1. SistaCafe
  2. ความเชื่อโบราณ ที่ควรรู้เกี่ยวกับวันลอยกระทง

วันลอยกระทง ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๑๒ เป็นประเพณีที่สืบทอดมาแต่โบราณ โดยมีวัตถุประสงค์ที่หลากหลายกันไป ขึ้นอยู่กับพื้นที่ และความเชื่อของคนในพื้นที่นั้นๆ แต่ปัจจุบันมักจะลอยกันเพื่อสะเดาะเคราะห์ และเพื่อขอขมาพระแม่คงคาค่ะเรามาดูกันดีกว่าว่าในสมัยก่อนนั้นมีคามเชื่อเกี่ยวกับวันลอยกระทงว่าอย่างไรบ้าง..


1. เป็นการขอขมาพระแม่คงคา

ตามความเชื่อแต่โบราณที่ว่า เป็นการขอขมาและขอบคุณต่อพระแม่คงคาที่มนุษย์ได้ใช้น้ำ รวมไปถึงการทิ้งสิ่งปฏิกูลต่างๆ ลงไป ทั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงการขอบคุณน้ำ เพราะมนุษย์เราอยู่ได้เพราะน้ำ เราได้อาศัยน้ำในการดำรงชีวิต ขณะที่ลอยกระทงเราก็นึกถึงคุณค่าของน้ำ รู้จักใช้น้ำอย่างถูกวิธี และใช้น้ำอย่างคุ้มค่า ไม่ใช้ทิ้งขว้าง ไม่ทำให้น้ำสกปรก ไม่ปล่อยของเสียลงแม่น้ำลำคลอง


2. เพื่อบูชาพระผู้เป็นเจ้าตามคติพราหมณ์

ตามความเชื่อแต่เดิม ที่เชื่อกันว่า มนุษย์เราทุกคนจะมีเทวดาประจำตัว เพื่อปกป้องคุ้มครองรักษาให้รอดพ้นจากอันตรายต่างๆ เมื่อถึงวันลอยกระทง จึงต้องทำการขอขมา และขอบคุณเทวดาเหล่านั้นที่คอยดูแลกันมาตลอด เป็นการเสริมพลัง รับพลังดีๆ เข้ามาเพิ่มอีกด้วย



3. เป็นการสักการะรอยพระพุทธบาท

เป็นการสักการะรอยพระพุทธบาท

ที่พระพุทธเจ้าทรงได้ประทับรอยพระบาทไว้หาดทรายแม่น้ำนัมมทานที ในประเทศอินเดีย ซึ่งมีความเป็นมาเกี่ยวข้องกับพุทธประวัติว่า ครั้งหนึ่งพญานาคทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าว่า ให้เสด็จไปแสดงธรรมโปรดในนาคพิภพ เมื่อพระองค์จะเสด็จกลับ พญานาคทูลขออนุสาวรีย์ไว้กราบไหว้บูชา พระพุทธองค์จึงทรงประดิษฐานรอยพระพุทธบาทไว้ที่หาดทราย ริมฝั่งแม่น้ำนัมมทานที เพื่อให้บรรดานาคทั้งหลายได้สักการะบูชา



4. เป็นการลอยความทุกข์โศก และโรคภัยต่างๆ ไปกับแม่น้ำ

หลังจากที่เราเผชิญกับอุปสรรค และปัญหาต่างๆ มาตลอดเกือบทั้งปี ช่วงเวลานี้จึงถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่จะได้ลอยความทุกข์โศก และปัญหาต่างๆ ที่ผ่านเข้ามา ให้ลอยพ้นออกไปจากตัวเอง และพร้อมเปิดรับสิ่งดีๆ เพื่อเริ่มต้นใหม่ในปีต่อไป



5. เพื่อต้อนรับพระพุทธเจ้า ในวันที่เสด็จกลับจากสรวงสวรรค์

เมื่อครั้งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จไปจำพรรษาอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อทรงเทศนาอภิธรรมโปรดพระมารดา พอครั้นจะเสด็จกลับมาสู่โลกมนุษย์ เหล่าทวยเทพ และประชาชนทั้งหลายได้พร้อมใจกันทำการสักการบูชาด้วยทิพย์บุปผามาลัย และการลอยกระทง จากความเชื่อนี้จึงเป็นการรับเสด็จพระพุทธองค์จากชั้นดาวดึงส์ ( เป็นตำนานเดียวกับประเพณีการตักบาตรเทโว )



6.เพื่อบูชาพระจุฬามณีบนสวรรค์

ความเชื่อนี้ เกิดจากการสักการะบูชาจุฬามณีที่บรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า โดยปกติพระจุฬามณีจะมีเทวดาเหาะมาบูชาเป็นประจำ แม้แต่พระศรีอริยเมตไตรย ที่จะจุติลงมาบนโลก และตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป ก็ยังเสด็จมากราบไหว้ การลอยกระทงเพื่อบูชาพระจุฬามณี จึงถือเป็นการไหว้บูชาพระศรีอาริย์ด้วย



7. เพื่อบูชาท้าวพกาพรหม บนสวรรค์ชั้นพรหมโลก

ในครั้งดึกดำบรรพ์ มีเรื่องเล่าว่า ฤาษีทั้ง 5 ตน ต่างตั้งจิตอธิษฐาน" ถ้าต่อไปหากตนได้ไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้า ขอให้มารดาของพวกตนได้รับรู้ "และด้วยแรงอธิษฐาน จึงทำให้ท้าวพกาพรหมเสด็จมาจากเทวโลก แล้วบอกว่า ถ้าคิดถึงมารดา เมื่อถึงวันเพ็ญเดือน 11 และเดือน 12 ให้เอาด้ายดิบผูกไม้ตีนกา ปักธูปเทียนบูชาลอยกระทงในแม่น้ำ เพื่อเป็นการรำลึกถึง ตั้งแต่นั้นมา จึงมีการลอยกระทงเพื่อบูชาท้าวพกาพรหม( ในอดีตชาติเคยเป็นแม่ของเหล่าฤาษีทั้ง 5 ตน )และเพื่อบูชารอยพระบาท ซึ่งประดิษฐานอยู่ริมฝั่งแม่น้ำนัมมทานที ส่วนฤาษีทั้ง 5 ต่อมาได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่างๆ ดังนี้


- ฤาษีตนแรก กกุสันโธ ( พระกกุสันโธ )




- ฤาษีตนที่สอง โกนาคมโน ( พระโกนาคมน์ )



- ฤาษีตนที่สาม กัสสโป ( พระกัสสปะ )



- ฤาษีตนที่สี่ โคตโม ( พระสมณโคดม )*พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน



- ฤาษีตนที่ห้า เมตเตยโย ( พระศรีอาริยเมตไตรย )



8. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระอุปคุดตเถระ

ซึ่งพระองค์ได้บำเพ็ญเพียรบริกรรมคาถาอยู่ในท้องทะเลลึก หรือสะดือทะเล และนอกจากนี้

ชาวไทยในภาคเหนือก็มีความเชื่อว่า

พระอุปคุตทรงสามารถปราบพญามารได้



สิ่งเหล่านี้เป็นความเชื่อโบราณเกี่ยวกับการลอยกระทงนะคะเพราะประเทศของเราเป็นเมืองพุทธ ดังนั้นประเพณีต่างๆ ก็มักเกี่ยวข้องกับศาสนาเป็นสำคัญCatzaniaก็ขอให้สาวๆ รักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีเหล่านี้ไว้นะคะ ^ v ^



บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้