สวัสดีค่ะชาวซิสสส! เคยมีใครตื่นเช้ามาแล้วต้องเจอกับถุงน้อย ๆ ใต้ตาเหมือนกันบ้างไหมคะบวมเป่งจนคนรอบข้างเอาแต่ทักว่าเป็นอะไรเพราะเจ้าถุงใต้ตาที่ตามมาทุกครั้งหลังตื่นนอนจะทำให้หน้าของเราดูโทรมขึ้น และถ้ารุนแรงไปมากกว่านั้นถุงใต้ตาอาจมาพร้อมกับริ้วรอยหรือผิวเหี่ยวย่นด้วยค่ะโอ๊ยยยย! เล่นทำเอาหมดความมั่นใจเลยนะค่ะต้องบอกก่อนว่าสาเหตุของถุงใต้ตามีหลายอย่างมากกกกก ซึ่งครั้งนี้ทางเราเลยอยากมาแนะนำวิธีแก้ปัญหาถุงใต้ตาที่เพื่อน ๆ สามารถทำตามกันได้มาแนะนำกันค่ะแอบกระซิบว่าถ้าทำเป็นประจำช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน

6 วิธีกำจัดถุงใต้ตา พร้อมบอกลาความหมองคล้ำ ที่ทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ʔ•̫͡•ʔ

1. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/4e/a9/32/4ea932e98a495514c9215340b11c3ad1.jpg

การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการนอนหลับให้เพียงพอค่ะ เพราะหากลองสังเกคจะพบว่าถุงใต้ตาที่เกิดขึ้นมักจะบวมเป่งเป็นพิเศษในวันที่พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนน้อย หรืออดนอนและที่สำคัญยังได้ของแถมมาเป็นรอยคล้ำใต้ตาอีกด้วยค่ะ ดังนั้นจึงควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอโดยระยะเวลาที่เหมาะสมอยู่ที่ 7-9 ชั่วโมงต่อวันเพียงเท่านี้ก็จะช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตาและรอยคล้ำรอบดวงตาได้แล้วค่ะ ถือว่าเบสิคและทำง่ายสุด ๆ

2. ทาครีมบำรุงลดถุงใต้ตา

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/22/c8/bc/22c8bc3a3dfce44dd6247f48f1e23b52.jpg

การทาครีมบำรุงใต้ตาโดยเฉพาะถือเป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตาได้เหมือนกันแต่วิธีนี้จะต้องใช้ความอดทนและความสม่ำเสมอเป็นอย่างมากอีกทั้งการทำวิธีนี้เพียงเดี่ยว ๆ อาจยังไม่สำเร็จ เพราะต้องย้อนกลับไปที่ข้อแรกว่าเพื่อน ๆ ได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอหรือไม่หากประโคมดูแลผิวไปแค่ไหน แต่ถ้ายังนอนน้อย อดหลับอดนอนเป็นประจำ ถุงใต้ตาก็จะตามติดเหมือนเงาเลยนะค่ะซึ่งในปัจจุบันมีอายครีมให้เลือกเยอะมากกกกกก ชอบแบบเจลหรือแบบครีม เพื่อน ๆ สามารถไปเสาะหากันได้เลย

3. ประคบเย็นลดถุงใต้ตา

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/48/e4/3b/48e43b8c157e139f05da348ea26f3f66.jpg

วิธีนี้เรามักจะเห็นเหล่าไอดอลและคนดังแนะนำกันอยู่เป็นประจำบางคนอาจจะไม่ได้มาในรูปแบบน้ำแข็ง แต่เป็นช้อนสแตนเลสที่แช่ตู้เย็นแทนซึ่งสามารถใช้แทนได้เหมือนกันนะคะแนะนำให้แปะทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีนะคะ จะช่วยให้ถุงใต้ตาบวมน้อยลง และรู้สึกผ่อนคลายได้อีกด้วยถือว่าตื่นมาตอนเช้าเจออะไรที่เย็นๆแบบนี้ก็ปลุกให้ตื่นได้เหมือนกันนะเนี่ยแต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นน้ำแข็ง หรือช้อน ขอให้เลือกที่สะอาดด้วยนะคะ เพราะไม่งั้นอาจทำให้เกิดการติดเชื้อบริเวณดวงตาคราวนี้แหละบวมกว่าเดิมแน่นอน

4. ประคบใต้ตาด้วยถุงชา

รูปภาพ:http://p3.isanook.com/wo/0/ud/15/79957/79957-thumbnail.jpg

มาต่อกับอีกหนึ่งการประคบแต่รอบนี้เราจะไม่ได้ใช้ความเย็นเข้าช่วยแล้วค่ะ แต่จะเปลี่ยนมาเป็นการใช้ถุงชาแทน ซึ่งถือเป็นวิธีที่เรามักจะเห็นบ่อยอยู่เหมือนกันเพราะในตัวชาจะมีสารสำคัญที่ชื่อว่าแทนนินและคาเฟอีน ซึ่งสารทั้งสองนี้จะช่วยลดอาการบวมใต้ตาของเราได้ค่ะสำหรับวิธีทำก็ง่ายมาก ๆแค่เพียงนำถุงชาที่ใช้แล้ว ขอแบบอุ่น ๆ มาประคบบนเปลือกตา หรือใต้ตาทั้งสองข้างปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที เพียงเท่านั้นนี่คือตัวอย่างของการกินที่ได้ทั้งความอิ่มท้องและความงามอย่างแท้จริงเลยนะเนี่ย อิอิ

5. เลี่ยงอาหารเค็มจัด หรือมีโซเดียมสูง

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/93/a5/84/93a5847697464568e7df091dfed1222a.jpg

เชื่อว่าชาวซิสหลายคนคงเคยได้ยินคำเตือนที่ว่า อย่ากินมาม่าตอนกลางคืน เดี๋ยวหน้าจะบวมถือเป็นกรณีเดียวกันกับข้อนี้เลยค่ะซิสเพราะอาหารที่เค็มมากๆๆหรือมีโซเดียมเยอะเนี่ย จะทำให้ผิวของเราเกิดอาการบวม ซึ่งแต่ละคนก็อาจจะบวมกันคนละส่วนแต่โดยส่วนใหญ่บริเวณใบหน้าจะเห็นชัดมากที่สุด และใต้ตาของเราคือหนึ่งในนั้นด้วยนะสิคะบวมเป่งเชียว ( พูดแล้วจะร้อง )ดังนั้นพยายามเลี่ยงเลยนะคะเหล่าอาหารสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ ก่อนที่จะบวมมากกว่านี้

6. ดื่มน้ำเยอะๆ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/a9/8c/cb/a98ccbcf0e4cb9abec79f9b0af0cf327.jpg

เพราะคนที่ดื่มน้ำน้อย ผิวจะขาดน้ำ ทำให้บริเวณใต้ตาเหี่ยวและกลายเป็นถุงใต้ตาดังนั้นเนี่ยย้ำพกติดตัวไว้อย่าให้ขาดเลยค่ะ ดื่มน้ำเยอะ ๆ พื่อให้ผิวของเราเต่งตึงอยู่ตลอดเวลา อย่าปล่อยให้หย่อนคล้อยเด็ดขาด!! แต่แต่!น้ำที่เราบอกไปเนี่ยต้องเป็นน้ำเปล่าเท่านั้นนะคะก็แหม่ถ้าดื่มผิดประเภท เช่น แอลกอฮอล์ หรือน้ำอัดลมถุงใต้ตาจะมาอย่างไวเลยค่ะ เพราะน้ำเหล่านี้จะดึงน้ำออกจากร่างกายของเรา ทำให้ผิวแห้ง หย่อนคล้อยและกลายเป็นถุงใต้ตาในที่สุดนั้นเองค่ะไหนๆก็ดื่มน้ำทั้งทีดื่มที่มีประโยชน์แล้วกันเนอะ

เป็นไงบ้างคะลองทั้ง 6 วิธีแล้วหายบวมกันบ้างไหมคะ หากลองวิธีที่ทางเราแนะนำแล้วยังไม่ได้ผล การเข้าคลินอกเพื่อกำจัดเจ้าถุงกวนใจออกไปก็ไม่ใช่เรื่องผิดเลยนะคะสามารถทำได้แถมเห็นผลไว้อีกด้วย ส่วนเพื่อนๆคนไหนที่กำลังเริ่มมีปัญหาหารีบทำตามด่วนเลยค่ะอย่าให้น้องบวมไปกว่านี้เลยสงสารกันบ้างเถอะสำหรับบทความหน้าจะลดบวมอะไรกันอีกรอติดตามกันด้วยน้า