เฮลโหล เพื่อนๆ ทุกคน วันนี้อายะพีมีสูตรขนมที่ไม่ต้องใช้เตาอบมาฝากค่ะ เป็นขนมบาร์ที่อร่อยง่าย ไม่มีส่วนผสมใดๆ จากสัตว์ ใช้แต่ถั่วกับผลไม้ล้วนๆ รับรองดีต่อร่างกายชัวร์ มีทั้งสตรอว์เบอร์รีหวานอมเปรี้ยว ครีมหอมเนียนนุ่ม ไหนจะฐานกรอบๆ มันๆ อีก อู้ยยย อย่าชักช้าเลยค่ะ มาลงมือทำกันเถอะ!!
ส่วนผสม
สำหรับฐาน
1. อินทผาลัม 1 cup ( ประมาณ 22 ผลหรือ 200 กรัม )
2. ถั่ววอลนัทดิบ 1-1/2 ถ้วย ( 180 กรัม )
3. เกลือเล็กน้อย
สำหรับตัวครีม
1. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1-1/2 ถ้วย ( 180 กรัม )
2. กะทิ 1 ถ้วย ( 236 มิลลิลิตร )
3. สารสกัดวานิลลา 1/2 ช้อนชา
4. เมเปิลไซรัป 1/2 ถ้วย ( 120 มิลลิลิตร)
5. น้ำมันมะกอกหรือมะพร้าว 3 ช้อนโต๊ะ ( 45 มิลลิลิตร )
6. น้ำเลมอน 1 ผล ( 2 ช้อนโต๊ะหรือ 30 มิลลิลิตร )
สำหรับท็อปปิ้งสตรอว์เบอร์รี่
1. สตรอว์เบอร์รี่ 2 ถ้วย (240 กรัม)
2. เมเปิลไซรัป 1-2 Tช้อนโต๊ะ (15–30 มิลลิลิตร)
3. แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ (7 กรัม) (จะใช้หรือไม่ก็ได้ค่ะ)
4. น้ำเปล่าหรือน้ำส้มคั้น 2–3 ช้อนโต๊ะ (30–45 มิลลิลิตร)
ขั้นตอนการทำ
1. เริ่มจากการทำฐานกันก่อน นำวอลนัท อินทผาลัมและเกลือใส่ลงในเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียดเข้ากันแล้วเอาใส่ชามพักไว้ก่อน
2. ปั่นถั่ววอลนัทต่อให้ละเอียดเช่นกัน
3. นำอินผาลัมมาใส่ลงไป เติมเกลือเพิ่มซักหน่อยแล้วปั่นให้ทุกอย่างเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
4. ตักส่วนผสมลงในถาดอบและกดให้แน่น จากนั้นนำไปแช่ในตู้เย็น
5. ต่อไปก็ทำตัวครีม เอาเม็ดมะม่วงหิมพานต์แช่น้ำประมาณ 6-8 ชั่วโมงหรือถ้าใช้น้ำร้อนก็ 1 ชั่วโมงค่ะ
6. เทน้ำออกและเอาเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไปใส่เครื่องปั่น เติมกะทิ สารสกัดวานิลลา
เมเปิลไซรัป น้ำมันมะกอกหรือมะพร้าวและน้ำมะนาว ปั่นให้เข้ากันดี
อ้อ อาจเติมเมเปิลไซรัปกับน้ำมะนาวเพิ่มเติมได้นะคะ
7. เทส่วนผสมลงบนฐานที่เราทำไว้เลย เกลี่ยให้เรียบเนียนเสมอกันด้วยล่ะ เสร็จแล้วใช้แผ่นพลาสติกคลุมปิดและนำไปแช่ในตู้เย็นอีกซัก 1-2 ชั่วโมงขึ้นไปจนกว่าจะเซ็ทตัว
8. สุดท้ายเป็นการทำท็อปปิ้งค่ะ นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในหม้อ ต้มให้พอเดือดด้วยไฟกลางแล้วบดให้ละเอียดตามชอบ ต้มต่อเรื่อยๆ จนกระทั่งเนื้อข้นขึ้น จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็นซักพัก
9. รอให้ขนมคลายความเย็นประมาณ 15-20 นาทีแล้วค่อยหั่นเป็นชิ้นๆ ขนาดพอดีคำ ราดซอสสตรอว์เบอร์รี่กับวางสตรอว์เบอร์รี่สดตกแต่งซะหน่อย
แต่นแต๊น เป็นไล่ะ น่ากินสุดๆ ใช่มั้ยล่ะทำง่ายจะตาย ไม่เห็นยุ่งยากตรงไหนเลย
หน้าตาดูดีมากมาย ชวนให้น้ำลายไหลจริงๆ นะเนี่ยสงสัยกินแค่ชิ้นเดียวคงไม่พอแหงๆ ก็แหม อรอ่ยซะขนาดนี้นี่นา อิอิ