแลตแบบเคี้ยว ' อีกชนิดซะเลย

หลังจากนั้นเขาก็เริ่มคิดอุบายทางธุรกิจ เพื่อจะมียอดขายช็อกโกแลตให้มากขึ้นเพื่อระบายโกโก้บัตเตอร์เหล่านั้นออกไป ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่าจะทำให้เปลี่ยนอุตสาหกรรมการขายขนมชนิดนี้โดยสิ้นเชิง!

Cadbury เริ่มออกแบบลวดลายกล่องสวยๆ ที่ใส่ช็อกโกแลตแบบใหม่ ทำแพ็กเกจพิเศษเฉพาะวาเลนไทน์ มีรูปคิวปิดและดอกกุหลาบ มีความเชื่อว่าเขานี่แหละ ทำกล่องช็อกโกแลตรูปทรงหัวใจเป็นเจ้าแรก แม้จะไม่ได้จดสิทธิบัตรไว้ก็ตาม


ดังนั้นใครที่ยึดถือว่าต้องซื้อช็อกโกแลตให้เพื่อนให้แฟน ให้รู้ไว้ว่ามันไม่มีความหมายลึกซึ้งในอดีตอะไรเลยค่ะ แค่เป็นการตลาดปล่อยของให้ได้เยอะๆ ของเจ้าของโรงงานช็อกโกแลตเท่านั้น ( แต่ก็ถือว่าฉลาดมากเลยละ )

6. คิวปิด (กามเทพแผลงศร) แท้จริงแล้วเป็น ' เทพเจ้าแห่งความรัก ' ในตำนานกรีก

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/e9c5e8f90af6a06b5dd39f1bd3d53bad.jpg

ใครที่จบเอกวรรณกรรม ชอบดูหนังหรือการ์ตูนเกี่ยวกับโลกของเทพเจ้ากรีก หรือเคยอ่านเทพนิยายปกรณัมของกรีกและโรมันมาบ้าง หนึ่งในเทพเจ้าที่จะมองข้ามไปไม่ได้ก็คือ ' คิวปิด '

ที่มีรูปลักษณ์เป็นเด็กชายตัวน้อยมีปีกสองข้าง คอยบินหาหนุ่มสาวเพื่อแผลงศรความรักนั่นเอง! ที่จริงแล้วก่อนจะถูกเรียกว่าคิวปิด คนกรีกจะเรียกว่า ' อีรอส เทพเจ้าแห่งความรัก '


อีรอสยังถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของเซ็กซ์ เพราะมีสัมพันธ์กับทั้งมนุษย์และพระเจ้า เพราะในบางตำนาน อีรอสไม่ได้มีแค่ร่างเด็ก แต่เป็นหนุ่มกำยำร่างสูงใหญ่ที่หน้าตาดีมาก

ตามตำนานกรีกแล้วนั้น คิวปิดจะมีศรเพียงสองคัน คืออันที่ทำให้ตกหลุมรักกัน และอันที่ทำให้คนเกลียดกัน แต่คนโรมันใส่เทพองค์นี้ไปในตำนานของตัวเองและเรียกว่า ' คิวปิด ลูกชายวีนัส เทพีแห่งความรัก ' แทน

ในช่วงยุคเรอเนสซองต์ มีศิลปินที่สรรสร้างรูปปั้นคิวปิดที่มองแล้วคล้ายกับเด็กเปลือยกาย ซึ่งรูปปั้นกลับกลายเป็นดังพลุแตก กลายเป็นอิมเมจภาพจำของวันวาเลนไทน์ไปในที่สุดค่ะ

7. ' ลูกไม้และริบบิ้น ' เชื่อมโยงกับความรัก มาตั้งแต่สมัยโบราณ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/1f0a6fb897b1f56bef68c62ef127899d.jpg

เป็นความจริงว่าในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์นั้น แม้แต่กล่องช็อกโกแลตที่ออกแบบมาอย่างเรียบง่ายที่สุด ก็มักจะมีการวาด ' ริบบิ้นและลูกไม้ ' ประดับอยู่บนตัวกล่องเสมอ


หรือถ้าซื้อยี่ห้อพรีเมียมราคาแพงหน่อยก็จะห่อริบบิ้นแบบที่จับต้องได้จริงๆ มาให้เลย ไม่ใช่แค่ให้ดูสวยละมุนอ่อนหวานเท่านั้น แต่เรื่องนี้มีที่มาซับซ้อนกว่านั้นค่ะ!

ทั้งลูกไม้และริบบิ้น เป็นชิ้นส่วนของเครื่องแต่งกายที่มีความหมายสำคัญในประวัติศาสตร์ช่วงยุคกลาง เหล่านักรบที่ต้องออกไปรบในช่วงสงคราม จะนำริบบิ้นจากคนรักติดตัวไปด้วยเสมอ เพราะเป็นเครื่องหมายแสดงถึงความโชคดี รอดชีวิตกลับมาจากสงครามครั้งนั้น


และลูกไม้ นอกจากเป็นของประดับส่วนหนึ่งของริบบิ้นด้วยนั้น คำว่า Lace ( ลูกไม้ ) ในภาษาอังกฤษยังมาจากรากศัพท์ภาษาละตินที่แปลว่า ' ยึดครอง ' หรือมีความหมายแฝงว่าได้ยึดหัวใจของคนคนนั้นไปแล้วนั่นเอง #เขินนน

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/6e/56/e6/6e56e6e8445f78e5bd8de190e7703cbe.gif

------------------------------------------

อ่านจบถึงตรงนี้ คิดว่าซิสน่าจะได้รู้จักประวัติของวันวาเลนไทน์กันมากขึ้นแล้วเนอะ ~('▽^人) มีทั้งแบบ fun facts สนุกประดับความรู้ และแบบที่อาจจะดาร์ก มืดมนกว่าที่ซิสคิด แต่มันก็คือความจริงที่เกิดขึ้นในอดีต และบางการกระทำก็ส่งผลมาถึงปัจจุบัน สิ่งที่เบื้องหน้ามองว่าสวยงาม อาจจะมาจากรอยเลือดและคราบน้ำตา ซึ่งก็ไม่ต่างกับความรักในชีวิตจริงที่ไม่ได้มีแต่ด้านสวีทหวาน แต่ถ้าคิดจะจริงจังก็มีอุปสรรคให้ฝ่าฟัน ทะเลาะจนเสียน้ำตาได้เช่นกันสุดท้ายแล้ว ความรักที่จะยืนยาวอย่างแท้จริง ไม่ได้มีองค์ประกอบแค่สิเน่หา ดอกไม้ ช็อกโกแลตเท่านั้น แต่ต้องมีความรัก ความเข้าใจ และพร้อมจะจับมือก้าวเดินไปด้วยกันในทุกๆ วัน ไม่ใช่แค่วันวาเลนไทน์เท่านั้น ^^สำหรับวันนี้ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่คราวหน้าค่ะ บ๊ายบายย