ปัญหาสิว ที่ว่าน่าหนักใจ เจอ" ปัญหาหลุมสิว "เข้าไปซิสขอเป็นลม! บอกเลยว่าหลุมสิวเป็นเรื่องใหญ่ที่ทำหลายคนหมดความมั่นใจกันไปเป็นแถบ นอกจากมองเห็นด้วยตาเปล่าจะชัด พอลองเอามือไปลูบบนผิวหน้าก็จะรู้สึกได้เลยว่าผิวไม่เรียบเนียน แถม Sad ยิ่งกว่าตรงที่ไม่ว่าจะตบคุชชั่น หรือลงคอนซีลเลอร์ทับลงไปก็ยังเห็นว่าผิวไม่เนียน เป็นหลุมอยู่อย่างนั้น จนหลายๆ ครั้งก็หมดสนุกกับการแต่งหน้าไปเลยวันนี้https://sistacafe.com/https://sistacafe.com/เลยรวบรวม 10 คำถามยอดฮิตสำหรับคนมีหลุมสิวมาให้ มาดูกันว่าหลุมสิวเจ้าปัญหาคืออะไร จะมีวิธีไหนที่พอจะช่วยกอบกู้ผิวให้กลับมาเรียบเนียนได้บ้าง เริ่มเลอ
รวม 10 คำถามยอดฮิตของคนมี ปัญหาหลุมสิว
Q1. หลุมสิวคืออะไร?
หลุมสิว (Atrophic Scars) คือ ปัญหาผิวชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการเป็นสิว โดยมีลักษณะเป็นรอยแผลที่เกิดจากการอักเสบของผิวหนัง ซึ่งหลังจากที่แผลหายดีแล้ว ผิวหนังไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้เต็มที่ เลยทำให้เกิดเป็นชั้นผิวที่ถ้าลองลูบด้วยมือแล้วจะรู้สึกว่าไม่เรียบเนียน เกิดเป็นหลุมสิวและร่องลึก
Q2. หลุมสิวเกิดจากอะไร?
สาเหตุของการเกิดหลุมสิวหลักๆ เลยก็คือเกิดจากการที่ระหว่างขั้นตอนซ่อมแซมผิวในช่วงที่เราเป็นสิว ตรงชั้นผิวหนังที่มีเนื้อเยื่อและคอลลาเจนจะมีส่วนที่เกิดความเสียหายขึ้น จนแผลไม่สามารถสมานได้เต็มที่ แล้วเกิดการยุบตัวของผิวจากการที่พังผืดดึงรั้งผิวบริเวณที่เป็นสิว จนทำให้ผิวเรามีลักษณะเป็นรอยบุ๋มลงไป และกลายเป็นหลุมสิวแบบที่เราเห็นนั่นเอง
Q3. สิวแบบไหนที่มักจะทำให้เกิดหลุมสิว?
สิวหัวช้างเม็ดใหญ่ (Cyst)
เป็นสิวขนาดใหญ่ที่มีหนองปนเลือดอยู่ภายในหัวสิว เกิดจากการอักเสบในต่อมไขมันใต้ผิวหนังและใช้เวลาในการรักษานาน
สิวอักเสบรุนแรง (Pustule)
หรือสิวหัวหนอง อักเสบเรื้อรังจนทำลายเซลล์ผิวที่อยู่ใต้ผิวหนังและคอลลาเจนในชั้นผิว
สิวตุมแดงขนาดใหญ่(Nodule)เป็นสิวที่ติดเชื้อแบคทีเรียจนลุกลามไปทั่วชั้นใต้ผิว
Ice-pick scars: the most common type of atrophic acne scars (60–70%). These are narrow, deeper than they are wide, and V-shaped with a sharp edge extending downwards into the deep dermis or subcutaneous tissue.Boxcar scars: the next most common type of atrophic scars; wider in size, round or oval shaped depressions with distinct edges.Rolling scars: wide, with a sloping edge that can be smoothed out if stretched.Perifollicular elastolysis: 2-4 mm hypo pigmented atrophic scars centred around hair follicles; most common on the back and chest
Q4. หลุมสิวมีกี่แบบ?
สำหรับประเภทของหลุมสิวที่สามารถเกิดขึ้นได้บนผิวหน้าของเรานั้น สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ด้วยกันค่ะ ซึ่งก็จะประกอบไปด้วย
➊หลุมสิวประเภท Ice Pick Scarsมีลักษณะแหลมและลึก ดูเล็กคล้ายรูขุมขนแต้ก้นหลุมเหมือนเหวลึก เลยทำให้กว่าจะสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเต็มหลุมสิวได้จึงยากมาก แถมหลุมสิวประเภทนี้ก็รักษายากที่สุดด้วย
➋หลุมสิวประเภท Boxcar Scar
มีลักษณะเหมือนกล่อง เป็นรอยแผลสี่เหลี่ยม หรือสี่เหลี่ยมมุมฉากที่ลึกมากกว่ารอยแผลทั่วไป ความกว้างปากหลุมและก้นหลุมจะค่อนข้างเท่ากัน มีขอบชัดเจน
➌หลุมสิวประเภท Rolling Scar
เป็นหลุมสิวที่ดูกว้างแต่จะไม่ลึก รอยแผลจะ โค้งคล้ายก้นกระทะ แต่หลุมสิวชนิดนี้เป็นหลุมสิวที่รักษาได้ง่ายที่สุดเมื่อเทียบกับหลุมสิวประเภทอื่นๆ
Q5. รักษาหลุมสิวด้วยตัวเอง ได้ไหม?
ซิสเชื่อว่าหลายๆ คนก็คงกำลังมองหาวิธีรักษาหลุมสิวด้วยตัวเอง เพราะอยากที่จะประหยัดเงินในกระเป๋า ก็แหม หัตถการมันราคาแรงไปมาก ดังนั้นวิธีเบื้องต้นที่จะพอช่วยได้ก็อย่างเช่น การเลือกใช้สกินแคร์ลดหลุมสิวต่างๆ แต่ๆ ๆ ๆ ต้องขอเตือนก่อนตรงนี้ว่าการทาสกินแคร์จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแค่ที่ผิวหนังชั้นนอกเท่านั้น ไม่สามารถรักษาหลุมสิวที่ลึกลงไปในผิวหนังได้ แม้จะใช้นานแค่ไหนก็ตาม ถ้ารู้สึกท้อ รอไม่ไหว ใช้ไปเป็นเดือนหรือหลายเดือนแล้วยังไม่เห็นผล หรือเห็นผลน้อย ซิสแนะนำว่าให้ลองไปพบหมอดีกว่า จะได้จัดการปัญหาได้อย่างถูกจุดและเห็นผลลัพธ์โดยไม่เสียเงินเปล่า
Q6. หลุมสิวนานไหมกว่าจะหายไป?
ส่วนนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการรักษา ความรุนแรงของหลุมสิว และอื่นๆ อีกหลายปัจจัย แต่ส่วนใหญ่จะใช้เวลานาน อาจจะ 4-6 เดือน หรือแม้จะรักษาด้วยหัตถการก็อาจจะใช้เวลาเป็นปีเลยก็ได้กว่าหลุมสิวจะหายไป ดังนั้นพยายามดูแลตั้งแต่ตอนเป็นสิวให้ถูกต้อง จะได้ป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิวตามมานะคะ
Q7. บีบสิวเม็ดเล็กๆ จะทำให้เกิดหลุมสิวไหม?
อย่างที่ซิสได้ไปก่อนหน้านี้ว่าปกติแล้วหลังจากสิวหายร่างกายเราก็จะมีกระบวนการซ่อมแซมผิวหนังโดยไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น โดยจะมีการสร้างเซลล์ผิวหนังและคอลลาเจนล้อมรอบบริเวณที่มีการอักเสบ ซึ่งถ้ากระบวนการนี้เกิดได้อย่างสมบูรณ์ก็จะไม่มีรอยแผลเป็นจากการเกิดสิว
แต่ถ้ากระบวนการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไม่สมบูรณ์หรือได้รับผลกระทบจากภายนอก โดยเฉพาะการใช้มือบีบหรือกดสิวด้วยเครื่องมือที่ไม่สะอาด อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรกอื่นๆ เข้าสู่เนื้อผิวหนัง และส่งผลให้เกิดเป็นสิวอักเสบรุนแรง ทีนี้ผิวเราก็จะยุบลง เซลล์เนื้อเยื่อเกิดการหดรัดตัว ทำให้เกิดรอยแผลเป็นหรือหลุมจากสิวได้นั่นเองจ้า เพราะฉะนั้นจะอยากบีบแค่ไหนก็ห้ามมือไวเด็ดขาดด
Q8. หลุมสิวรักษายังไง?
➊การทำเลเซอร์หลุมสิว
วิธีเลเซอร์หลุมสิวได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเห็นผลได้ไวแต่ก็มาพร้อมราคาค่อนข้างสูง ตัวที่เห็นผลมากที่สุดเลยก็คือ เลเซอร์ Radiofrequency (RF) เค้าจะเป็นการส่งคลื่นวิทยุเข้าไปในผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนผิวหนังชั้นล่าง ทำให้ผิวสามารถซ่อมแซมตัวเองได้และช่วยให้ผิวมีความเรียบเนียนมากขึ้น ตัวอย่างเลเซอร์ประเภทนี้เช่น Ematrix, Fractora, Infini & Potenca
➋การเซาะพังผืด (Subcision)
จะเป็นการใช้เข็มแบบพิเศษที่มีขนาดเล็ก สอดเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณที่เกิดหลุมสิว แล้วตัดพังผืดที่เกิดจากรักษาสิวที่ไม่สมบูรณ์ให้ขาดจากกัน เพื่อให้ผิวเด้งตัวกลับมา และช่วยให้เซลล์ผิวทำการซ่อมแซมใหม่อีกครั้ง➌การแต้มกรดใช้กรด TCA (Trichloroacetic acid) ความเข้มข้นสูงแต้มหลุมสิว โดย TCA จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ รวมถึงทำให้เกิดการเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจน *Note การรักษาด้วยการแต้มกรด TCA ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์เท่านั้นนะคะ ห้ามซื้อมาลองทำเองเดี๋ยวผิวจะไหม้ หน้าจะพังเอาได้➍ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวการใช้ฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นแบบเดียวกับฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า โดยที่จะฉีดเข้าไปบริเวณหลุมสิวเพื่อเติมเต็มหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้น ข้อดีคือเค้าจะช่วยให้ผิวฟูไวมากแต่ก็มีข้อเสียเหมือนกันตรงที่จะฟิลเลอร์จะอยู่ได้ไม่ยืนยาว เพราะไฮยาที่เติมไปก็จะค่อยๆ หมดไปตามกาลเวลา
Q9. สกินแคร์ลดรอยหลุมสิวได้ไหม?
ซิสขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าสกินแคร์ไม่สามารถลดรอยหลุมสิวได้แบบ 100% เพราะเค้าเพียงแค่เข้ามาช่วยป้องกัน และฟื้นฟูสภาพผิว โดยช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยลดรอยผิวตื้นๆ เท่านั้น ถ้าเรามีหลุมสิวลึกๆ อาจจะหวังการใช้สกินแคร์แล้วจะได้ผลลัพธ์แบบรอยสิวหายไปถาวรแบบนี้อาจจะไม่ได้ค่ะ แนะนำว่าให้เน้นไปที่การทำหัตถการจะดีกว่า แต่การใช้สกินแคร์จะไปเหมาะกับคนที่มีรอยสิวตื้นๆ ที่ใช้แล้วจะเห็นผลลัพธ์ได้มากกว่า
Tips
: ควรดูแลผิวควบคู่ไปกับสกินแคร์รูทีน ที่ช่วยดูแลและปกป้องผิวไม่ให้คอลลาเจนถูกทำลายมากขึ้น เช่น การทากันแดด เพื่อป้องกันอันตรายจากเจ้า UV ตัวร้ายที่ก็มีส่วนทำให้คอลลาเจนให้ผิวเสื่อมโทรมได้เช่นกัน
Q10. สกินแคร์ลดรอยหลุมสิว ควรมีส่วนผสมอะไรบ้าง?
ในส่วนของสกินแคร์ให้เน้นไปที่ตัวที่มีส่วนผสมของ
วิตามินเอ
ซึ่งเค้าจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวในระยะยาว เลยช่วยเติมเต็มรอยหลุมสิวให้ตื้นขึ้น และทำให้ผิวของเราเรียบเนียนมากขึ้น ส่วนผสมของวิตามินเอ จึงเป็นหนึ่งในส่วนผสมที่สำคัญในสกินแคร์ลดรอยหลุมสิว
นอกจากนั้นก็จะมี
Lactic Acid, AHA
ซึ่งกลุ่มนี้จะมีส่วนช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิว เมื่อเซลล์ผิวชั้นนอกสุดถูกผลัดออกไป ก็จะทำให้ผิวหน้าโดยรวมเรียบเนียนขึ้น หลุมสิวดูตื้นขึ้น แต่ก็อย่างที่บอกไป การผลัดเซลล์ผิวแบบนี้จะทำให้เกิดกาเปลี่ยนแปลงแค่ที่ผิวหนังชั้นนอกเท่านั้นน้า
- - - - - - - - - - - - - - -
เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 10 คำถามเกี่ยวกับคนมี
ปัญหาหลุมสิว
ที่
เอามาฝาก จะเห็นได้เลยว่าพอได้เป็นหลุมสิวทีนึงแล้ว วิธีจะรักษาใหเหายมันยากมากกก เพราะฉะนั้นต้องรีบป้องกันไม่ให้เกิดตั้งแต่แรก วิธีป้องกันหลักๆ คือดูแลผิวเป็นประจำ ทำความสะอาดผิว และทาครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิว เพื่อป้องกันการเกิดสิวให้ได้มากที่สุด เมื่อเป็นสิวก็ต้องรักษาอย่างถูกวิธี แต่ถ้ามีเป็นหลุมสิวขึ้นมาจริงๆ แนะนำให้เริ่มที่ประเมินก่อนว่าเป็นหลุมสิวรุนแรงไหม ถ้าเป็นหลุมสิวตื้นๆ บริเวณไม่กว้าง อาจจะลองใช้วิธีรักษาหลุมสิวด้วยตัวเองดูก่อนก็ได้ แต่ถ้าเป็นหลุมลึก แนะนำให้พุ่งตัวไปปรึกษาคุณหมอเพื่อรักษาด้วยหัตถการต่างๆ ได้เลยค่ะ
Designer :tt.
Writer :BabyPeachy
อ่านบทความเพิ่มเติมจาก
ได้ที่นี่
https://sistacafe.com/summaries/69634
https://sistacafe.com/summaries/68573
https://sistacafe.com/summaries/74967
หลุมสิวรักษายากกว่าสิว ลดโอกาสการเกิดสิว
รักษาไม่เห็นผล ต้องมีกันแดดป้องกันการสูญเสียคอลาเจน วิตามินเอกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาวทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นได้บ้าง
สกินแคร์ไม่ได้ช่วยรักษาหลุมสิวเลย ส่วนตัวต้องทำหัตถการทางการแพทย์ค่ะ