ฮัลโหล คอซีรีส์ มีใครบ้างไม่รู้จัก 'อีโดฮยอน' ?
บทความนี้จะชวนเพื่อน ๆ มา Talk เมาท์มอยเกี่ยวกับซีรีส์เกาหลีเกาใจกันหน่อย เกี่ยวกับซีรีส์ The Glory ที่หลายคนหยิบมาเมาท์มอยพูดคุยกันเยอะ
ทั้งเนื้อเรื่องที่เข้มข้นน่าติดตาม เรื่องตีแผ่สังคมที่ใช้ความรุนแรง ปัญหาครอบครัว การแบ่งชนชั้นต่าง ๆ แต่เห็น Talk ในเรื่องซีเรียสกันมาเยอะแล้วบทความนี้ขอฉีก ชวนเพื่อน ๆ มา Talk แบบฮีลใจกันหน่อย อย่างที่บอกว่าซีรีส์ The Glory ค่อนข้างน่าติดตาม
ดูไปก็ติดไป
นอกจากอยากรู้ว่านางเอกจะแก้แค้นยังไง ก็อยู่ต่อเพราะพระเอกด้วยนี่แหละ คนอะไรแสนดีเหลือเกิน
และไม่ได้แสนดีแค่ในซีรีส์ด้วยนะ แต่ตัวจริง " อีโดฮยอน " ก็อบอุ่นแสนดีไม่แพ้กัน
บทความความเลยจะชวนเพื่อน ๆ พูดคุยไปทำความรู้จัก
ถอดคาแรคเตอร์ " อีโดฮยอน " ที่ขนาดไม่ใช่แฟนคลับก็ยังต้องตกหลุมรักหนุ่มคนนี้ ทำไมหนุ่มคนนี้ถึงไม่ควรมีคนเดียวบนโลก ไปทำความรู้จักเขากัน
สาเหตุที่ใครๆ ก็ชอบคาแรคเตอร์แบบ 'อีโดฮยอน' พระเอกซีรีส์ The Glory
อีโดฮยอนเดบิวต์เป็นนักแสดงเต็มตัวผ่านซีรีส์ฟีลกู๊ดระดับตำนานอย่าง
Prison Playbook (2017)
จากนั้นจึงเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาอย่างต่อเนื่อง ภาพจำของหนุ่มคนนี้คือการสวมบทเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาฐานะไม่ค่อยดี ชีวิตมักเผชิญอุปสรรคมาทำให้ลาออกกลางคันอยู่บ่อยครั้ง นั่นจึงเป็นที่มาของฉายา
พระเอกผู้เรียนไม่จบ
ไปโดยปริยาย ทว่าวันนี้อีโดฮยอนหลุดพ้นจากสมญานามดังกล่าวด้วยผลงานที่ท้าทายความสามารถไปอีกขั้น เลือกสรรงานอย่างพิถีพิถันจนเชื่อมือได้ นอกจากการถ่ายทอดเป็นศัลยแพทย์สุดอบอุ่นใน
The Glory (2022)
แล้ว เรากำลังจะได้เห็นอีโดฮยอนในมาดอัยการหนุ่มไฟแรงที่ประสบอุบัติเหตุจนสมองกระทบกระเทือน ส่งผลให้ระดับสติปัญญาเทียบเคียงเท่ากับเด็กเจ็ดขวบ ปักหมุดรอขนลุกกับฝีมือของเขาได้ในซีรีส์
The Good Bad Mother
เริ่มตอนแรกวันที่ 26 เมษายนนี้
อีโดฮยอน นักแสดงหนุ่มที่มุ่งมั่นตั้งใจ ท้าทายตัวเองในทุกบทบาท
อีโดฮยอน
เกิดเมื่อวันที่ 11 เมษายน ปี 1995 หนุ่มราศีเมษคนนี้เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนมีฝันอีกหลายชีวิต รู้หรือไม่ว่าเขาเกือบจะไม่ได้ยืนอยู่ในวงการบันเทิง เนื่องจากเคยถูกต่อต้านอย่างหนักจากคุณพ่อที่ห่วงใยต่ออนาคตของลูกชาย อีโดฮยอนผู้ไม่ยอมแพ้จึงเริ่มทำงานนอกเวลาเพื่อเก็บเงินไปเรียนการแสดงด้วยความตั้งใจเต็มเปี่ยม กระทั่งวันหนึ่งคุณพ่อได้เห็นโปสเตอร์ละครเวทีที่มีใบหน้าของลูกชายติดอยู่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน วันนั้นเองที่อีโดฮยอนเปล่งประกายอยู่บนเวที พิสูจน์ตัวเองด้วยความมุ่งมั่นจนท่านยอมรับและสนับสนุนอย่างเต็มกำลังมาจนถึงทุกวันนี้
อีโดฮยอน
เกิดเมื่อวันที่ 11 เมษายน ปี 1995 หนุ่มราศีเมษคนนี้เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนมีฝันอีกหลายชีวิต รู้หรือไม่ว่าเขาเกือบจะไม่ได้ยืนอยู่ในวงการบันเทิง เนื่องจากเคยถูกต่อต้านอย่างหนักจากคุณพ่อที่ห่วงใยต่ออนาคตของลูกชาย อีโดฮยอนผู้ไม่ยอมแพ้จึงเริ่มทำงานนอกเวลาเพื่อเก็บเงินไปเรียนการแสดงด้วยความตั้งใจเต็มเปี่ยม กระทั่งวันหนึ่งคุณพ่อได้เห็นโปสเตอร์ละครเวทีที่มีใบหน้าของลูกชายติดอยู่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน วันนั้นเองที่อีโดฮยอนเปล่งประกายอยู่บนเวที พิสูจน์ตัวเองด้วยความมุ่งมั่นจนท่านยอมรับและสนับสนุนอย่างเต็มกำลังมาจนถึงทุกวันนี้
ครอบครัวที่บ้านก็ไม่ได้มีฐานะ น้องให้สัมภาษณ์ว่าแม่ทำงานส่งหนังสือพิมพ์มานาน หวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่พ่อ แม่ น้องชาย พักจากการทำงานแล้วใช้เงินที่ผมหามา ต้องเป็นแบบนั้นผมถึงจะเข้ากรมอย่างสบายใจ ก่อนหน้านี้น้องให้เงินครอบครัวไปเล็กน้อย และพ่อแม่เขาบอกว่าจะเอาไปใช้หนี้
เรื่องของความมุ่นมั่นตั้งใจในสายงานแสดงของอีโดฮยอน น่าจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ทำให้หลายคนประทับใจ สำหรับคอซีรีส์เกาหลีคาดว่าน่าจะเคยเห็นนักแสดงที่ชื่อว่า " อีโดฮยอน " ผ่านตาจากซีรีส์ที่เคยดูมาบ้าง
เพราะนักแสดงหนุ่มคนนี้อยู่มาแล้วทุกบทบาท ไม่ว่าจะบทเล็ก บทใหญ่ หรือรับเชิญ แถมหนุ่มคนนี้ยังทำเต็มที่ในทุกบทบาทอีกด้วย
อีโดฮยอนเคยเล่าในรายการหนึ่งว่าเขาปรับโทนเสียงตัวเองให้ต่ำลง เพื่อให้เข้ากับบทวัยผู้ใหญ่ในเรื่อง 18 Again
และเขายังท้าทายตัวเองในเรื่องของการแสดงอยู่เรื่อย ๆ จากบทบาทที่เปลี่ยนไปเรื่อยจากซีรีส์ที่เขาแสดง
อย่างซีรีส์เรื่องใหม่ที่กำลังออนแอร์ The Good Bad Mother อีโดฮยอนรับบทเป็นทนายหนุ่มไฟแรงที่ประสบอุบัติเหตุจนสมองกระทบกระเทือน ส่งผลให้สติปัญญาใกล้เคียงกับเด็กอายุ 7 ขวบ
เชื่อว่าน่าจะเป็นซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องที่อีโดฮยอนจะตกคนดูจากการแสดงของเขามาได้อีกเพียบเลย
หากให้อีโดฮยอนลำดับความสำคัญในชีวิต แน่นอนว่าหนุ่มคนนี้จะเลือกครอบครัวเป็นสิ่งแรกโดยไม่ลังเล จากการผ่านพ้นประสบการณ์วัยเด็กอันยากลำบาก เฝ้ามองพ่อแม่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยไม่มีวันหยุดพักจากภาระหนี้สินก้อนโต ทั้งยังต้องดูแลลูกชายคนเล็กผู้มีภาวะบกพร่องทางสติปัญญา นั่นทำให้เขาตั้งปณิธานว่าจะทุ่มเทสุดความสามารถในอาชีพนักแสดง เพื่อวันหนึ่งพ่อแม่ที่เขารักจะได้ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างมีความสุข ดูเหมือนว่าวันนี้อีโดฮยอนจะทำมันได้สำเร็จแล้ว เขาเป็นทั้งเสาหลักของครอบครัวและยังดูแลน้องชายอย่างใกล้ชิดในฐานะพี่ชายสุดสตรองอีกด้วย
นักแสดงหนุ่มเผยอย่างมุ่งมั่นว่าเขามีเป้าหมายที่จะประสบความสำเร็จ โดยมีครอบครัวเป็นแรงผลักดันอยู่เบื้องหลัง เพื่อให้ทุกคนได้มีชีวิตเป็นอยู่อย่างสุขสบาย
“แม่ของผมทำงานส่งหนังสือพิมพ์มาเป็นเวลานานมากแล้วครับ ผมเคยถามแม่ว่าทำไมแม่ไม่ออกจากงาน แม่มีหนี้อยู่เท่าไหร่ แล้วผมก็บอกกับท่านว่าผมตั้งใจจะจ่ายหนี้ทั้งหมดนั่นด้วยตัวของผมเองภายในปี 2020 ครับ และผมก็อยากให้ทั้งพ่อ แม่ และดงฮยอก(น้องชาย) ออกจากงานและใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยเงินที่ผมหามา ผมรู้สึกว่านั่นคงเป็นทางเดียวผมจะรู้สึกสบายใจตอนที่เข้ากรมครับ”
อีโดฮยอนหนุ่มสู้ชีวิต ไม่ย่อท้อต่อความฝัน
กว่าจะมาเป็นนักแสดงหนุ่มที่สาว ๆ ไม่อยากให้มีคนเดียวบนโลก เส้นทางในวงการบันเทิงของอีโดฮยอนก็ไม่ได้ง่ายเลย หลังจากที่ได้เห็นการแสดงของ
คิมแรวอน นักแสดงตัวท็อปของวงการ อีโดฮยอนก็ปักหมุดให้ซอนเบนิมเป็นไอดอลในดวงใจ และเดินตามความฝันการเป็นนักแสดง
อีโดฮยอน ได้เคยเปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงพื้นหลังครอบครัวของเขา ที่ไม่ได้มีสถานะร่ำรวยอะไร และยังได้เผยว่าน้องชายของครอบครัวนั้นเป็นผู้บกพร่องทางพัฒนาการ และพ่อแม่ของเขาจึงยังทำงานอย่างขยันขันเเข็งมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
“พ่อแม่ของผมท่านทำงานมาเป็นเวลานานแล้วครับ และน้องชายของผมก็เป็นผู้บกพร่องทางพัฒนาการ แต่โชคดีที่เกาหลีใต้มีรัฐสวัสดิการที่ดี น้องชายของผมจึงสามารถทำงานที่ร้านสะดวกซื้อได้ แต่ผู้คนมักจะดูถูกและหยอกล้อหัวเราะเยาะเขาเพียงแค่เพราะเขาเป็นผู้บกพร่องครับ”
นอกจากนี้ เขายังได้เล่าถึงน้องชายของเขาซึ่งเป็นผู้บกพร่องทางพัฒนาการด้วยความซื่อตรงและจริงใจว่า
“น้องชายของผมเขาบกพร่องเกี่ยวกับพัฒนาการทางสมองครับ อาจจะดูไม่ออกในทันที แต่ว่าถ้าได้พูดคุยกับเขาไปประมาณ 10 นาทีก็จะสังเกตได้ครับ เขาขาดทักษะทางสังคมและไอคิวของเขาจะอยู่ในระดับเด็กมัธยมต้นหรือมัธยมปลาย อีกทั้งเขายังมีรูปร่างที่ค่อนข้างท้วมทำให้ผู้คนมักจะล้อเลียนหัวเราะเยาะเขา ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดเหตุการณ์แบบนั้น ผมจะเข้าไปแสดงตัวต่อหน้าพวกเขาแล้วพูดว่า ‘ผมเป็นพี่ชายของเขา หยุดทำแบบนี้นะ'”
อย่างไรก็ดี นักแสดงหนุ่มก็ได้เผยอย่างอบอุ่นว่าน้องชายของเขานี่แหละที่เป็นส่วนสำคัญในการก้าวเข้ามาสู่เส้นทางนักแสดงของเขา “ต้องขอบคุณดงฮยอกครับ ผมคิดว่าผมได้แรงบันดาลใจในการแสดงมากจากเขาเยอะมาก ๆ เลย ผมจะไม่สามารถเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ ถ้าไม่มีเขาครับ”
และเมื่อถามว่าเขามีปฏิกิริยาอย่างไรเวลาที่ได้ดูภาพยนตร์ที่มีเรื่องราวของตัวละครของผู้บกพร่องทางพัฒนาการ นักแสดงหนุ่มตอบด้วยความสัตย์จริงว่า “ผมดูหนังพวกนั้นไม่ได้เลยครับ เมื่อนานมาแล้ว ผมเคยดูหนังที่เกี่ยวกับผู้บกพร่อง แล้วผมก็ร้องไห้ออกมาเยอะมาก เพราะผมเศร้ามาก ๆ ผมไม่อยากร้องไห้เลยไม่ดูมันเลยครับ”
แต่ด้วยความที่
คุณพ่อเป็นห่วงเรื่องอนาคตของลูกชายเลยไม่ค่อยสนับสนุนเขาในด้านนี้สักเท่าไร หนุ่มสู้ชีวิตอย่างอีโดฮยอนเลยเลือกเส้นทางทำงานพาร์ทไทม์ เพื่อเก็บเงินเรียนมหาลัยการแสดง
และสุดท้ายครอบครัวก็ยอมรับและสนับสนุนเส้นทางการแสดงของอีโดฮยอน หลังจากที่คุณพ่อได้เห็นโปสเตอร์ละครเวทีที่มีโดฮยอนติดอยู่บริเวณสถานีรถไฟใต้ดิน
อีโดฮยอน หนุ่ม Family Man คนรักครอบครัวอันดับหนึ่ง
กลางคืนในฤดูร้อนเป็นบรรยากาศที่อีโดฮยอนโปรดปรานมากที่สุด อากาศอันอบอุ่นทำให้เขาชอบออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน แฮงเอาท์กับกลุ่มเพื่อน กินลมชมวิวและถ่ายภาพเมืองในยามราตรี รวมทั้งเดินเล่นในสวนสาธารณะกับ
กาอึ
ล
สุนัขสายพันธ์ุคอร์กี้ที่เขาเลี้ยงไว้ ทว่าปัญหาสำคัญของการเป็นมนุษย์กลางคืนคงอยู่ที่การเพลิดเพลินกับอากาศดี ๆ จนลืมนอนหลับ โดยเฉพาะวันสำคัญที่ต้องตื่นเช้าไปทำงานด้วยแล้ว ตัวช่วยสำคัญคือนาฬิกาปลุกที่เขามักตั้งค่าแจ้งเตือนถี่ยิบทุกห้านาที พร้อมเปิดเสียงดังเบอร์สุดจนสนั่นไปสามบ้านแปดบ้าน เรียกว่าไปทำงานตรงเวลาได้เพราะนาฬิกาปลุกช่วยไว้อย่างแท้จริง
ขึ้นชื่อว่าเป็นนักแสดงแล้ว สิ่งสำคัญที่อีโดฮยอนต้องใส่ใจอยู่เสมอคือการทำการบ้านผ่านบทละคร ทั้งท่องจำ ตีความคาแรกเตอร์ ตลอดจนดีไซน์การแสดงให้ลงตัวมากที่สุด เมนเทอร์คนสำคัญของเขาไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น
กาอึ
ล
คนดีคนเดิม ล่าสุดเขาสมมติให้น้องหมาเป็นมุนดงอึนระหว่างต่อบทสนทนาอยู่ที่บ้าน แต่ไม่รู้ว่าเรื่องนี้ไปเข้าหู
รูบี้
สุนัขของ
ซงฮเยคโย
เข้าหรืออย่างไร เพราะเมื่ออีโดฮยอนได้พบเจ้ารูบี้ที่กองถ่าย น้องก็พาลไม่เล่นกับเขาอีกเลย ทั้งยังกระฟัดกระเฟียดใส่เจ้ากาอึลอีกต่างหาก นับเป็นเรื่องระหว่างคนกับน้องหมาที่น่ารักน่าหยิกไม่เบา
สำหรับเรื่องนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ยืนยันว่า อีโดฮยอนไม่ควรมีคนเดียวบนโลก จากสัมภาษณ์หรือในช่วงพูดขอบคุณรับรางวัลต่าง ๆ
ครอบครัวเป็นสิ่งหนึ่งที่อีโดฮยอนมักจะพูดถึงอยู่เสมอ เพราะครอบครัวคือแรงผลักดัน คือเบื้องหลังความสำเร็จของนักแสดงคนนี้
ต่อเนื่องจากกิจวัตรมนุษย์นอนดึกตื่นเช้า ทำให้อีโดฮยอนเหลือเวลาไม่มากนักสำหรับการเตรียมตัวไปทำงาน เขาห่างหายจากการรับประทานอาหารเช้าเต็มรูปแบบมานาน ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้เขาอิ่มท้องและพร้อมลุยกิจกรรมในแต่ละวันคือ
เครื่องดื่มโปรตีน
นั่นเอง เจ้าตัวยังบอกอีกว่าผ่านการลองผิดลองถูกมาลายครั้ง กว่าจะชั่งตวงวัดสัดส่วนผงโปรตีนให้สมดุลกับปริมาตรและอุณหภูมิของน้ำได้สำเร็จ ตลอดจนการเลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่มีสารอาหารในปริมาณที่เหมาะสมต่อร่างกาย ทุกวันนี้เขาจึงกลายเป็นนักชงโปรตีนเบอร์หนึ่งไปแล้ว ได้ยินแบบนี้หลายคนคงอยากอาสาไปปรุงมื้อเช้าให้อีโดฮยอนกันเพียบแน่นอน
เมื่อชีวิตประสบกับปัญหาจนต้องกุมขมับ หลายคนมีวิธีจัดการกับความเครียดต่างกันออกไป สำหรับอีโดฮยอนแล้วเขาเลือกการออกกำลังกายเป็นตัวช่วย ยิ่งเครียดมากเท่าไหร่ยิ่งต้องทำให้เหงื่อหลั่งไหลออกมามากเท่านั้น เขาเชื่อว่าเมื่อสารเคมีในร่างกายถูกกระตุ้นไปกับการออกแรงผ่านกล้ามเนื้อ จะเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราลืมเรื่องหนักใจไปได้ชั่วครู่ ดีต่อสุขภาพจิตแล้วยังทำให้ร่างกายแข็งแรง ความเหน็ดเหนื่อยยังช่วยให้นอนหลับได้ง่าย ตื่นเช้าวันใหม่ค่อยคิดจัดการแก้ไขกันอีกที นับเป็นทริกดี ๆ ที่มนุษย์ยุคนี้ควรเก็บไปใช้เป็นอย่างยิ่ง
อีโดฮยอนเคยให้สัมภาษณ์ว่าแม่ของเขาทำงานส่งหนังสือพิมพ์มานานไม่ยอมออกจากงาน เพราะหนี้และภาระที่บ้าน
อีกหนึ่งเป้าหมายของอีโดฮยอนคือเขาอยากให้พ่อ แม่ และน้องชายออกจากงาน และใช้ชีวิตอยู่ด้วยเงินที่เขาหามา เพื่อให้เขาได้สบายใจเมื่อตอนที่เข้ากรม
อบอุ่น Family Man สุด ๆ อยากให้มีอีโดฮยอนอีกสักร้อยคนบนโลกจังเลยค่ะ ;-;
อีโดฮยอน พี่ชายที่แสนดีปกป้องน้องชายเมื่อถูกรังแก
อีโดฮยอนเคยให้สัมภาษณ์เล่าเรื่องครอบครัวของเขาอยู่บ้าง โดฮยอนเปิดใจว่าพื้นหลังครอบครัวของเขาไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไร และยังเผยว่าน้องชายเป็นผู้บกพร่องทางพัฒนาการ
โดฮยอนเล่าว่าทักษะทางสังคมของน้องอยู่ในระดับเด็ก ม.ต้น หรือ ม.ปลาย และน้องชายยังมีรูปร่างท้วม เลยมักจะถูกล้อเลียนหรือหัวเราะเยาะในบางครั้ง
แต่เมื่อไรที่เขาได้เห็นเหตุการณ์เหล่านั้น
พี่ชายที่แสนดีอิมดงฮยอน ( ชื่อจริง ) จะเข้าไปแสดงตัวต่อหน้าคนพวกนั้นทันที แล้วพูดกับพวกเขาว่า " ผมเป็นพี่ชายของเขา หยุดทำแบบนี้นะ "
ถึงแม้ว่าในช่วงวัยเด็กเขาจะไม่กล้าพูดถึงเรื่องราวของน้อง แต่ในตอนนี้ที่เติบโตและได้เรียนรู้ อีโดฮยอนรู้สึกขอบคุณดงฮยอกน้องชาย
โดฮยอนคิดว่าเขาได้แรงบันดาลใจในการแสดงมาจากน้องชายเยอะมาก ๆ และยังบอกอีกว่าเขาไม่สามารถเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ ถ้าไม่มีน้องชายของเขา
อีโดฮยอน ผู้ชายอบอุ่น รักสัตว์
ถ้าได้ตามไปส่อง IG ของอีโดฮยอน จะต้องเห็นน้องหมาคอร์กี้สีน้ำตาลตัวกลมบ๊อกน่ารักในหลาย ๆ รูป น้องคนนี้เป็นอีกหนึ่งคนสำคัญของอีโดฮยอนเลย น้องชื่อว่า
คาอึล เป็นลูกสาวคนโปรดที่อยู่กับโดฮยอนในทุกช่วงเวลา ไม่ว่ารู้ว่าน้องคาอึลติดคุณพ่อ หรือคุณพ่อโดฮยอนกันแน่ที่ติดน้อง
เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหนโดฮยอนก็มักจะหนีบคาอึลไปด้วยตลอด
แถมคาอึลยังเป็นคนสำคัญในงานแสดงของโดฮยอนอีกด้วย เวลาที่ต้องซ้อมบทหรือต่อบทโดฮยอนก็จะมีคาอึลนี่แหละที่คอยเป็นเมนเมอร์ช่วยต่อบทให้
อีโดฮยอน หนุ่มสายเฮฮา เซนต์วาไรตี้ดีเยี่ยม
ทำความรู้จักกับอีโดฮยอนในโหมดอบอุ่น จริงจังมาแล้ว หนุ่มอีโดฮยอนมีมุมเฮฮาอยู่เหมือนกันนะ
แถมหนุ่มคนนี้ยังเป็นนักเอ็นเตอร์เทนตัวตึง ดูได้จากหลาย ๆ รายการวาไรตี้ที่โดฮยอนไปออกรายการ ทำเอาคนดูขำกลิ้งทุกรายการ
โดยเฉพาะรายการ Running Man ที่โดฮยอนไปสร้างตำนานไว้ไม่หยุด จนเขาเชิญมาออกอีกหลายอีพีเลย
ใครอยากเห็นมุมเฮฮาสายวาไรตี้ของโดฮยอนใน Running Man ได้ใน EP. 496,499, 510, 533 เลยค่า
✦✦✦✦✦✦✦✦✦
สรุป
ทำความรู้จัก " อีโดฮยอน " จากเรื่องราวของเขามาแล้ว ก็น่าจะพอตอบคำถามได้ว่าทำไมหนุ่มคนนี้ถึงไม่ควรมีคนเดียวบนโลก
และความแสนดีของเขาก็ไม่ได้มีแค่ที่เล่ามานะ
ไลฟสไตล์อีโดฮยอนเรียกได้ว่าเป็นวัสดุแฟนหนุ่ม (Boyfriend material) ในอุดมคติได้เลย
นอกจากอบอุ่น รักครอบครัว รักสัตว์ เล่นกีตาร์ เป็นนักบาสโรงเรียน ชอบทำอาหาร เฮฮาสายวาไรตี้
อีโดฮยอนยังขึ้นชื่อเรื่องความถ่อมตัว
ไม่ว่าจะเป็นตอนรับของขวัญหรือจดหมายจากแฟนคลับ จะนอบน้อมอยู่เสมอ จนโดนแฟนคลับแซวเลยว่าหล่อเหมือนเทพบุตร หล่อเหมือนไม่มีอยู่จริง เ
ป็นฉายาที่เหมาะกับอีโดฮยอนมากเหมือนกันนะเนี่ย
สำหรับใครที่อยากทำความรู้จักกับอีโดฮยอนจากผลงานของเขา ลองตามไปส่องซีรีส์ส่วนหนึ่งของอีโดฮยอนจากบทความด้านล่างกันได้เลย
ส่วนวันนี้ขอตัวไปส่องดูซีรีส์ของแฟนหนุ่ม(?) อีโดฮยอนต่อแล้ว อันยองงงง
บทความแนะนำสำหรับชาวซิส
✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ลิ้งก์รูปภาพ
https://drive.google.com/drive/folders/199E_DpzACf3-NcfXdXU-puj_BvLQ60UO?usp=sharing
Designer :lilybaecon
Writer :chollychon