สวัสดีค่าทุกคน วันนี้ขุ่นแม่มาแนวใสๆ สไตล์น้องพิมฐา บ้างน้า เพราะเดี๋ยวนี้ใครแต่งหน้าหนา โบกรองพื้น มัน Out ไปแล้วจ้า ยิ่งเราอายุมาก ยิ่งต้องเผยผิวใส สู้วัยทีนค่า มาค่ะ มาดูเทคนิคที่ขุ่นแม่จัดให้ในวันนี้กันดีกว่า

แต่!!!! ก่อนอื่นจะมาทดสอบอะไรซักเล็กน้อย ให้ทุกคนได้ชมกันค่า รูปนี้คือ Before & After ก่อนและหลังจาก Make up เสร็จแล้ว ( ประมาณ 10:00 น.) และ After หลังจากขุ่นแม่ไปทำงานเลี้ยงลูก ซักผ้า ถูบ้าน ล้างจานมานะค้า ( ประมาณ 21:00 น. )

รูปภาพ:

หน้าฝั่งขวาจะลงด้วยรองพื้นTHREE Angelic Synthesis Foundation Serumนะคะ หลังจากลงรองพื้นเสร็จแล้วจะเห็นถึงความเนียนดูเป็นผิว ตกเย็น ผ่านมา 12 ชั่วโมง ใบหน้ายังมีความดิวอี้ดูเป็นธรรมชาติ คือไม่ทำให้หน้ามันเพิ่มขึ้นจากเดิมค่ะ จุดสังเกตที่ชัดที่สุดคือ บริเวณใต้ตา แทบไม่มีรอยแตกหรือตกร่องเลยค่ะ



รูปภาพ:

หน้าฝั่งซ้ายจะลงด้วย คุชชั่นของEstee Lauder Nude Cushion Stickนะคะ จะให้ความรู้สึกถึงความแมทมากกว่า THREE นิดนึง และนั้นแรกๆเรียบเนียนเช่นกัน แต่ตกเย็นมาจะเริ่มมีความมันและเป็นคราบเล็กน้อยค่ะ สังเกตได้ชัดตรงบริเวณใต้ตาค่ะ จะตกร่องเล็กน้อย บริเวณแก้มมันนิดหน่อย หวานว่าแรกๆที่ลงคุชชั่นตัวนี้ถือว่าโอเครนะคะผิวแมทสวยเลย แต่ตกเย็นมาจะไม่อยู่ทนเท่ากับ THREE นี่ไม่ได้อวยน๊า คือหวานว่าของแบบนี้ต้องลองเองค่ะ



นี่ก็เป็นการทดสอบเล็กๆ น้อยๆ ให้เห็นความแตกต่างกันไปแล้วนะคะ แต่ว่าเรื่องความติดทนของรองพื้นบนหน้าเราก็ขึ้นอยู่กับหลายอย่างๆค่ะ ทั้งสภาพอากาศบ้านเรานั้นมีทุกฤดูใน 1 วัน ดังนั้นรองพื้นที่คุมมันจึงเหมาะกับสาวๆ บ้านเราเป็นอย่างมาก

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

Step 1. Illamasqua Matte Veil


ลง Primer กันเล็กน้อยค่า เพราะเป้าหมายคือ งานผิว ดังนั้นต้องเริ่มต้นเตรียมผิวให้ดีก่อนเลย Primer ตัวนี้ช่วยควบคุมความมันและช่วยทำให้ใบหน้าเรียบเนียน เครื่องสำอางติดทน

รูปภาพ:

Step 2. THREE Airlift Smoothing Wand

ขอบอกว่าตัวนี้คือ การเติมฟิลเลอร์แบบไม่เจ็บตัวนั่นเองค่า ตัวนี้คือคอนซีลเลอร์ที่ไม่มีสีนั่นเองค่ะ หลายคนอาจจะสงสัยว่า....ไม่มีสีแล้วมันจะช่วยยังไง ที่เป็นเนื้อสีชมพูอ่อนตัวนี้ค่ะจะเป็นตัวที่พอทาแล้วจะทำให้บริเวณที่ทาดูสว่างมากขึ้น เมื่อไปกระทบกับแสง

หวานจะลงบริเวณที่เป็นพวกริ้วรอยเยอะๆ คือร่องแก้ม รอยย่นที่หน้าผาก และรอยใต้ตาค่ะ คือมันใช้ง่ายมากเพราะมีขนาดเล็กกะทัดรัดสามารถเข้าถึงตามซอกจมูกร่องแก้มได้เป็นอย่างดีจริงๆใช้ Airlift ก่อนทารองพื้นก็ได้ค่ะ แต่ถ้าให้ถูกต้องคือใช้หลังลงรองพื้นค่า เพราะ ไม่มีสีไม่ทำให้เกิดคราบ สามารถใช้เติมระหว่างวันได้เลยค่ะ

รูปภาพ:

Step 3. THREE Angelic Synthesis Foundation Serum #101

เป็นรองพื้นที่เหมือน Skin careค่ะ คือจะมีเนื้อผลิตภัณฑ์ที่มีความบางเบา เหมาะมากสำหรับ Everyday Look เวลาลงให้ใช้นิ้วมือนวดไปเรื่อยๆค่ะ ความอุ่นจากมือจะช่วยให้ออยล์ ทั้ง 9 ชนิดในรองพื้นทำงานได้ดีทำให้ผิวเนียนและกลืนไปกับผิวที่สุดค่ะ และรองพื้นตัวนี้มีกันแดด SPF 38/PA+++ คือสามารถควบคุมความมันได้ ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่มแน่นอน

หากต้องหารปกปิดเพิ่มสามารถสร้างเลเยอร์ซ้ำได้เลย ในรูปหวานลง 2 รอบ ยังเห็นเป็นงานผิวอยู่ เป็นธรรมชาติมากค่ะ สำหรับรอยคล้ำตรงใต้ตา หวานลงเพิ่มเป็น Conceler ได้อีก ไม่ตกร่องคอนเฟิร์มจ้า เพื่อนๆไปลองเทสสีดูได้เลยค่ะ ตัวหวานใช้ 101 อาจจะดูขาวไปแต่พอรองพื้นเซ็ทตัวแล้วพอดีผิวค่ะ



รูปภาพ:

Step 4. Illamasqus Cream Blusher #Dixie

ครีมบรัชสีชมพู ที่ลงแล้วดูสุขภาพดี หวานเป็นคนที่ชอบใช้ครีมบรัชมากค่ะ เพราะให้ความรู้สึกว่าเนียนกว่า และดูเป็นธรรมชาติมากและติดทนด้วยค่ะ พอลงแลัวแก้มจะดูมีเลือดฝาด



รูปภาพ:

Step 5.THREE Ultimate Diaphanous loose Powder #1

แป้งฝุ่น THREE ชอบมาก เคยใช้รุ่น Colorless ก็ดีมาก และตัวนี้เป็นสูตรใหม่เป็นเนื้อ lucentmatte เนื้อเนียนละเอียดคือลงปุ๊ปกลืนปั๊ปอะไรเบอร์นั้น หวานใช้พัฟของ THREE ลงก็นุ่มมากเลย ใครอยากใช้แปรงคาบูกิลงก็จะได้งานผิวเบาๆ ค่ะ สูตรใหม่นี้จะควบคุมความมันได้ดีกว่าเดิมและ คุมมันได้ยาวนานกว่า ไม่ทำให้หน้าหมองระหว่างวัน



รูปภาพ:

Step 6.Benefit Hoola/Autrium Mono eyes #M18/Cathy Doll Real Brow 4D Tattoo Tint

หวานใช้ Eye shadow แบบฝุ่น สีน้ำตาลอมเทา ผสมกับ Benefit Hoola ลงนะคะเพราอยากให้ดูไม่เข้มจนเกินไป แล้วเติมด้วย tattoo tint ของ Cathy Doll ลงตามช่องว่างให้ดูมีขนคิ้วเรียงเส้นสวยดูเป็นธรรมชาติค่ะ เขียนคิ้วแบบง่ายเร็วๆ เลยนะคะ



รูปภาพ:

Step 7. Etude House Play Color Eyes Cherry Blossom

แต่งตาวันนี้ก็ง่ายๆค่ะจะขอลงสีทองอมส้มนิดๆ ที่บริเวณเปลือกตา และ สีน้ำตาลอ่อนบริเวณหางตาค่ะ เบลนด์ให้เข้ากันเป็นอันเสร็จเรียบร้อยหวานไม่เน้นการลงสีตามากนะคะ เพราะอยากให้โฟกัสที่ผิวมากกว่าค่า



รูปภาพ:

Step 8. Lancome Grandiose Smudgeproof/ Marc Jacobs Highliner Gel Eye Crayons

วันนี้หวานขอเลือกมาสคาร่าของลังโคมค่ะ เพราะตัวนี้เป็นตัวที่ใช้ประจำเลย เนื่องจากปัดแล้วดูเป็นธรรมชาติสุดๆ ไม่จับตัวเป็นก้อนติดทนนาน ด้วยค่ะ ตัวแปรงจะโค้งแบบ Swan-Neck สามารถเขาได้ทุกมุม ไม่เลอะเทอะเวลาปัดค่ะ ต่อด้วยลง Marc Jacobs In-Liner ที่ขอบตาด้านบนนิดหน่อยเพื่อเพิ่มความหนาของขนตา ให้ดวงตาดูกลมโตนั่นเองค่า เสร็จแล้วในส่วนของตา ง่ายๆ เบาๆ กันไปค่า



รูปภาพ:

Step 9. Dior Addict Lipstick 754 Pandore/MAC kinda Sexy

หวานลง Dior 754 ด้านในก่อนนะคะ เพราะตัวนี้จะให้เนื้อไม่แมทเกินไปทำให้ปากดูสุขภาพดี อมแดงเบาๆ ค่ะ และจะลงทับด้วย MAC Kinda Sexy เป็นสีนู้ดที่ไม่ป่วยทาเดี๋ยวๆ ก็สวย หวานลงรอบๆเพื่อกลบสีปากอันดำคล้ำ แล้วเราใช้นิ้วมือเบลนด์ทั้ง 2 ตัวให้เข้ากันค่ะ ใครอยากจะลงลิปกลอสทับเบาๆ ตามลงไปก็ได้เลยค่า

สุดท้ายนี้สำหรับใครที่ต้องการความพุ่ง ก็สามารถลง Hi-Light ได้เลยค่าแต่หวานไม่ได้ลงแล้วเพราะอยากให้ดูเป็นธรรมชาติ แต่หวานจะขอลงเป็นบรอนเซอร์เบาๆ แทนนะคะพูดเลยว่าลงเบามากๆ หวานใช้ Benefit Hoola เพราะสีเค้าไม่เข้มไม่อ่อนเกินไปค่ะกลมกลืนดี

รูปภาพ:รูปภาพ:

หวานว่ายังดูเป็นงานผิวอยู่นะคะ ดูไม่หนา ถามว่าปกปิดได้ดีไหมคือถ้าพวกรอยแดงสามารถปกปิดได้ดีเลยค่ะ แต่รอยสิวที่มีสีเข้มมากๆ ต้องใช้คอนซีลเลอร์ช่วยด้วย ใต้ตาหวานของหวานคล้ำนิดดึง ใช้รองพื้น ลงทับอีก 1 รอบคือสามารถปกปิดได้ค่ะ จริงๆ นะหวานว่า เดี๋ยวนี้การแต่งหน้าหนาๆ ลงรองพื้นหนาๆมันไม่ IN แล้วค่ะ อยากให้สาวๆได้ เผยผิวใส แต่งแบบง่ายๆ ไม่เยอะบ้างน้า ไว้เจอกันครั้งหน้าจะมีไอเทมอะไรมารีวิวอีก โปรดรอติดตามค่า