เรียกได้ว่าไม่ว่าจะนอนเต็มอิ่ม 6-8 ชั่วโมงตามเวลาที่สมควรพักผ่อนอย่างเต็มที่ก็ยังไม่สามารถขจัดความง่วงระหว่างวันไปได้ โดยเฉพาะช่วงกลางวันหลังเวลาอาหารที่มักจะเกิดการง่วงนอนอยู่ตลอด ซึ่งบางครั้งอาจจะทำให้เกิดผลกระทบกับงานหรือการเรียนในช่วงบ่ายได้เพราะเกิดการเบลอ หรือไม่มีสมาธิมากพอ โดยอาการเหล่านี้สาเหตุอาจจะมาจากการกินอาหารกลางวันอิ่มๆ หรือบรรยากาศชวนน่านอนด้วยหรือไม่ก็ไม่อาจทราบได้ ซึ่งสิ่งที่จะทำให้อาการอยากงีบกลางวันหายไป เราก็จำเป็นต้องงีบจริงๆ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตมากกว่านี้ ดังนั้นจึงมาแนะนำทริคการ งีบกลางวัน งีบอย่างไรให้หายง่วงหายเบลอ ในเวลาที่มีจำกัดได้ และหลังงีบสมองเฟรชมากยิ่งขึ้น


✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿


ง่วงไม่ไหว ! ว่าด้วยเรื่องของการงีบกลางวัน

รูปภาพ:

การงีบหลับหรือ Napping คือการนอนหลับในระยะสั้นๆ เพื่อชดเชยเวลานอนตอนกลางคืน โดยทัศนคติทางวัฒนธรรมที่มีต่อการงีบกลางวันในเวลาทำงานนั้นแตกต่างกันในแต่ละวัฒนธรรม อย่างวัฒนธรรมตะวันตก เด็กและผู้สูงอายุควรงีบกลางวัน แต่สำหรับคนวัยทำงานไม่ควรนอนหลับระหว่างวัน และการงีบกลางวันในเวลางานเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ แต่ในส่วนวัฒนธรรมอื่นๆ หรือในบางประเทศ เช่น สเปน หรือฝรั่งเศส จะมีประเพณีการงีบกลางวันหรือในช่วงกลางวันหลังจากรับประทานอาหารเสร็จก่อนที่จะกลับไปทำงานในช่วงบ่ายก็จะมีเวลาเฉพาะในการงีบเพื่อให้สมองปลอดโปร่งมากที่สุด และรู้สึกเฟรชในการทำงานมากขึ้น


ประโยชน์ของการงีบกลางวัน

รูปภาพ:

การงีบกลางวัน หรืองีบหลับ(Power Nap) ช่วยลดความง่วงในระหว่างวันซึ่งจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเวลานอนตามวงจรของการนอนหลับในตอนกลางคืน การงีบกลางวันจึงเปรียบเหมือนการชาร์จพลังเพื่อให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าและมีพลังในการทำสิ่งต่างๆ มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการศึกษาถึงประโยชน์ของการงีบกลางวันที่เชื่อว่าอาจจะช่วยได้จริงในชีวิตประจำวัน ดังนี้


ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความจำ

ในการทำในการทำวิจัยเกี่ยวกับการงีบกลางวันด้วยการทดลองให้อาสาสมัครได้งีบหลับเป็นเวลาแค่ 10 นาที พบว่าผู้เข้าทดลองมีความจำที่แม่นยำมากขึ้น หากเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้งีบหลับเลย ซึ่งยังมีการทดสอบที่พบอีกว่า หากมีการงีบหลับมากกว่า 20 นาทีกลับส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการคิดลดลง


ช่วยลดความดันเลือด

การงีบกลางวันช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากผู้ที่ได้พักในเวลาสั้นๆ ระหว่างวันจะมีระดับความเครียดที่ลดลง โดยมีสถิติอย่างเป็นทางการว่าการงีบหลับสามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้ด้วย


ช่วยผ่อนคลายความเครียด

จากการวิจัยเกี่ยวกับการงีบกลางวันพบว่า การงีบหลับในตอนกลางวันจะสามารถช่วยลดระดับความเครียดที่เกิดจากการทำงาน ระหว่างวันได้ นอกจากนี้ยังพบว่าอาสาสมัครที่ได้งีบหลับสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น เมื่อต้องเจอกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดในรูปแบบเดียวกัน


ช่วยปลุกความกระปรี้กระเปร่า

การงีบกลางวันสามารถเพิ่มพลังให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นมากขึ้น แต่เพื่อให้เห็นเป็นรูปธรรมจึงมีการทดลองการงีบหลับกับอาสาสมัครที่เป็นทหารพบว่า ทหารกลุ่มที่ได้งีบหลับในกลางวันมีความกระตือรือร้นและประสิทธิภาพในกาฝึกเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด


ช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์

การงีบกลางวันมีส่วนเป็นอย่างมากในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง โดยพบว่าเซลล์ประสาทจะมีการทำงานได้ดีขึ้นเมื่อได้พักในระยะเวลาสั้นๆ จึงสามารถทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น


ช่วยเพิ่มกำลังใจในการทำงาน

เนื่องจากความเหนื่อยล้ามักจะกลายมาเป็นตัวแปรของการทำงาน โดยปกติแล้วเราจะรู้สึกอยากทำงานมากที่สุดในช่วงเช้าจากนั้นจะค่อยๆ ลด energy ลงมาตามความเหนื่อยล้า ดังนั้นการงีบกลางวันจึงเปรียบเสมือนเป็นการชาร์จพลังในการทำงานอีกครั้ง


การงีบหลับมีประสิทธิภาพมากกว่าการดื่มกาแฟ

โดยส่วนใหญ่นั้นจะเลือกการดื่มกาแฟในช่วงบ่ายเพราะรู้สึกง่วง แต่มีการศึกษาพบว่าการงีบกลางวันสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ดีกว่าการดื่มกาแฟ นอกจากนี้นั้นยังช่วยลดปริมาณการดื่มกาแฟหรือปริมาณคาเฟอีนในร่างกายลงได้ เพราะการดื่มกาแฟไปติดต่อกันในหลายๆ แก้วต่อวัน ส่งผลที่ไม่ดีต่อสุขภาพในระยะยาว


งีบกลางวัน กี่นาทีถึงจะดีที่สุด?

รูปภาพ:

  1. การงีบกลางวัน 10-20 นาที จะทำให้ร่างกายตื่นตัว และเพิ่มพลังให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นได้ดีในช่วงเวลานี้ อีกทั้งจะสามารถปลุกให้ตื่นได้ง่าย
  2. การงีบกลางวัน 30 นาที อาจจะทำให้เวลาที่ต้องตื่นมักจะมีอาการเหมือนการแฮงค์โอเวอร์ ซึ่งทำให้ร่างกายรู้สึกเฉื่อยๆ ไม่กระปรี้กระเปร่า
  3. การงีบกลางวัน 60 นาที ช่วงนี้การนอนจะมีผลต่อการส่งคลื่นสั้นๆ ต่อสมองอยู่ในระยะหลับลึก มีผลต่อความจำทำให้จดจำข้อมูลต่างๆ ได้ดีขึ้น แต่การตื่นของช่วงเวลานี้จะรู้สึกมงัวเงียและตื่นยากกว่าปกติ
  4. การงีบกลางวัน 90 นาที เป็นการหลับที่ครบวงจรที่สมบูรณ์ สมองจะได้พักเต็มที่ช่วยในเรื่องของความจำ ความคิดริเริ่ม กาาสร้างสรรค์ และยังทำให้ร่างกายนั้นสดชื่นกระปรี้กระเปร่าหลับงีบหลับอีกด้วย

ดั้งนั้นแล้ว ระยะเวลาการงีบหลับที่จะช่วยเพิ่มความสดชื่นและความตื่นตัวได้ดีที่สุดไม่ควรเกิน 10-20 นาที สำหรับใครที่มีเวลาจำกัด อีกทั้งทุกครั้งที่มีการงีบกลางวันจึงควรจำกัดเวลาด้วยการตั้งนาฬิกาปลุก เพราะหากงีบหลับนานกว่านี้อาจทำให้รู้สึกง่วงหรือเพลียยิ่งกว่าเดิม ส่วนผู้ที่มีภาวะอดนอนหรือนอนน้อยนั้นแนะนำให้งีบหลับ 1.30 ถึง 2 ชั่วโมง เพื่อคลายความอ่อนเพลียจากการนอนที่ไม่เพียงพอ


งีบกลางวัน ตอนไหนดีที่สุด

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การงีบหลับของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตารางเวลาการนอนและอายุร่วมด้วย ซึ่งสำหรับคนส่วนใหญ่จะเป็นในช่วงบ่าย 1-3 โมง เวลาหลังอาหารมื้อกลางวัน แต่ไม่ควรงีบหลับหลังบ่าย 3 เป็นต้นไป ไม่เช่นนั้นอาจจะส่งผลให้นอนไม่หลับในตอนกลางคืนได้


เคล็ด(ไม่)ลับ! การงีบกลางวันฉบับโปร มีทริคอะไรบ้าง?

รูปภาพ:

  • จัดตารางการงีบกลางวันที่สม่ำเสมอ และตรงเวลาทุกวัน
  • ควรงีบกลางวันในช่วงบ่าย 1-3 โมง หลังมื้ออาหารกลางวัน
  • งีบหลับประมาณ 10-20 นาที และควรตั้งเวลาเตือนไม่ให้นอนนานกว่า 20 นาที
  • งีบหลับในห้องที่มืดสนิท หรือใช้ผ้าปิดตากันแสง และใช้ที่อุดหูป้องกันเสียงรบกวนรอบข้าง
  • รักษาอุณหภูมิห้องให้พอเหมาะไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป

ทำไมถึงรู้สึกปวดหัวหลังงีบหลับหรืองีบกลางวัน?

รูปภาพ:

อาจจะสังเกตว่าการนอนกลางวันในบางครั้งหลังตื่นนั้นอาจจะมีอาการตามมาด้วยไม่ว่าจะเป็น อาการรู้สึกมึนหัว หรือปวดหัว โดยอาการเหล่านี้อาจมีสาเหตุมาจากปัญหาในการนอนหลับโดยอ้างอิงถึงข้อมูลจากสถาบันการนอนแห่งชาติในสหรัฐอเมริกา ชี้ว่าผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนอยู่แล้วจะประสบกับอาการปวดหัวหลังงีบกลางวันมากกว่าคนปกติ 2-8 เท่า นอกจากนี้อาจจะมีปัญหาของสุขภาพบางอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง หรืออาจจะเป็นปัจจัยที่ไปกระตุ้นให้มีอาการปวดหัวหลังงีบกลางวันหรือหลังตื่นนอนในตอนเช้าได้เช่นกัน

  • ปัญหาการหายใจ เช่น นอนกรน หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
  • การนอนกัดฟัน ซึ่งอาจทำให้กล้ามเนื้อตึงเกร็ง และตามมาด้วยอาการปวดหัว
  • การตั้งครรภ์ ภาวะขาดน้ำ น้ำตาลในเลือดต่ำ อาการคัดจมูก หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เกิดขึ้นจากการตั้งครรภ์ อาจเป็นตัวการทำให้รู้สึกปวดหัวหลังตื่นนอนได้
  • ท่าทางการนอน ท่านอนหรือหมอนที่นอนแล้วศีรษะและคออยู่ในท่าที่ไม่สบาย อาจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวตึงตัว
  • ระยะเวลาการนอน ตามที่ได้พูดถึงช่วงเวลาของการงีบกลางวันนั้นอาจส่งผลที่ไม่พอดีและอาจทำให้รู้สึกแย่กว่าเดิม แถมยังไปกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวตามมาได้ไม่ว่าจะเป็นการงีบหลับที่นานเกินไปหรือการงีบหลับที่สั้นเกินไป ในกรณีที่มีการอดนอนในกลางคืนร่วมด้วย

✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿


สรุป

การนอนหลับถือเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งต่อระบบภายในร่างกาย ยิ่งหากนอนหลับไม่เพียงพอสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพและเกิดโรคร้ายแรงตามมาได้ในภายหลัง ดังนั้นการ งีบกลางวัน จึงกลายมาเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่จะทำให้ได้รับช่วงการพักผ่อนและการฟื้นฟูร่างกายจากการอดนอนได้แม้เพียงระยะสั้นๆ โดยเฉพาะใครที่อยู่ในช่วงวัยเรียน หรือวัยทำงาน การงีบกลางวันในช่วงระยะเวลาสั้นๆ สามารถเพิ่มพูนศักยภาพหรือประสิทธิภาพในการเรียนและการทำงานได้มากยิ่งขึ้นได้ เราสามารถเลือกช่วงเวลาในการพักหลังเวลาหลังอาหารเพียง 10-20 นาที เพื่อบูสต์และชาร์จพลังให้เรามีความกระปรี้กระเปร่า พร้อมที่จะเรียนรู้ต่อไปได้


ขอขอบคุณภาพประกอบจาก : Freepik




บทความอื่นๆ ที่ซิสไม่ควรพลาด