สวัสดีค่าชาวซิสที่กำลังจะเป็นบัณฑิตทั้งหลายยย~ช่วงนี้เป็นช่วงที่ใกล้จะรับปริญญากันแล้วใช่ไหมล่ะคะ คนที่เรียนจบไปก็เริ่มจะเตรียมตัวสำหรับการรับปริญญากันแล้ว แต่พอเตรียมตัวไปเตรียมตัวมาก็ได้รู้ว่าโอ้โห... เงินที่ต้องใช้จ่ายมีเยอะม้ากกก! เยอะจนอยากจะลดงบเลยแต่ก็ไม่รู้ว่าจะลดอะไร เราขอแนะนำให้ลดค่าแต่งหน้าค่ะ เพราะจริง ๆ แล้วงานรับปริญญาเราสามารถแต่งหน้าเองได้นะคะ ยิ่งถ้าใครไม่ได้เข้ารับด้วยเนี่ยจะช่วยประหยัดงบได้ดีมาก ๆ เลยล่ะ หรือถ้าใครไม่ได้ซีเรียสว่าต้องงานเป๊ะทุกระเบียดนิ้ว ฟังแล้วก็น่าสนใจใช่ม้า? ถ้าใครสนใจงั้นมาส่องวิธีแต่งหน้ารับปริญญาเองฉบับอัปเดตปี 2566/2023 กันเลยจ้า!Tips:ก่อนแต่งหน้าควรลงสกินแคร์บำรุงผิวก่อน ไม่ต้องลงเยอะจนเยิ้มเอาแค่พอดี ๆ เน้นเติมความชุ่มชื้นหรือมาสก์หน้าก็พอ หลังจากนั้นลงครีมกันแดด 2 ข้อนิ้วให้ทั่วหน้า รอมันซึมเข้าผิวแล้วเริ่มแต่งหน้าได้เลย!


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


อัปเดต 7 วิธี แต่งหน้ารับปริญญาเอง ฉบับอัปเดตใหม่ปี 2566/2023


แต่งหน้ารับปริญญาเอง 2023 ขั้นตอนที่ 1 ลงไพรเมอร์เพิ่มความติดทน

รูปภาพ:https://ballantynes-prod.freetls.fastly.net/data/media/images/catalogue/4130536_NA_526b.jpg?maxheight=630&maxwidth=630&mode=pad&quality=100&404=default.jpg

จริง ๆ ขั้นตอนแรกเราต้องลงครีมกันแดดก่อนนะคะแล้วก็ค่อยลงไพรเมอร์ซึ่งไพรเมอร์จะมีสูตรหลากหลายมาก ทั้งเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยคุมมัน เติมร่องรูขุมขนให้หน้าเรียบเนียน ก็ลองไปเลือกให้เข้ากับสภาพผิวกันได้เลยนะคะ เมื่อได้สูตรที่ตอบโจทย์มาแล้วก็ลงให้ทั่วผิวหน้าหลังจากนั้นก็รอเซ็ตตัวหน่อยแล้วค่อยลงรองพื้นต่อค่ะที่เราแนะนำให้ใช้ไพรเมอร์ลงก่อนเป็นเพราะว่าไพรเมอร์จะช่วยทำให้เครื่องสำอางที่อยู่บนใบหน้าไม่หลุดลอกไปได้ง่าย เนื่องจากว่าไพรเมอร์จะเข้าไปเติมหรือแก้ไขจุดบกพร่องบนหน้า เช่น ไพรเมอร์คุมมันก็จะช่วยไปปิดรูขุมขนจนทำให้รูขุมขนไม่ค่อยมีน้ำมันออกมา เมคอัพบนหน้าเราก็จะไม่หลุดลอกไปง่าย ๆ อยู่ติดทนทั้งวันนั่นเองนะคะ รู้แบบนี้แล้วไม่มีไม่ได้แล้วนะเออ


แต่งหน้ารับปริญญาเอง 2023 ขั้นตอนที่ 2 ใช้รองพื้นติดทนและเหมาะกับสภาพผิว

รูปภาพ:https://5.imimg.com/data5/SELLER/Default/2022/7/UV/WS/JC/155248078/estee-lauder-double-wear-foundation-3n1-ivory-beige-30-ml-500x500.jpg

ไพรเมอร์เซ็ตตัวแล้วก็ต้องมาลงรองพื้นกันค่ะ ซึ่งจริง ๆ จะใช้เป็นรองพื้น คุชชัน ทินท์ผิว AA BB CC DD EE แป้งผสมรองพื้น คอนซีลเลอร์ก็ได้หมดเลยนะคะเอาที่ชอบและเอาที่สะดวก แต่จะต้องเลือกให้เข้ากับสภาพผิวสักหน่อย คือด้วยความที่งานปริญญามันค่อนข้างจะคนเยอะ อากาศที่ร้อนอยู่แล้วก็ร้อนกว่าเดิมอีกนะคะ เหงื่อจะออกง่ายทำให้เครื่องสำอางหลุดง่ายด้วย ถ้าอยากให้งานผิวดูฉ่ำ ๆ โกลว์ ๆ แต่เป็นคนหน้ามัน อยากให้เน้นใช้รองพื้นติดทนและคุมมันไปก่อนนะคะเรื่องงานผิวฉ่ำ ๆ เรามีเครื่องสำอางตัวอื่นช่วยได้อยู่ ส่วนคนผิวแห้งอาจจะใช้คุชชันสูตร Long Lastingไปก่อนก็ได้นะคะจะได้ติดทนขึ้นอีกหน่อยหรือจะใช้รองพื้นสูตรผิวแห้งก็ได้นะคะ ส่วนคนที่ผิวไม่มีปัญหาก็ใช้ตัวไหนก็ได้เลยค่ะ ลงรองพื้นเสร็จปุ๊บใครอยากเก็บรายละเอียดพวกรอยสิว รอยดำ/รอยแดง ใต้ตาคล้ำก็เก็บได้เลยนะคะ แต่แนะนำว่าใช้คอนซีลเลอร์ลงเป็นจุด ๆแต้มสักพักรอให้แห้งแล้วค่อยเกลี่ยจะทำให้คอนซีลเลอร์ติดทนกับผิวที่สุดค่ะ


แต่งหน้ารับปริญญาเอง 2023 ขั้นตอนที่ 3 เซตทุกอย่างด้วยแป้ง

รูปภาพ:https://ae01.alicdn.com/kf/Sce37dda2f05543638881574787f1929eV/2-Colors-Makeup-Loose-Powder-Transparent-Finishing-Powder-Waterproof-Cosmetic-Puff-For-Face-Finish-Setting-With.jpg

งานผิวเป๊ะปังแล้วก็ต้องเซ็ตงานผิวกันสักหน่อยค่ะ ซึ่งเราจะใช้แป้งในการเซตผิวนะคะ แนะนำว่าให้ใช้แป้งฝุ่นสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวหรือจะใช้แป้งมีสี แป้งผสมรองพื้นก็ได้หมดเลยค่ะเพียงแต่ว่าถ้าไม่อยากให้มันดูหนาไปก็ใช้แปรงลงแทน ส่วนคนที่ผิวแห้งอาจจะรู้สึกว่าเราไม่ต้องลงก็ได้แต่เราแนะนำให้ลงแค่บางจุดก็พอนะคะ คืออากาศในวันรับปริญญามันไว้ใจไม่ค่อยได้ถึงหน้าเราแห้งไม่มีน้ำมันมากวนเมคอัพแต่ว่าอากาศอาจจะทำให้หลุดลอกได้ง่ายขึ้น ดังนั้นใช้แปรงเซ็ตด้วยแป้งฝุ่นเบา ๆ ก็พอค่ะ สำหรับใครที่รู้สึกว่าลงแป้งแล้วผิวไม่มีมิติเลย ดูแมตต์เกิ๊น ก็สามารถใช้แป้งนางฟ้าหรือแป้งที่เล่นแสงได้นะคะ จะได้ช่วยให้ใบหน้ามีมิติมากขึ้น :-)


แต่งหน้ารับปริญญาเอง 2023 ขั้นตอนที่ 4 งานแก้มต้องเน้น งานตาต้องเบา

รูปภาพ:https://m.media-amazon.com/images/I/71NbURNZ2vL._AC_SL1200_.jpg

ขั้นตอนถัดมาก็คือการลงบลัชออนที่แก้มและการแต่งตานั่นเองจ้า ขอแยกพูดทีละส่วนก่อนนะคะ งานแก้มหรือการปัดบลัชออนเนี่ยปกติเราจะปัดแค่พอนวล ๆ มีเลือดฝาดน่ารัก ๆ ใช่ไหมคะ แต่งานรับปริญญาให้ปัดเพิ่มเข้าไปหน่อยค่ะ วิธีดูว่ามันพอรึยังให้หยิบมือถือขึ้นมาส่องนะคะ ถ้าในจอยังไม่ชัดให้เติมเรื่อย ๆ เลยค่ะแต่ก็ต้องสลับกันดูกระจกด้วยนะคะเดี๋ยวมันจะแรงเกิน ส่วนงานตาสีอายแชโดว์ส่วนใหญ่จะใช้สีโทนสุภาพ ๆ แบบชมพู พีช คอรัล ส้ม น้ำตาลประมาณนี้นะคะ ซึ่งจะลงแค่พอเบา ๆ มีชิมเมอร์นิด ๆ ได้ แต่จะไม่สโมกกี้อายนะคะ งานตาฟีล everyday look เบา ๆ เกาหลีญี่ปุ่นประมาณนั้นเลยค่ะ เสร็จแล้วก็มากรีดอายไลเนอร์แล้วก็ดัดขนตา + ปัดขนตาได้เลยค่ะถ้าใครกรีดอายไม่เป็นแนะนำคลิปสอนด้านล่างจากคุณจูน Fromtunteller เลยจ้า ♥ปล. ใครที่ใช้บลัชออนแบบครีมอย่างเดียวหรือจะลงบลัชออนแบบครีม + บลัชออนแบบฝุ่น ให้ลงบลัชออนแบบครีมก่อนลงแป้งจะดีที่สุดนะคะ แป้งจะได้ช่วยเซตบลัชออนเราไปด้วย


แต่งหน้ารับปริญญาเอง 2023 ขั้นตอนที่ 5 คอนทัวร์และไฮไลเตอร์ต้องมา

รูปภาพ:https://www.focallurepakistan.com/wp-content/uploads/2021/07/14-1.jpg

ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ควรมีเลยค่ะ คือแต่งหน้าทั่วไปอาจจะแบบไม่ต้องเป๊ะเวอร์แต่ว่าวันรับปริญญาบางทีเราต้องมีทำผมแบบรวบบ้างอะไรบ้าง ยิ่งถ้าใครเป็นคนหน้ากลมหรือมีแก้มอาจจะรู้สึกไม่มั่นใจได้ แนะนำว่าให้ใช้คอนทัวร์/เฉดดิ้ง/บรอนเซอร์ลงบริเวณกรอบหน้าและจมูกเลยค่ะ ถ้าใครเน้นสร้างกรอบให้มีเงา ๆ ไม่หลอกต้องเลือกสีน้ำตาลอมเทา ไม่ติดส้มหรือเหลืองเกินไปนะคะ โทนประมาณนี้จะเข้ากับสีผิวคนไทยได้ดีที่สุดค่ะ ส่วนไฮไลเตอร์ก็ลงบริเวณที่แสงจะตกกระทบแบบช่วงหน้าผากเบา ๆ หน้าแก้ม ปลายจมูก เหนือกระจับปากและคาง บริเวณพวกนี้ถ้าลงจะทำให้หน้าดูมีมิติมากขึ้นนะคะส่วนเทคนิคการลงสามารถดูคลิปคุณตู่ Soundtiss ST ด้านล่างได้เลยจ้า ♥


แต่งหน้ารับปริญญาเอง 2023 ขั้นตอนที่ 6 ลิปสติกโทนสีสุภาพ ต้องไม่เอะอะ

รูปภาพ:https://pos.nvncdn.net/f740c8-6598/ps/content/20230311_HTisRjouqHKq.jpg

งานผิวสวยเป๊ะหมดแล้วปากจะซีดไม่ได้เด็ดขาดเลยค่า~ เพราะปากไม่แดงไม่มีแรงเดินนะคะ แต่แต่งหน้ารับปริญญาไม่ต้องทาลิปแดงก็ได้นะเออ จริง ๆ เหมือนว่าวันรับจริงเขาจะไม่ค่อยให้ทาสีแดงที่สดไปนะคะ อาจจะต้องแดงตุ่น ๆ หน่อยหรือผสมกับโทนนู้ดหน่อย ๆ แบบว่าเขาจะเน้นความสุภาพ ดูไม่เอะอะ ดูละมุน ๆ กันซะมากกว่าโทนสีลิปก็เลยจะเป็นโทนนู้ด ๆ หรืออาจจะเป็นโทนสีกลาง ๆ ที่ไม่เข้มหรือไม่อ่อนไปแต่ถ้าใครเป็นคนทาโทนอ่อนไม่รอดเลยก็แนะนำให้ทาสีเข้ม ๆ ด้านในแล้วเม้ม ๆ เอานะคะ จะได้ดูมีเลเยอร์แล้วก็สีปากไม่ซีดเกินไปด้วยสำหรับเฉดสีที่เข้ากับแต่ละคนก็ไปลองกันเองจะดีที่สุดนะคะเพราะโทนสีลิปสติกมันไม่ตายตัว บางคนทาสีนี้อาจจะไม่สวยแต่อีกคนทาแล้วขึ้นมาก ๆ ก็มี ผิวโทนชมพู-โทนเหลืองอาจจะเอามาตัดสินไม่ได้ด้วยนะคะ ลองไปสวอชและเทียบสีกันเองจะดีสุดค่า ♥


แต่งหน้ารับปริญญาเอง 2023 ขั้นตอนที่ 7 ใช้ Setting Spray ล็อกเมคอัพ

รูปภาพ:https://cdn11.bigcommerce.com/s-3brbq82jbt/images/stencil/1280x1280/products/1159/24261/H26560f83a5b24547ae28348b481a6d00S__73505.1685453280.jpg?c=1

สิ่งสุดท้ายเป็นสิ่งที่สำคัญมากแบบมากกกก~ เลยนะคะ ไม่ว่าจะผิวแห้ง ผิวผสม ผิวมัน ผิวปกติก็ควรจะใช้ Setting Spray เพื่อช่วยล็อกเมคอัพกันค่ะ สำหรับการแต่งหน้ารับปริญญาขอแนะนำว่าควรใช้เป็น Setting Spray จริง ๆไม่ใช่ Mineral Spray หรือสเปรย์น้ำแร่นะคะเพราะสเปรย์น้ำแร่อาจจะล็อกเมคอัพได้ไม่ชัวร์เท่า Setting Spray ค่ะ ซึ่ง Setting Spray ในตลาดก็มีหลากหลายแบรนด์และหลากหลายราคาเลย สะดวกราคาไหนหรืออ่านรีวิวมาแล้วอยากลองแบรนด์ไหนก็จัดไปโลดจ้า แอบบอกทริคในการใช้นิดนึงนะคะว่าหลังลงรองพื้นให้ฉีด 1 รอบ ลงแป้ง ปัดบลัชออน คอนทัวร์ ไฮไลต์ ลงอายแชโดว์ ปัดมาสคาร่า ทาปากเสร็จก็ฉีดอีก 1 รอบรอให้แห้งสนิทแค่นี้ก็จะช่วยให้เมคอัพติดทนมากขึ้นแล้วละค่ะ อ้อ! อย่าลืมฉีดไกล ๆ ประมาณ 20 - 30 ซม.จากใบหน้าเราด้วยนะคะ :-D


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 7 วิธีแต่งหน้ารับปริญญาเองที่เรานำมาฝาก จริง ๆ ต้องบอกว่ามากกว่า 7 วิธีด้วยซ้ำนะคะ เพราะว่ามีรายละเอียดในแต่ละขั้นตอนเยอะม้ากกก~ซึ่งเราก็พยายามเก็บรายละเอียดให้ครบทุกขั้นตอนเลยนะคะ แต่ถ้าขั้นตอนไหนที่เราไม่ถนัดเท่าไหร่อาจจะต้องหาคนมาช่วยทำให้หรืออาจจะต้องฝึกมือไปเรื่อย ๆ แทนนะคะแต่งหน้าก็คืองานศิลปะนะคะ ถ้าไม่ฝึกแต่งไปเรื่อย ๆ มันก็จะไม่มีทางดีขึ้นได้เองแน่นอนแต่เราเชื่อว่าชาวซิสของเราเก่งอยู่แล้ว แต่งออกมาสวยเช้งชัวร์! ยังไงก็ขอยินดีกับบัณฑิตใหม่ป้ายแดงทุกคนด้วยนะคะ ส่วนทางเราขอตัวลาทุกคนไปก่อนค่า ไว้กลับมาพบกันใหม่ในบทความหน้าที่https://sistacafe.com/นะค้า บ๊ายบาย ♥


บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

https://sistacafe.com/summaries/96568

https://sistacafe.com/summaries/72734

https://sistacafe.com/summaries/91380

https://sistacafe.com/summaries/93844

https://sistacafe.com/summaries/93087