1. SistaCafe
  2. กลิ่นแก่ คืออะไร แล้วทำไมคนอายุน้อยบางคนถึงมีกลิ่นแก่ !?

คำว่า " กลิ่นแก่ " ได้ยินก็รู้สึกจี๊ดขึ้นมาทันทีเลย ไม่ว่าจะคนที่อายุยังน้อยหรือคนที่เริ่มมีอายุแล้วก็ตามใช่ไหมละคะ อีกอย่างก็เป็นกลิ่นที่ไม่มีใครอยากจะมีด้วย แต่ขอบอกเลยว่ายังไง้ยังไงก็เลี่ยงที่จะมีไม่ได้เลยค่ะ ไม่ว่าจะเพศไหนก็ตาม ฟังมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะกังวลแล้ว ใจเย็น ๆ น้า ก่อนจะกังวลเราขอแนะนำให้ทุกคนลองมาทำความเข้าใจและรู้จักมันให้มากขึ้นกันก่อนดีกว่าว่ามันคืออะไร เกิดขึ้นกับใคร อายุเท่าไหร่ อายุน้อย ๆ มีได้ไหม แล้วป้องกันยังไง ลดกลิ่นนี้ได้ยังไงบ้าง ตามมาอ่านกันเลยค่ะ!


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


กลิ่นแก่คืออะไร และเกิดจากอะไร ?

กลิ่นแก่หรือกลิ่นคนแก่/กลิ่นผู้สูงวัย เป็นกลิ่นตัวพิเศษที่เกิดขึ้นกับคนวัย 40 ปีขึ้นไป กลิ่นจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศ สาเหตุเกิดจากที่ต่อมไขมันและต่อมเหงื่อในร่างกายทำงานลดลงจนทำให้กรดไขมันที่มีชื่อว่า "ลิพิดเปอร์ออกไซด์" มีปริมาณสูงมากขึ้น แล้วเมื่อลิพิดเปอร์ออกไซด์ทำปฏิกิริยาออกซิเดชันกับออกซิเจนในอากาศ จึงเกิดเป็น "สารโนเนนอล" ซึ่งเป็นสารที่มีกลิ่นเอกลักษณ์ มีความติดทน ไม่สามารถล้างออกด้วยน้ำสะอาดหรือแม้กระทั่งสบู่ได้ จึงทำให้ผู้สูงอายุหรือคนที่อายุ 40 ปีขึ้นไปหลาย ๆ คนมีกลิ่นแก่นั่นเอง


♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡


กลิ่นแก่ เป็นยังไง ?

อย่างที่บอกไปเลยค่ะว่าแต่ละบุคคลจะมีกลิ่นที่ไม่เหมือนกัน อาจจะขึ้นอยู่กับอาหารการกินของแต่ละคนหรือการใช้ชีวิตของแต่ละคนก็ได้ ถ้าพูดแบบนี้หลายคนอาจจะฟังแล้วยังมีความงง ๆ ใช่ไหมละคะ งั้นจะขอพูดในแง่ของกลิ่นโดยรวมแทน ส่วนใหญ่กลิ่นแก่จะเป็นกลิ่นคล้าย ๆ แว็กซ์ ไขมันเก่า ๆ แบบขี้ผึ้งหรือเทียนไข ไม่ก็หนังสือเก่า ๆ อาจจะมีความอับ ๆ หน่อย ๆ หรือบางคนก็จะกลิ่นคล้าย ๆ โลหะก็มีนะคะ


♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡


อายุน้อยก็มีกลิ่นแก่ได้ จริงไหม ?

ถึงแม้จะอายุน้อยยังไม่แตะเลข 4 แบบที่ว่า แต่สามารถมีกลิ่นแก่ได้เหมือนกันนะเออ ซึ่งปัจจัยการทำให้มีกลิ่นแก่นั้นมีดังนี้ค่ะ

  • มีความผิดปกติของการเกิดออกซิเดชันของกรดไขมัน (FAODs)
  • ขาดวิตามิน B12 หรือ B2 (ไรโบฟลาวิน)
  • มีความผิดปกติทางพันธุกรรมบางอย่าง เช่น ไตรเมทิลอะนูเรีย (TMAU)
  • เป็นโรคตับ โรคไตหรือโรคเบาหวาน
  • รับประทานยาบางชนิด เช่น ยาซึมเศร้า
  • รับประทานอาหารบางชนิดที่มีกลิ่นแรง เช่น กระเทียม สะตอ ฯลฯ
  • ใส่เสื้อผ้าที่ไม่สะอาดและมีกลิ่น
  • การอาบน้ำไม่สะอาด

ทั้งหมดที่ว่ามานี้อาจจะเป็นปัจจัยทำให้คนที่อายุยังน้อย ๆ มีกลิ่นแก่หรือกลิ่นคล้ายคนแก่ได้นั่นเองนะคะ


♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡


แก้กลิ่นคนแก่ ยังไงให้หาย ?

ถ้าเราเป็นคนที่อายุน้อยอาจจะลองแก้ปัญหาด้วยการทานวิตามิน B12 และ B2 อาบน้ำให้สะอาด เช็กเสื้อผ้า ทานยาตัวไหนหรือทานอาหารชนิดไหนที่มีกลิ่นแรงรึเปล่า ถ้ายังไม่หายอาจจะต้องลองพบแพทย์หรือลองไปตรวจสุขภาพเพื่อหาว่าเราเป็นโรคอะไรหรือมีอะไรที่ผิดปกติหรือไม่ ส่วนถ้าเป็นคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปก็ตามที่ได้บอกไปเลยค่ะว่าสารโนเนนอลไม่สามารถล้างออกได้ด้วยน้ำสะอาดหรือแม้กระทั่งสบู่ก็ไม่สามารถชะล้างได้อย่างหมดจด ดังนั้นถ้าเป็นคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ยังไง้ยังไงก็ไม่สามารถแก้ให้หายไปได้ 100% แต่สามารถหาทางกลบกลิ่นได้นะคะ โดยวิธีกลบกลิ่นก็สามารถทำตามวิธีด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ ทำได้ทั้งผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปและน้อยกว่า 40 ปีเลยน้า


♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡


วิธีป้องกันกลิ่นแก่ ทำยังไงได้บ้างนะ ?

สำหรับคนที่อายุยังน้อยแล้วอยากจะป้องกันไม่ให้มีกลิ่นแก่หรือคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปแล้วไม่อยากให้กลิ่นคนแก่ออกมา ก็สามารถทำตามนี้เลยค่า!

  • รักษาความสะอาด หมั่นอาบน้ำเป็นประจำและอาบให้สะอาดทั่วทั่งร่างกาย
  • หลีกเลี่ยงอาหารรสจัดและมีกลิ่นแรง เช่น สะตอ กระเทียม หอมแดง พริก หัวหอม ฯลฯ
  • รับประทานอาหารที่มีกากใย สารต้านอนุมูลอิสระและแร่ธาตุ เช่น ผักใบเขียว เบอร์รีต่าง ๆ ผลไม้ที่ไม่ได้มีรสหวานจัด
  • รับประทานอาหารที่มีแม็กนีเซียมและสังกะสี เช่น อาหารทะเล จะช่วยทำให้ขับกลิ่นแก่ออกไปได้
  • รับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 เช่น ปลาแซลมอน เมล็ดแฟลกซ์และวอลนัท จะได้ช่วยในการเผาผลาญกรดไขมัน
  • ลดอาหารประเภทเนื้อสัตว์และไขมัน
  • งดสูบบุหรี่
  • คอยซับเหงื่อบ่อย ๆ
  • ใช้โรลออนหรือน้ำหอมที่เหมาะกับตัวเอง เช็ดตัวให้แห้ง ทาโลชันเพื่อให้กลิ่นติดผิวได้นานมากขึ้น แล้วค่อยฉีดน้ำหอมหรือใช้โรลออน วิธีการฉีดน้ำหอมให้ฉีดห่างจากตัวประมาณ 30 เซนติเมตร ฉีดบริเวณข้อพับแขน ข้อมือจะติดทนมากขึ้น ถ้าอยากให้หอมมากขึ้นอาจจะใช้น้ำหอมฉีดลงบนหวีแล้วหวีผมก็จะทำให้เส้นผมมีกลิ่นหอม รวมถึงกลิ่นตัวก็หอมขึ้นด้วยนะคะ

เพิ่มเติมอีกนิดคืออาจจะมีบางผลิตภัณฑ์ที่ทำออกมาเพื่อช่วยเรื่องการลดกลิ่นแก่หรือลดปริมาณของสารโนเนนอลลงด้วยนะคะ ทุกคนสามารถไปตามหาซื้อหรือลองใช้กันได้น้า


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


เป็นยังไงกันบ้างคะ ได้รู้จักเรื่อง " กลิ่นแก่ " หรือกลิ่นคนแก่/กลิ่นผู้สูงอายุกันไปแล้ว ก็ทำให้ได้รู้เลยนะคะว่ากลิ่นนี้มีอยู่จริง แล้วก็ยังได้รู้ด้วยว่าอายุน้อยก็มีกลิ่นแก่ได้นะ แต่สามารถแก้ไขเรื่องกลิ่นแก่ได้ง่ายกว่าคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งยังไงก็ลองไปแก้ไขและทำตามกันดูนะคะ ถ้าหากยังไม่ดีขึ้นก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์น้า จะได้หาทางรักษาหรืออาจจะต้องตรวจสุขภาพเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นโรคอะไรที่เราอาจจะยังไม่รู้ตัวรึเปล่า สุดท้ายอยาก ฝากให้ทุกคนหมั่นดูแลสุขภาพร่างกาย คอยตรวจสุขภาพและควบคุมการกินอาหารให้พอดี อย่ามัน ทอดหรือรสจัดเกินไป ออกกำลังกายบ้าง รวมถึงการใช้ชีวิตให้มีลิมิต อย่าไปสุดจนร่างพังเพราะอะไรที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไปก็ไม่ดีใช่ไหมละคะ ยังไงตอนนี้ต้องขอตัวลาไปก่อนแล้วค่า บ๊ายบาย


ขอบคุณภาพปกและภาพประกอบบทความจากเว็บไซต์ freepik.com รวมไปถึงข้อมูลจากเว็บไซต์ thaihealth.or.th, pptvhd36.com, allwellhealthcare.com


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


แนะนำบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ!

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้

🔮 ดูดวงกับ SistaCafe ผ่าน Line Official !
รูปภาพสำหรับป๊อปอัพลอย:1