ทุกวันนี้การสั่งของหรือซื้อเสื้อผ้าแทบจะไม่ต้องลงทุนขับรถไปไปพบเจอกับสภาวะรถติดบนทางด่วนให้น่าเหนื่อยใจ ไม่ต้องพบเจอกับเซลที่เดินตามเราไม่หยุด เพราะการช้อปปิงสามารถเกิดได้ด้วยคลิกเดียวขอแค่โดนป้ายยามา เราก็พร้อมจะกดสั่งซะเดี๋ยวนี้เลย และรอไม่กี่วันของก็มาถึงหน้าบ้านแล้ว หลายคนคงมองว่าการช้อปปิงก็เป็นเหมือนกิจกรรมที่ช่วยบำบัดจิตใจเราจากการทำงานที่เหนื่อยล้า จากสภาพแวดล้อมที่กดดัน ! การได้เห็นเงินที่เราหามาไหลออกไปนี่มันช่างบรรเทิงใจ !!! สิ่งนี้เรียกว่าช้อปปิ้งบำบัดหรือ Retail therapy นั่นเอง รายละเอียดจะเป็นยังไง มาดูกันเลยค่ะ

รูปภาพ:

ช้อปปิ้งบำบัด ชวนรู้จัก Retail Therapy มีความสุขก็จริง แต่ก็ดันมีข้อเสียด้วย

รูปภาพ:

ความหมายของ retail therapy นั่นก็คือ การช้อปปิ้งเพื่อบำบัดจิตใจนั่นเอง หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าการสั่งของของเราก็สามารถเป็นหนึ่งในสิ่งคลายเครียดได้ด้วย ถึงแม้เงินจะไหลออกไปก็ตามที โดยจิตแพทย์ Scott Bea ได้มีการบอกไว้ว่า

“ การช้อปปิ้งนั้นเป็นอีกวิธีที่ช่วยบำบัดจิตใจเราได้ และในบางครั้งเอง คุณก็รู้สึกดีกับการแค่เพิ่มของลงตะกร้าแล้วด้วยซ้ำนะ มากไปกว่านั้น แค่หน้าต่างของเว็บไซต์ช้อปปิ้งก็ทำให้สมองของคุณเบิกบานแล้ว ”

แน่หล่ะว่าการช้อปปิ้งช่วยบำบัดเราได้ก็จริง แต่เราก็ต้องรู้จักควบคุมและวางแผนกันไว้ก่อนนะคะวันนี้เราก็เลยจะพาทุกคนมาสำรวจข้อดีข้อเสียของการช้อปปิ้งกันหน่อยว่ามีอะไรบ้าง

ช้อปปิ้งบำบัด และข้อดีที่เกิดขึ้น

รูปภาพ:

ช้อปปิ้งบำบัด ช่วยให้ร่างกายหลั่งสารโดปามีน

จากงานวิจัยของ The Journal of consumer psychology เมื่อปี 2014 มีการชี้ให้เห็นว่า การช้อปปิงบำบัดไม่ใช่แค่ช่วยในการทำให้ผู้คนมีความสุขแต่ยังสามารถจัดการกับภาวะเศร้าได้

ซึ่งภาวะเศร้านั้นเป็นผลลัพธ์ที่หลายครั้งเกิดมาจากสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตที่เราไม่สามารถควบคุมหรือจัดการได้ แต่การช้อปปิ้งนั้นจะทำให้ความสามารถในการจัดการหรือควบคุมสิ่งต่าง ๆ ของเราดีขึ้น

และยังทำให้สารโดปามีนหลั่งได้ง่าย เพราะการที่เรารู้ว่าเราจะได้เลือกซื้อสิ่งที่จะทำให้เรามีความสุข ก็ทำให้สมองหลั่งสารควบคุมความสุขนี้ออกมาถึงแม้ว่าจะยังไม่ทันได้กดสั่งก็ตาม

ช้อปปิ้งบำบัด ช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุมสิ่งต่าง ๆ

อย่างที่บอกไปว่าการช้อปปิ้งทำให้เราสามารถเพิ่มทักษะในการควบคุมสิ่งต่าง ๆ ได้ นั่นก็เพราะว่า ในการสั่งของหรือซื้อของ เราเป็นคนเลือกและใช้นิ้วจิ้มว่าจะเอาชิ้นนี้ ฉันต้องได้ชิ้นนี้ และนั่นคือการที่เราสามารถควบคุมสถานการณ์และผลลัพธ์ได้ด้วยตัวเอง จึงทำให้เรารู้สึกไปในด้านบวกกับการพิชิตเป้าหมายเล็ก ๆ ได้

ช้อปปิ้งบำบัด ช่วยให้เราไม่เครียดจากการจินตนาการถึงสินค้าต่าง ๆ

การได้ใช้จินตนาการในการเลือกซื้อของไปด้วย ช่วยให้เราสามารถพักจากความเครียดหรือความกังวลจากเรื่องอื่น ๆ การได้ลองนึกว่าเสื้อตัวนี้เป็นยังไง ขนาดเท่าไหร่ ใช้เนื้อผ้าอะไร พอมาอยู่บนตัวเราแล้วจะเป็นแบบไหนกันนะ ก็ทำให้สมองเรานั้นเบิกบานมากขึ้น

ช้อปปิ้งบำบัด ก็มีข้อเสียเหมือนกันนะ

รูปภาพ:

ช้อปปิ้งบำบัด อาจจะทำให้เราเสพติด

แน่หล่ะว่าการช้อปปิ้งช่วยให้คนเราอารมณ์ดีขึ้นได้ แต่ในทางกลับกัน หากการช้อปปิ้งของเรานั้นเกินควบคุมก็มักที่จะเกิดผลเสียได้ด้วยเช่นกันการเสพติดการช้อปปิ้ง( Compulsive Buying Disorder : CBD )หรืออาการ“การคลั่งการชอปปิง”

คือสภาวะที่ไม่สามารถยั้บยั้งชั่งใจตนเองในการซื้อสินค้าได้ หากไม่ได้ทำการสั่งซื้อจะเกิดความกระวนกระวายใจ และหากได้ซื้อก็จะรู้สึกดีขึ้นนั่นเอง และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับอาการ CBD ก็อย่างเช่น งานวิจัยจาก Pennsylvania State University แสดงให้เห็นว่า จากจำนวนนักศึกษา 400 คนที่ใช้วิธีการช้อปปิ้งเพื่อบำบัดนั้นเป็นกลุ่มของนักศึกษาที่เคยผ่านการลดน้ำหนักมาก่อน และเคยมีอาการของโรคอนาร็อกเซียและบูลิเมียเกี่ยวข้อง เพราะเคยมีการไม่พึงพอใจในรูปร่างของตัวเอง จึงทำการสั่งซื้อสินค้าอย่างเสื้อผ้า และเครื่องประดับมากจนเกินควบคุม เพื่อการถูกยอมรับจากผู้คน

สัญญาณของการเสพติดการช้อปปิ้ง

สัญญาณของการเสพติดการชอปปิง

รูปภาพ:

สัญญาณข้อที่ 1 รู้สึกยากที่จะไม่ซื้อของ แม้ว่าจะเป็นของที่ไม่จำเป็น

หากเราเสพติดการช้อปปิ้งแล้วนั้น เราจะพบว่ามันยากที่จะห้ามใจตัวเองให้ซื้อของ ต่อให้เป็นของที่เรารู้สึกว่าไม่จำเป็นก็ตาม เราอาจจะหาข้ออ้างให้ตัวเองว่าซื้อมาก่อน ใช้ไม่ใช้ก็ค่อยว่ากัน เพราะว่าเราไม่สามารถปฎิเสธตัวเองได้ ทำให้เริ่มเสียความสามารถในการยับยั้งชั่งใจตัวเอง

สัญญาณข้อที่ 2 ใช้เวลามากจนเกินไปกับการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับของชิ้นนั้น

คิดว่าหลายคนคงอาจจะเป็น กับการศึกษาหาข้อมูล อ่านรีวิว เกี่ยวกับของที่เราจะซื้อ แน่หล่ะว่ามันคือสิ่งพื้นฐานที่ผู้บริโภคควรทำ แต่การที่เราอ่านและดูรีวิวของชิ้นเดิมซ้ำไปซ้ำมา ก็อาจจะบ่งบอกได้ว่าเราเสพติดการช้อปปิ้งเช่นเดียวกันค่ะ

สัญญาณข้อที่ 3 การเงินติดขัด

ถ้าหากเราไม่สามารถควบคุมความอยากในการซื้อของได้ แน่นอนหล่ะว่าปัญหาคงไปหนักอยู่กระเป๋าตังค์และเงินเก็บในบัญชี เงินที่หามาได้ก็จะร่อยหรอลงทุกวัน ๆ เพราะฉะนั้นทุกคนจงมีสติในการช้อปนะคะ !

สัญญาณข้อที่ 4 มีปัญหาในการใช้ชีวิตเพราะควบคุมตัวเองไม่ได้

แน่หล่ะว่าการซื้อของแบบยั้บยังชั่งใจตัวเองไม่ได้ ก็จะทำให้เราสูญเสียความสามารถในการควบคุมตัวเอง ในกรณีนี้อาจส่งผลกระทบในด้านการใช้ชีวิต หรือการตัดสินใจในระยะยาวได้

.·:*¨ ✘♚✘ ¨*:·.

รูปภาพ:

เป็นไงกันบ้างสาว ๆ พบว่าตัวเองก็แอบคลั่งรักการช้อปปิ้งหรือเปล่า แน่หล่ะว่าการช้อปปิ้งบำบัดการซื้อของทำให้ชีวิตเราดีขึ้น ตามเทรนด์และทันสมัยกับเขา แต่ถึงอย่างนั้นก็อย่าลืมควบคุมตัวเองและสุขภาพกระเป๋าตังค์กันด้วยนะคะ ฝากทุกคนชอปปิ้งกันอย่างมีสติ แล้วกลับมาพบกันใหม่ได้ที่https://sistacafe.com/นะ กู๊ดบาย

Cr.https://health.clevelandclinic.org/retail-therapy-shopping-compulsion/

Cr.https://sapparot.co/2018/08/08/compulsive-buying-disorder-to-be-classed-mental-illness/

บทความแนะนำ ที่ซิสต้องไม่พลาด