รวมลิงค์นิยาย : [ High School Love Story ]
https://sistacafe.com/search?q=High%20School%20Love%20Story
⇐ Previous...#บทที่ 2
https://sistacafe.com/summaries/5207
-3-
ตั้งแต่เย็นวันนั้นเป็นต้นมา อิงและคุมิก็จำต้องตัวติดกันแทบจะทั้งวันอย่างช่วยไม่ได้ อิงคอยเดินตามไปทุกที่ที่คุมิไป จนทำให้พวกแฟนคลับชักใจแป้วด้วยกลัวว่าอิงจะหลงรักสาวสวยแห่งห้อง5เข้าแล้ว ทำให้บรรดาแฟนคลับต้องทำใจถอยฉากออกมากันเป็นแถว อาจะเพราะความสวยของคุมิที่เป็นที่ร่ำลือกันในโรงเรียน(ถึงจะวีนเก่งไปหน่อยก็ตาม)
และวันนี้ก็เหมือนกับทุกวันที่ทั้งสองเดินไปห้องสมุดเพื่อติวหนังสือกันหลังเลิกเรียน
“อย่าเดินตามชั้นมาได้มั้ยยะ น่ารำคาญ” เสียงแหลมของเด็กสาวตัวเล็กดังขึ้นเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของวันนี้
“อืม” เด็กสาวร่างสูงกว่าตอบกลับสั้นๆ ด้วยท่าทีสบายๆ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะถอยออกห่างจากคนออกคำสั่งไปเลยแม้แต่นิด
“อืมแล้วก็ทำตามสิ ยังจะมาทำหน้าอย่างนั้นใส่ชั้นอีก นี่ถ้าไม่ใช่เพราะโดนอาจารย์ขู่เรื่องผลการเรียนไว้ล่ะก็นะ ฮึ่ม” สาวเจ้าเริ่มทำท่าฮึดฮัด นี่ถ้าหากว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายล่ะก็ ทั้งสองคนก็คงดูเหมือนคู่รักวัยเรียนที่กำลังทะเลาะกันอยู่อย่างแน่
พอมาถึงห้องสมุด อิงก็สั่งให้คุมิไปนั่งรอที่โต๊ะทางมุมหนึ่งของห้อง ส่วนตัวเธอก็แยกไปเอาตำราเรียนที่คิดว่าเหมาะกับสาวน้อยน่ารักที่กำลังนั่งคอยเธออยู่ เธอใช้เวลาเพียงชั่วครู่ก็กลับมาที่โต๊ะพร้อมกับหนังสือเรียนอีก1ตั้งใหญ่ๆ
“ฮะ? อย่าบอกนะว่านี่คือที่ชั้นจะต้องเรียนวันนี้น่ะ?” คุมิทำตาโตมองตั้งหนังสือตรงหน้าอย่างหวาดๆ ถ้าจะให้เรียนทั้งหมดนี่น่ะ ของกัดลิ้นตายซะยังจะดีกว่า
“อืม แต่แค่ระดับม.ต้นเอง แต่ถ้ายังเรียนไม่จบวันนี้ก็ยังยืมกลับไปเรียนต่อที่บ้านได้นะ” อิงตอบเสียงเรียบๆขณะทรุดตัวลงนั่งข้างๆเด็กสาว ที่ตอนนี้กำลังเกิดอาการเซ็งอย่างสุดๆ
“งั้น เรามาเริ่มกันดีกว่านะ เริ่มที่ Reading ระดับ1ละกัน เท่าที่ดูมารู้สึกว่าระดับสูงกว่านี้เธอจะทำไม่ไหว” เธอพูดพลางเปิดหน้าหนังสือไปหน้าระดับ1ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของชั้นม.ต้น
“อึก...” เพราะคำพูดของจอมกวนตรงหน้ามันแทงใจดำเข้าไปเต็มๆ ทำให้เธอไม่สามารถจะหาอะไรมาป้องกันได้เลย ทั้งหมดที่เธอทำได้ในตอนนี้มีเพียงก้มหน้าก้มตารับฟังอยู่เงียบๆเท่านั้น
5 นาทีผ่านไป...
“โอ้ยยยย ไม่เอาแล้ว ภาษาอะไรก็ไม่รู้ยุ่งยากชะมัด ชั้นกลับดีกว่า” สาวขี้เหวี่ยงโวยวายขึ้น จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนและกำลังจะหันหลังออกไปจากห้อง
หมับ!
อิงเห็นสาวน้อยข้างๆลุกขึ้นหนีเลยรีบคว้าข้อมือเรียวของเธอเอาไว้ทันที
“...ถ้าอ่านประโยคนี้ได้ถูก วันนี้ชั้นจะหยุดสอนแค่นี้ เอ้า ลองอ่านสิ ออกเสียงให้ชัดๆนะ ไม่พูดเปล่า” แต่เธอกลับฉุดคุมิลงมานั่งข้างๆตัวเองอีกครั้ง พร้อมทั้งขยับตัวเข้ามาใกล้มากขึ้นแล้วจับมือคุมิเอาไว้ราวกับจะไม่ให้เหยื่อ(?!)หลุดลอยไป
“โอ้ย บอกกันดีๆได้มั้ยฮะ ดึงซะแรงเชียว เกิดแขนชั้นช้ำขึ้นมาจะทำงะ...” คุมิที่ถูกดึงลงมานั่งรีบหันหน้าไปต่อว่าอิงโดยที่ไม่รู้ว่าใบหน้าของทั้งคู่อยู่ใกล้กันเพียงไหน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของคุมิจึงสบเข้ากับดวงตาสีเข้มของอิงอย่างช่วยไม่ได้ หญิงสาวหยุดพูดทันที เธอไม่เข้าใจว่าเหตุใดยามที่เธอถูกดวงตาสีเข้มจ้องมองนั้น ในใจของเธอจะต้องรู้สึกแปลกๆอยู่เสมอ แล้วใบหน้าสวยค่อยแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงมากขึ้นเรื่อยๆตามระดับความร้อนในร่างกายที่เพิ่มสูงขึ้น
แปะจู่ๆอิงก็เอามือมาวางทาบที่หน้าผากของคุมิ แล้วค่อยๆโน้มใบหน้าคมลงมาใกล้ใบหน้าของอีกฝ่าย
“เธอ ไม่สบายรึเปล่า จู่ๆก็หน้าแดง มีไข้งั้นเหรอ” ครั้งนี้น้ำเสียงของอิงนุ่มนวลและแฝงไว้ด้วยความอ่อนโยนเหมือนตอนชั่วโมงพละอีกครั้ง แววตาของเธอมีแววของความห่วงใยอยู่เต็มเปี่ยม
“....อะ เอามือออกไปนะ ชั้นไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย...” เธอพยายามจะหันหน้าไปอีกทางเพื่อหลบตาคู่นั้น แต่คุมิกลับถูกมนต์เสน่ห์ของนัยน์ตาสีเข้มที่จ้องมาตรึงอยู่กับที่
อิงเองก็ค่อยๆลดมือลงไปกุมมือของสาวญี่ปุ่นเอาไว้ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่ไม่ชอบอยู่กับคนอื่นอย่างเธอกลับชอบที่จะอยู่ใกล้ๆกับเด็กคนนี้มากนัก ผิวขาวเนียนเหมือนเด็ก ดวงตากลมโตช่างดูใสซื่อ ท่าทีเชิดๆที่ชอบทำเฉพาะเวลาที่อยู่ด้วยกัน...สาวผิวเข้มหยุดคิดหลังจ้องตาสาวญี่ปุ่นไปได้สักพัก ใบหน้าคมขยับเข้าใกล้อีกฝ่ายอย่างช้าๆ
แล้วในที่สุด ริมฝีปากของทั้งสองก็สัมผัสกันอย่างเนิ่นนาน อ่อนหวาน และนุ่มนวล แรกทีเดียวสาวสวยที่ถูกล่วงล้ำค่อนข้างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ความหวานนุ่มที่อีกฝ่ายมอบให้กลับทำให้เธอลืมแทบทุกอย่างจนเผลอจูบตอบไปอย่างลืมตัว อิงค่อยๆผละริมฝีปากออกจากหญิงสาวตรงหน้าอย่างเสียดาย ทั้งคู่หยุดมองหน้ากันและกันครู่หนึ่ง แต่แล้วคุมิก็โพล่งขึ้นมาทำลายความเงียบในตอนนั้น
“นะ นี่จูบของเธองั้นเหรอ ชั้นกลับไปจูบหมาที่บ้านชั้นยังจะดีซะกว่า...ชะ ชั้นกลับล่ะ!” เธอพูดเสียงสั่นเล็กน้อยก่อนจะคว้ากระเป๋านักเรียนแล้วรีบวิ่งออกจากห้องสมุดอย่างไม่คิดชีวิต แต่เพียงครู่เดียวเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างหลังของเธอ เธอจึงหันหลังไปดูด้วยความสงสัย”กรี้ดดด นี่เธอตามชั้นมาทำม้ายยย”
”อ้าว ก็เห็นว่าวิ่งกลับบ้าน ชั้นก็เลยรีบเก็บของแล้ววิ่งตามมาไง พวกเรากลับด้วยกันทุกวันไม่ใช่เหรอ”
ชั้นไม่ได้บอกให้เธอตามมาซะหน่อยนี่ ยัยบ้า พูดจบคุมิก็เร่งสปีดขึ้นหวังจะสลัดอิงให้หลุดหากแต่อิงนั้นก็ยังคงวิ่งด้วยสปีดปกติของเธอตามหลังคุมิไปติดๆ
ปัง!เมื่อไปถึงคุมิก็รีบเปิดประตูห้องแล้วแทรกกายเข้าไปอย่างรวดเร็วอันเป็นจังหวะเดียวกับที่อิงวิ่งมาถึงหน้าห้องของเธอพอดี
“อ้าว เข้าห้องไปซะละ อืม ว่าแต่เมื่อกี้ที่ยัยนั่นวิ่งกลับบ้านเพราะเราจูบเธองั้นหรอ จูบแรกรึเปล่านะ” อิงที่ถูกคุมิปิดประตูใส่หน้ามุ่นหัวคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วเปรยกับตัวเองขึ้นมาลอยๆ เธอหยุดมองประตูห้องของคุมิอยู่พักหนึ่งแล้วพึมพัมออกมาเบาๆ“พรุ่งนี้ค่อยถามก็ได้มั้ง วันเสาร์ด้วยสิ คงมีเวลาล่ะน่า” แล้วเจ้าตัวก็เดินฮัมเพลงสบายใจกลับเข้าห้องตัวเองไป
ด้านคุมิ...
“กรี้ดๆๆๆ ยัยบ้า บังอาจเอาจูบแรกชั้นไป ฮือๆ อุตส่าห์ถนอมเอาไว้ให้สุดที่รักเท่านั้นแล้วเชียวน้า โฮๆๆ” คุมิที่ตอนนี้เข้าโหมดบ้า กำลังนอนอยู่บนเตียงเอาหมอนใบโตปิดหน้าแล้วแหกปากโวยวายอยู่คนเดียว แต่พักหนึ่งเธอก็เริ่มสงบสติอารมณ์ได้ หญิงสาวนอนหงายและเหม่อมองไปที่เพดานห้องราวกับมันเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในชีวิต นิ้วเรียวขยับขึ้นไปแตะริมฝีปากของตัวเองเบาๆอย่างลืมตัว เธอหลับตาลงและคิดว่าวันนี้เธอเสียจูบแรกไปแล้ว ทั้งที่อยากจะมอบให้กับว่าที่แฟนในอนาคต แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงไม่ขัดขืนอีกฝ่ายเลยสักนิด แล้วยังไปจูบเค้าตอบอีก ยิ่งคิดหัวใจดวงน้อยก็เริ่มเต้นรัวขึ้น หญิงสาวยกมือขึ้นกุมหน้าอกไว้ จากนั้นก็พยายามข่มตาให้หลับเพื่อหวังจะลืมเรื่องนี้ไปให้ได้แม้สักคืนหนึ่งก็ยังดี...
*****************
เช้าวันต่อมา
ก็อกๆๆ
“งืม ใครกันนะมาแต่เช้าเชียว” สาวน้อยร่างบางที่กำลังนอนขดอยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่บ่นกับตัวเอง พลางนึกแช่งแขกผู้มาแย่งเวลานอนของเธอไป เธอลุกขึ้นหยิบเสื้อคลุมมาใส่ไว้แล้วเดินไปเปิดประตูรับแขกที่ไม่ได้รับเชิญ
“อรุณสวัสดิ์!”
“อิง! มะ มาทำอะไรกันฮะ? เช้าขนาดนี้ รู้มั้ยว่าชั้นต้องแหกขี้ตาขึ้นมาเนี่ย” สาวน้อยพูดพลางกระชับเสื้อคลุมให้แน่นขึ้น เธอรู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่อิงมาหาเธอในเช้าวันหยุดเช่นนี้
“อ้าว ก็เห็นว่าวันนี้วันหยุด กะว่าจะชวนไปเที่ยวด้วยกันซะหน่อย ไม่ได้เหรอ” อิงตีหน้าซื่อถามสาวน้อยตรงหน้าตน ส่วนคุมิที่หายง่วงเป็นปลิดทิ้งอยู่ๆก็นึกแผนแกล้งอิงขึ้นมาได้
‘แม่นี่มีเงินขนาดย้ายมาเรียนที่ญี่ปุ่นได้ แสดงว่าต้องมีเงิน อย่างนี้มันต้องขอใช้ให้คุ้มค่าที่หงุดหงิดไปซะหน่อย’ คิดได้ดังนั้น เธอจึงตีหน้าซื่อ ตอบตกลงพร้อมเลือกสถานที่เองเสร็จสรรพ จากนั้นเธอก็ไล่อิงไปนั่งรอที่ห้องของตัวเอง
1 ชั่วโมงต่อมา...
“เอ้า เสร็จแล้ว ไปกันเหอะ” คุมิที่บัดนี้เปลี่ยนชุดไปอยู่ในเสื้อกล้ามตัวเล็กสีชมพูทับด้วยเสื้อนอกสีขาวและกางเกงขาสั้นลายหมากรุกสีเทาตัวเก่ง รีบเข้าไปลากอีกฝ่ายที่กำลังยืนมองเธออย่างไม่วางตา
“เอ้อ จะไปไหนดีล่ะ?”อิงที่ยังวางสายตาจากคนตรงหน้าไม่ได้ถามไปด้วยน้ำเสียงแปลกๆไม่ราบเรียบเหมือนเช่นปกติ
“ไปสวนสนุก!” คุมิตอบด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ที่จริงตั้งแต่เกิดมา พ่อ แม่เธอยังไม่เคยพาเธอไปสวนสนุกสักครั้ง ไหนๆก็มีสปอนเซอร์หน้าโง่หลงมาติดกับถึงที่แล้ว โอกาสทองแบบนี้มีหรือที่เธอจะพลาดได้...
Next...#บทที่ 4 ⇒
https://sistacafe.com/summaries/5418