รูปภาพ:https://imageio.forbes.com/specials-images/imageserve/6151cb41249d4c516b21a5fd/Vlogger-making-making-video-at-home-in-stylish-urban-apartment/960x0.jpg?format=jpg&width=960

ปัจจุบันนี้ความอยากได้อยากมี กำลังจะกลายเป็นค่านิยมผิดๆ ในหมู่มนุษย์อย่างเราๆแม้สิ่งเหล่านั้นจะไม่จำเป็นต่อชีวิต แม้มันจะเป็นสิ่งที่ไม่มีประโยชน์สักเท่าไหร่ และอาจจะรวมไปถึงนั่นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราชอบด้วยซ้ำ แต่เพราะ‘ของมันต้องมี’หรือ‘เขาบอกว่าดีต้องลอง’คำพูดเหล่านี้ กำลังครอบงำเราขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดกับกระแสสุดร้อนแรงใน TikTok ที่ชาวตะวันตกออกมาDeinfluencingกัน เรียกได้ว่ช็อตฟีลเหล่าอินฟลูช่างแนะแบบสุดๆแล้วDeinfluencing ที่ว่านี้มันคือเทรนด์อะไรวันนี้เรามาทำความรู้จักเทรนด์นี้ไปพร้อมๆ กัน พร้อมหาคำตอบว่าทำไมหลายๆ คนถึงได้ออกมาแชร์กันเยอะมาก! ไปอ่านกันเลยค่ะ

Deinfluencing เทรนด์นี้ใน TikTok คืออะไร ?

รูปภาพ:https://media.licdn.com/dms/image/C4D22AQGOv9v80H7j3Q/feedshare-shrink_800/0/1674974451664?e=2147483647&v=beta&t=HbAL0a8B5rBZ_M9sAdymUHfGVWh5EJYfsaQTpGcH3EI

Deinfluencingถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือการออกมาแชร์ว่า สิ่งไหนไม่ควรจะซื้อหรือถ้าพูดแบบเอาฮาเลย เทรนด์นี้ที่อินฟลูเอนเซอร์ชาวตะวันตกออกมาแชร์ เปรียบเหมือนการช็อตฟีล beauty bloggerนั่นเองค่ะ

รูปภาพ:https://i.kym-cdn.com/entries/icons/original/000/043/754/dicover.jpg

แล้วกระแสนี้มันเกิดขึ้นมาได้ยังไง ต้องบอกก่อนว่าปัจจุบันนี้รีวิว บล็อก หรือคลิปต่างๆ ของ influencer และ beauty blogger มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของคนหลายๆ คนมากขึ้นยิ่งถ้าคนๆ นั้นมีผู้ติดตามเยอะ ก็ยิ่งมีอิทธิพลกับความอยากได้ของคนเรามากขึ้นตามไปด้วย พอเห็นเขามี เราก็อยากมี แม้สิ่งนั้นจะไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องมี แต่ถ้าเขาบอกว่าต้องมี เราก็อยากจะซื้อ ซึ่งมันอาจเกินความจำเป็นไปแล้ว และด้วยเหตุนี้ วิธีคิดแบบนี้เองจึงอาจทำให้เกิดOverconsumptionหรือการบริโภคที่มากเกินไปและยังส่งผลเสียต่อโลกเรามากๆ เลยด้วย

รูปภาพ:https://i.kym-cdn.com/entries/icons/original/000/043/754/dicover.jpg

ดังนั้นอินฟลูเอนเซอร์ชาวตะวันตกหลายๆ คนจึงออกมาแชร์เทรนด์ Deinfluencing กันเยอะมากๆ แม้ส่วนมากจะเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของแต่ละคน แต่ดูๆ แล้ว มันก็มีความเป็นไปได้และจริงอยู่พอสมควร หากถามว่าเทรนด์Deinfluencing  บอกอะไรเราบ้าง ?การที่เราเชื่อคำเคลม หรือการที่เราตัดสินใจซื้อบางอย่างจากคำบอกเล่าของคนๆ นึง อาจไม่ได้เกิดประโยชน์เสมอไปของบางอย่างที่ไม่จำเป็นต้องมี ก็ไม่ต้องซื้อก็ได้ เราสามารถเสพความสวยจากภาพ หรือคำบอกเล่าของคนรีวิวได้ บางคนยอมเสียเงิน ยอมเป็นหนี้ ยอมซื้อสินค้าซ้ำกับที่มีอยู่เดิม เพราะอยากอินเทรนด์ อยากมีแบบไอดอล คนดัง หรือคนที่เราติดตาม จนลืมคิดไปว่า บางทีนี่อาจจะเป็นการตัดสินใจที่เกินตัวไปสักนิด ซึ่งท้ายที่สุดมันอาจจะกลายเป็นผลดีเพียงชั่วคราว และตามมาด้วยผลเสียที่ยาวนานในอนาคต

รูปภาพ:https://brands.joinstatus.com/hubfs/August%202021%20Blogs/Resized%20Cover%20Photos/A-Influencer%20Collaboration%20Dos%20_%20Donts%20Every%20Brand%20Should%20Know.jpg

แน่นอนว่าเทรนด์ Deinfluencing ยังบอกเล่าถึงผลกระทบของการบริโภคเกินความจำเป็นนี้อีกว่า การที่เราซื้อหรืออยากได้ของบางอย่างที่ไม่จำเป็น เพียงเพราะซื้อตามใครสักคนอาจจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของมลพิษและการก่อให้เกิดขยะล้นโลกซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นผลเสียต่อโลกของเราแบบสุดๆปัจจุบันนี้มีคนออกมารณรงค์เรื่องโลกและเรื่องการลดขยะกันมากขึ้น แต่มันจะหมดไปได้ยังไง ในเมื่อความอยากได้ อยากมีของคนเรามันมีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน เราอาจจะคิดว่าของแค่นี้เองมันจะไปเพิ่มขยะได้ยังไง มันจะไปทำร้ายโลกอะไรมากมายจะบอกว่ามีผลนะ! เพราะคนที่พูดแบบนี้ไม่ใช่แค่เราคนเดียว แต่ยังมีคนที่คิดแบบเดียวกันอยู่อีกมาก เมื่อความต้องการที่ไม่จำเป็นมีมากขึ้น ก็ส่งผลให้เกิดขยะมากขึ้นเช่นกัน ถ้าลองนับๆ รวมแล้ว ก็เยอะอยู่นะ เพราะงั้นคงต้องลองเปลี่ยนความคิดกันดูแล้ว

รูปภาพ:https://static.wixstatic.com/media/87d3bb_26120012c96b4e18be4845e79c4926b7~mv2.png/v1/fit/w_1000%2Ch_768%2Cal_c/file.png

ส่วนใหญ่อินฟลูเอนเซอร์ที่ออกมาแชร์เทรนด์ Deinfluencing ความคิดเห็นต่างๆ ก็มักเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล ฉะนั้นฟังหูไว้หู อะไรที่คิดว่าใช่ ก็ลองเอามาปรับใช้ดู ท้ายที่สุดแล้ว ก็เป็นตัวเราเองนั่นแหละ ที่ต้องมานั่งคิดว่า สิ่งนี้จำเป็นมั้ย?อย่าพยายามเปลี่ยน want ให้เป็น need ของบางอย่าง ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ถ้าเรามีสติในการตัดสินใจซื้อมากขึ้น ผลดีต่างๆ ก็จะตามมาด้วย ไม่ลำบากเงินในกระเป๋า ไม่ลำบากโลก แถมยังไม่ลำบากตัวเอง ถ้าไม่เชื่อ ก็ลองดู!

รูปภาพ:https://wbn.co.nz/wp-content/uploads/2020/08/Influencer-Rules.jpg

อย่าลืมนะว่าเทรนด์ใหม่ๆ มันเกิดขึ้นทุกวัน และการที่เราจะตามทุกเทรนด์ ทุกกระแสให้ทันนั้น มันทำไม่ได้หรอกค่ะเพราะงั้นเราเข้าใจว่า การที่เพื่อนๆ อินกับคำพูด คำเชิญชวนของคนที่ตัวเองติดตามและชื่นชอบ เห็นเขามีอะไร ก็อยากมีบ้าง มันไม่แปลก แต่สิ่งที่เรากำลังจะบอกคือ สิ่งที่คนคนนั้นมี เราอาจจะไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ ลองคิดดูว่า ถ้า 10 วัน เขาแนะนำสิ่งของให้เราซื้อตาม 10 ชิ้น ซึ่งแต่ละชิ้นราคาก็แตกต่างกัน มีทั้งถูกและแพง ถามหน่อยว่าเราจะซื้อตามเขาทุกชิ้นไหวเหรอ ถ้าซื้อมาแล้วมันไม่เหมาะกับเรา หรือซื้อมาแต่สุดท้ายกองอยู่ใต้โต๊ะ มันคุ้มมั้ย?ลองถามตัวเองก่อนตัดสินใจซื้ออะไร ว่าสิ่งที่กำลังจะจ่ายไปนั้น มันคุ้มค่าที่จะเสียรึเปล่า?

รูปภาพ:https://www.insidemarketing.it/wp-content/uploads/2021/10/beauty-e-influencer-marketing.jpg

ทั้งนี้ทั้งนั้น การตัดสินใจทั้งหมด ไม่ได้อยู่ที่ใคร แต่อยู่ที่ตัวเราเอง สมมติถ้าเพื่อนๆ มีเงินเหลือใช้มากๆ อยากได้อะไรก็ซื้อได้ แต่แนะนำว่ายังไงก็ต้องคิดก่อนซื้อหน่อยน้า หรือบางคนเป็นมนุษย์เงินเดือน จะใช้จ่ายอะไร ควรคิดหน้าคิดหลังให้ดีๆ ความอยากได้อยากมีจริงอยู่ที่ไม่ว่าใครๆ ก็มีความรู้สึกนี้ได้เป็นเรื่องธรรมดาแต่ขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะบาลานซ์ความต้องการของตัวเองได้ไหม รู้จักวิธีระงับความต้องการของตัวเองรึเปล่าลองเก็บไปคิดกันดูเนอะสำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนแล้ว บ๊ายบาย