1. SistaCafe
  2. ทำไมไม่ลด? 5 สาเหตุ 'ลดน้ำหนักไม่ลง' สาวๆ เช็คด่วน!!!

เคยเจอปัญหาเวลาที่เราตั้งใจที่จะลดน้ำหนัก แต่กลับลดไม่ลงบ้างไหมคะ


ออกกำลังกายตามตารางก็แล้ว ลดอาหารมัน หันมาทานอาหารสุขภาพก็แล้วแต่ก็ยังคงน้ำหนักเท่าเดิม


แถมหุ่นก็ไม่ลดลงยังคงให้หุ่นที่อวบอั๋นเท่าเดิมเป็นแบบนี้แล้วรู้สึกงงใช่ไหมคะ?


วันนี้เราจึงขอมาไขปัญหา5 สาเหตุควรรู้ของสาวที่ลดน้ำหนักไม่ลงรีบมาเช็คกันเร็ว!!


1.ลด ละ เลิก ไม่จริง


ออกกำลังกายตามตาราง ลดมื้ออาหารลง ทำแบบนี้ทุกวัน แต่ยังคงนอนดึกตื่นเช้าเพราะติดโซเชียล และถึงแม้จะไม่รับประทานของหวาน งดน้ำตาลและไขมัน แต่ยังคงรับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งตามปกติ


ที่สำคัญคือกาแฟ ถ้าคิดว่าลดมาทั้งอาทิตย์แต่ดื่มกาแฟใส่นมเท่าเดิมก็คงไม่มีปัญหาอันนี้ผิดถนัด ปัญหานี้จึงเป็นปัญหาโลกแตกของสาวลดความอ้วนเลยทีเดียว


วิธีแก้คือเปลี่ยนมารับประทานอาหารคลีน ผักผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อการลดน้ำหนัก ลดแป้งและคาร์โบไฮเดรต พร้อมทั้งเครื่องดื่มสุดโปรดอย่างกาแฟใส่นมแล้วเปลี่ยนมาเป็นกาแฟดำร้อน หรือถ้าชอบแบบเย็นก็กาแฟดำแบบไม่เติมหวานใดๆ นอนตรงตามเวลาอย่าให้เกิน 4 ทุ่มเด็ดขาด แล้วตื่นมาพร้อมการดื่มน้ำเปล่าประมาณ 2 แก้ว


เท่านี้การลดน้ำหนักก็จะเห็นผลมากยิ่งขึ้น แล้วหาน้ำดีท็อกซ์มารับประทานเพิ่มเพื่อช่วยในการล้างไขมันที่ลำไส้ ทำให้ลำไส้ทำงานดีขึ้น ซึ่งจะเป็นที่มาของการลดน้ำหนักได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย


2.ทดแทนส่วนที่หายไป


เมื่อออกกำลังกายมาได้สักระยะ แล้วรู้สึกว่าน้ำหนักน่าจะลดลงหรือคิดไปเองว่าเหงื่อออกขนาดนี้ก็ต้องลดลงบ้างแล้วล่ะ หรือบางคนก็อาจจะชั่งน้ำหนักแล้วเห็นว่าลดลงไปแล้ว 1 กิโลกรัม ก็รู้สึกดีใจกับความเหนื่อยจนลืมตัว ฉลองอาหารเต็มที่หลังการออกกำลังกาย หวังว่าพรุ่งนี้จะออกใหม่


ซึ่งนั่นเป็นการทำให้ร่างกายจดจำว่าทุกครั้งหลังออกกกำลังกายต้องมีการกินเพื่อทดแทนความกระหาย แต่ไม่ได้มีประโยชน์ต่อร่างกายแต่อย่างใด


วิธีแก้ไขคือ พยายามหยุดการรับประทานอาหารให้ได้ หรือใช้เป็นอาหารคลีน อาหารแคลอรี่ต่ำ ผลไม้ หรือขนมที่ทำจากผลไม้ที่มีไขมันและน้ำตาลต่ำ พร้อมด้วยเครื่องดื่มอย่างนมถั่วเหลืองหรือน้ำดีท็อกซ์เตรียมเอาไว้ในกระเป๋า


เมื่อรู้สึกอยากอาหารหลังออกกำลังกายก็หยิบเอาของเหล่านี้ขึ้นมารับประทานครั้งละหน่อย เท่านี้ก็จะสามารถลดความอยากอาหารที่มีอยู่ลงได้เรื่อย ๆ แล้วอย่าลืมเตรียมตาชั่งไว้ที่บ้านเพื่อที่จะได้ไม่หลอกตัวเองว่าน้ำหนักลดลงแล้วนั่นเอง


3.ไม่มีความต่อเนื่อง


ออกกำลังกายได้ 3 วัน หายไป 2 วัน ออกกำลังกายได้ 4 วัน หายไปอีก 5 วัน ทำแบบนี้สักพักร่างกายไม่มีวันกระชับแน่นอนค่ะ และถ้าเป็นคนที่รับประทานอาหารหนักแล้วด้วย ก็ยิ่งเพิ่มน้ำหนักให้ร่างกายมากกว่าจะลด


พอรู้สึกว่าอ้วนขึ้นก็กลับไปออกกำลังกายใหม่ แต่พอรู้สึกผอมลงก็หายไป จนเริ่มรู้สึกเบื่อและหาข้ออ้างที่จะออกกำลังกายมาทดแทนใส่สมอง ทั้งรถติดขี้เกียจไปฟิตเนส หรือไม่มีเวลาว่างเพราะกลับบ้านเย็น เป็นต้น


วิธีแก้ไขคือ เปลี่ยนความคิดแล้วฮึดสู้ ยอมรับว่าในผู้หญิงบางคนห้ามได้ยาก เพราะฉะนั้นต้องเริ่มเปลี่ยนตั้งแต่ความคิดไปเลย ซื้อกระจกบานใหญ่ที่สามารถส่องเห็นได้ทั้งตัวไว้ที่บ้าน การได้เดินผ่านกระจกจะทำให้ได้เห็นรูปร่างที่แท้จริงของตัวเอง


ต่อให้ไม่มีเวลาแค่ไหน แต่เชื่อว่าต้องมีเห็นแว่บๆ ที่หางตาบ้างล่ะ เชื่อว่าด้วยความที่เป็นผู้หญิงเห็นรูปร่างอันแสนอวบ ขาท่อนใหญ่และหน้าท้อง ท้องแขนห้อยต้องรู้สึกฮึดได้อย่างต่อเนื่องแน่นอน!!


4.บ่งบอกถึงอาการของโรค


โรคบางชนิดก็ทำให้ไม่สามารถที่จะลดน้ำหนักลงได้ เพราะฉะนั้นถ้ารู้สึกว่าลดไม่ลงจริง ๆ แบบที่ไม่ได้ทำตาม 3 ข้อด้านบนแล้ว แนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์เลยค่ะ เพื่อที่จะสามารถรักษาหรือป้องกันได้ทันนั่นเอง


ควรที่จะทำการตรวจโรคในทุกปีหรือถ้ามีน้ำหนักที่มากเกินไปก็ควรหาพบแพทย์ตามที่แพทย์สั่ง หรือทุก ๆ 3-6 เดือน เพื่อที่จะตรวจหาโรคที่อาจจะเป็นอันตรายกับร่างกายในอนาคตได้นั่นเอง


วิธีแก้ไขคือ นอกจากจะจดเรื่องน้ำหนักและวิธีการออกกำลังกายในทุกวันแล้ว ก็ควรที่จะคอยสังเกตดูความเปลี่ยนแปลงหรืออาการแปลก ๆ ของร่างกาย อย่างเช่นการเกิดรอยช้ำตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอย่างไร้สาเหตุ มีผื่นคันขึ้น หรือมีอาการเบื่ออาหารแบบฉับพลันแต่น้ำหนักกลับไม่ลดลง เป็นต้น เมื่อพบก็ต้องได้รับการรักษาทันที


5. ใจร้อนไปไหม?


ผู้หญิงบางคนวางแผนออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง มุ่งมั่นมาก ออกกกำลังกายตามที่ต้องการได้ทุกวัน ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีแต่เมื่อทำได้ไม่นานก็รู้สึกเบื่อ ละทิ้งไม่ยอมทำต่อ หรือเปลี่ยนรูปแบบใหม่ เพราะคิดว่าการออกกำลังกายแบบเก่าไม่ได้ผลอะไรเลยทั้งที่ทำมาได้เพียงแค่ 2 อาทิตย์เท่านั้น หรือจัดตารางการรับประทานอาหาร พร้อมด้วยวิธีการลดอาหารลงจนเหลือแค่มื้อเดียว


เพราะความใจร้อนต้องการผอมจนอาจจะทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะขาดน้ำและน้ำตาลลงต่ำอย่างรวดเร็ว และสุดท้ายก็จะเกิดอาการช็อกในที่สุด ถือว่าเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมากเลยทีเดียว


วิธีแก้ไขคือ ทางสายกลางคือสิ่งที่ดีที่สุด ออกกำลังกายตามตารางอย่างพอดีประมาณ 15-20 นาทีต่อวันไปก่อน แล้วเมื่อร่างกายเริ่มชินจึงค่อยๆ เพิ่มเวลาไปทีละน้อย อย่าขี้เบื่อและอย่าเปลี่ยนรูปแบบไปเลยอย่างรวดเร็ว แต่ให้นำเอามาผสมผสานเป็นท่าที่รวมกันได้ เพราะร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะต้องใช้เวลานานกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ในขณะที่บางคนแค่ 2 อาทิตย์ก็เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด


ส่วนเรื่องการรับประทานอาหารอย่าลดอย่างรวดเร็วให้รับประทานแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่เน้นเป็นอาหารสุขภาพที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจริง ๆ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว



การออกกำลังกายที่ถูกต้องคือการได้ทำให้ร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง และได้หุ่นที่สวยงามไม่ใช่การหักโหมจนทำให้เกิดเป็นอันตรายต่อตัวเองได้และการรับประทานอาหารก็ต้องรู้จักที่จะฉลาดกิน จึงจะสามารถลดน้ำหนักได้ตามแบบที่ต้องการ พร้อมการดูแลสุขภาพกายและใจควบคู่ไปด้วย


เพราะฉะนั้นใครที่คิดว่าตัวเองลดน้ำหนักไม่ลง ลองมาดูว่าตัวเองอยู่ประเภทไหน แล้วลองนำเอาคำแนะนำไปใช้กันดูนะคะ ของให้สาวๆ ทุกคนที่ลดความอ้วนอยู่ประสบความสำเร็จค่ะ


บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้