ถ้าหากจะบอกว่าผู้ชายเปรียบเสมือนไฟและผู้หญิงก็เปรียบได้กับน้ำคำๆ นี้อาจจะใช้ได้ไม่หมดกับบางกรณี ยิ่งถ้าเป็นวัยรุ่น วัยคะนอง โดยเฉพาะกับผู้หญิงด้วยแล้ว น้ำที่ว่านี้ก็ไม่ต่างอะไรกับที่จะเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีที่ให้เปลวไฟอย่างผู้ชายลุกโชนยิ่งขึ้น
หากจะว่ากันตามความจริงแล้ว
ทั้งไ
ฟ
และ
น้ำ
มัน
ก็เหมาะที่จะใช้กับวัยรุ่นหนุ่มสาวสมัยนี้ที่เริ่มมีความรัก ความสัมพันธ์กันตั้งแต่ยังไม่เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ จะหาว่าเราหัวโบราณก็ได้นะคะ เพราะน้อยคู่ที่จะลงเอยและสมหวังเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ แต่ก็คงไม่มีใครที่จะปฏิเสธได้ว่า ความรักในวัยนี้สามารถเป็น
รักแรก
ของทั้งสองฝ่ายได้
ความรัก
คือ
สิ่งสวยงาม
และ
มีสองด้านเสมอ
มันคือ
จุดเริ่มต้นของความทุกข์
และเป็น
จุดจบของความสุข
ได้เช่นกัน
เรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้นั้น ขอย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน เป็นเรื่องของรุ่นน้องเราเอง รุ่นน้องของเราคนนี้เรียนอยู่ชั้น ม. 3 ที่โรงเรียนสหศึกษาแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เธอเป็นคนที่จัดได้ว่า หน้าตาค่อนข้างดี เรียนก็เก่ง แถมยังไม่เคยมีแฟนอีก แน่นอนว่า ต้องมีหนุ่มๆ ในโรงเรียน ทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้อง และรุ่นเดียวกันต่างก็แอบชอบเป็นธรรมดา แต่ทว่าในใจของเธอกลับมีเพื่อนร่วมห้องที่เธอแอบปลื้มอยู่แล้ว
จะด้วยผลบุญหรือเวรกรรมก็ตามแต่ ความรู้สึกที่เธอมีต่อเพื่อนนักเรียนชายหนุ่มร่วมห้องก็ไปถึงหูของเขาจนได้ ก่อนที่เธอกับเขาจะคบกัน เพื่อนๆ ในห้องต่างก็ร่วมมือกันแกล้ง เพื่อทำให้ทั้งเขาและเธอถูกขังอยู่ในห้อง วินาทีนั้นรุ่นน้องของเราก็รู้สึกอายปนโมโห แต่ความอายมันมีมากกว่า และฝ่ายชายเองก็ดูมีทีท่าว่าพอใจเธอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ในตอนนั้นเราไม่รู้หรอกว่าเขาคิดกับเธอแบบนี้ตั้งแต่แรกหรือไม่ แต่สุดท้ายฝ่ายชายก็แสดงความห่วงใยออกมา และจากเหตุการณ์ในวันนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็พัฒนาขึ้น จนสุดท้ายก็ได้ใช้คำว่า
“ แฟน ”
สมใจ
ในตอนแรก
สถานภาพของทั้งคู่ต่างเต็มไปด้วยความเขินอาย ความรู้สึกใหม่ของความรัก แม้แต่จับมือ หรือมองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างก็ขวยเขินแล้ว แต่ขึ้นชื่อว่า ผู้ชาย ความคึกคะนอง และคำยุแยงของผองเพื่อนก็ทำให้แฟนของรุ่นน้องเรานั้น ได้ทำบางสิ่งบางอย่างไป….
เขาขอมีอะไรกับเธอ
รุ่นน้องของเราปฏิเสธ เธอบอกว่ายังไม่พร้อม และคิดว่าไม่เหมาะสม ซึ่งแฟนของเธอเองก็เข้าใจ และเห็นด้วยตามนั้น แต่พอนานวันเข้า สิ่งยั่วเย้ารอบข้าง ทั้งคำยุ และสื่อออนไลน์ที่เข้าถึงง่าย ยิ่งทำให้ฝ่ายชายเกิดความต้องการที่มากขึ้น เขาใช้คำว่ารักในการผูกมัดเธอ เพื่อขอมีอะไรกัน
เมื่อเจอคำนี้เข้า รุ่นน้องของเราก็ไม่รู้จะทำยังไง เธอไม่สามารถเลี่ยง และปฏิเสธได้ เพราะเขาคือรักครั้งแรกสำหรับฝ่ายชายเองก็เช่นกัน ถึงแม้ว่า ความรู้สึกที่ว่านั้น สำหรับเขามันก็คือ ความรัก แต่ทว่าความอยากมันก็มีมากกว่า ผลสุดท้ายรุ่นน้องของเราก็ยอมตกลงปลงใจในบ้านของฝ่ายชายนั่นเอง
และเมื่อมีครั้งแรก
...
มีหรือจะไม่มีครั้งที่สอง ครั้งที่สาม ครั้งที่สี่ ครั้งที่ห้า...รุ่นน้องของเรารู้สึกผิดหลายครั้ง แต่ฝ่ายชายกลับใช้คำว่า
รัก
เป็นข้ออ้าง เพื่อทำให้เธอต้องใจอ่อน ถ้าจะบอกว่า ผู้ชายมักง่ายก็ไม่ผิดเท่าไร สำหรับผู้หญิงเรานั้นยอมได้ทุกอย่าง เพราะเราใช้หัวใจเป็นสิ่งที่ตัดสินความรู้สึก จนผลสุดท้ายน้ำมันที่ติดไฟก็ยิ่งลุกโชนบานปลายขึ้น...
รุ่นน้องของเรา
ท้องและทุกๆ คนในก็ห้องรู้!!!!!
พ่อแม่ของเธออายมาก บุกมาถึงโรงเรียนและต้องการที่จะเอาเรื่องฝ่ายชาย จนผลสุดท้ายอาจารย์ก็ต้องทำเรื่องพักการเรียนให้ ส่วนทางผู้ชาย พ่อและแม่ของเขาให้ย้ายโรงเรียน และเราก็ไม่ได้รู้ข่าวของเขาอีกเลยจนบัดนี้ รู้เพียงแต่ว่า หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นได้ไม่นานพวกเขาก็เลิกรากัน และปฏิเสธที่จะรับผิดชอบในทุกอย่างที่เกิดขึ้น นอกจากคำพูดเดียวที่ออกจากปากของเขาก็คือคำขอโทษ
ทางด้านเด็กที่อยู่ในท้อง โชคดีที่รุ่นน้องของเราเก็บเขาไว้ และเธอก็กลายเป็นคุณแม่ตั้งแต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เธอหยุดเรียนไปเป็นปี และเสียโอกาสดีๆ ที่วัยรุ่นควรจะได้รับ...
เราหวังว่า
เรื่องนี้คงจะเป็นข้อเตือนใจแก่วัยรุ่นหลายๆ คนที่กำลังมีแฟน และกำลังจะเปิดโอกาสความสัมพันธ์ของตนและคนรักไปในทิศทางนี้ จริงอยู่ที่ปัจจุบันสังคมของเราเปลี่ยนไป สื่อต่างๆ เข้ามามีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตมากมาย และวัยรุ่นส่วนใหญ่ก็มีพฤติกรรมที่ชอบลอกเลียนแบบ
คนเราพบกัน
ง่ายขึ้น
รู้จักกันง่ายขึ้น
แต่สิ่งเหล่านั้นคือ
ความฉาบฉวย
และ
ความมักง่าย
ที่อยู่ภายใต้ความทันสมัย เราขอให้เพื่อนๆ และน้องๆ ทุกคนมีสติกับความรักมากกว่านี้ และถ้ามีโอกาสเราจะมาเล่าประสบการณ์ความรักแบบต่างๆ มาให้อ่านอีกค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
8 นิสัยสุดน่ารำคาญของแฟนสาวที่หนุ่มๆไม่ปลื้ม!!!
https://sistacafe.com/summaries/213
" อยู่ก่อนแต่ง " หรือ " แต่งก่อนอยู่ "... แบบไหนที่ใช่คุณ ?
https://sistacafe.com/summaries/840
เขินจุง แฟนอยากกอดทำไงดี?
https://sistacafe.com/summaries/704