ไม่รู้ทำไม ทั้งที่สาวๆ ทุกคนรู้ดีว่าวิธีลดความอ้วนก็มีแค่สองอย่างคือ" คุมอาหาร " และ " ออกกำลังกาย "แต่สมัยนี้มีวิธีลดความอ้วนแปลกๆ เยอะแยะเต็มไปหมด


บางวิธีได้แต่ส่ายหน้ารัวๆ และคิดว่ามีคนกล้าทำตามวิธีแบบนี้ด้วยเหรอ ขอบอกเลยว่ามี และเยอะด้วย!


วิธีไดเอทผิดๆ ตามกระแสที่นำโดยเหล่าดารา เซเลบนี่แหละตัวดี เมื่อสาวๆ เห็นดาราในดวงใจหุ่นเพรียวสวย ก็ยึดเป็นไอดอล แห่ไปซื้อยาหรือสเตย์ที่เธอหรือเขาคนนั้นเป็นพรีเซนเตอร์

ซึ่งขอเตือนไว้ก่อนว่า" อย่าทำ! "เป็นอันขาด

!

จะรู้ได้อย่างไรว่าเธอกำลังไดเอทวิธีผิดๆ หรือเปล่า หมดห่วง!

เพราะวันนี้เรามีบทความแนะนำว่าแบบนี้แหละ! คือวิธีที่ควรหลีกเลี่ยง


จะมีอะไรบ้างไปอ่านกันเลย!


1. หักดิบ

รูปภาพ:https://stickyworktop.files.wordpress.com/2015/06/efficient-weight-loss.jpg

การไดเอทอย่างสุดโต่งวิธีแรกก็คือ " การหักดิบ " จากที่กินเหมือนเครื่องสูบมาตลอดชีวิต มาคิดลดความอ้วนด้วยการกินแอปเปิ้ลวันละลูก มันใช่เหรอเบบี๋!

เธอต้องเริ่มจากค่อยๆ ลดปริมาณอาหารต่างหากเล่า


คิดง่ายๆนะ เธอจะไปสมัครวิ่งมาราธอนได้ยังไง ถ้าเธอไม่เคยฝึกซ้อมแม้แต่การวิ่งจ๊อกกิ้งสักครั้งเดียว!

การปรับปรุง "พฤติกรรมการกินอาหาร" ควรทำไปทีละเล็กละน้อย แต่ทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ต้องไปเร่งมาก ยิ่งเร่งยิ่งตบะแตก!

ถ้าเธออดได้สักพัก วันหนึ่งเธอจะโหยจนกินทุกสิ่งที่ขวางหน้า แผนไดเอทพังไม่เหลือซากอยู่ดี ใช้คติช้าแต่ชัวร์ดีกว่านะ!


2. กินแต่อาหารชนิดเดียวซ้ำๆ

รูปภาพ:http://i.telegraph.co.uk/multimedia/archive/02842/protein_2842459b.jpg

สัญญาณอันตรายของการไดเอทตามกระแสคือ " กินแต่อาหารชนิดเดียวซ้ำๆ กันไปมา! "

เธอจะเห็นโปรแกรมการกินอาหารแบบสุดโต่งนี้ในชื่อว่า" กินโปรตีนเยอะๆ แต่ห้ามกินไขมัน "กับ" งดแป้ง แล้วน้ำหนักจะลดฮวบลงทันตา "ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ในชีวิตจริง!

ร่างกายในภาวะปกติต้องได้รับสารอาหารครบทุกหมู่อย่างเพียงพอ ทั้งโปรตีน ไขมันดี คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ผักสด น้ำตาลธรรมชาติและแป้งจากผลไม้เพื่อเป็นเชื้อเพลิงช่วยเผาผลาญ


และมีสารอาหารสำคัญเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี


อย่ากินแต่อาหารชนิดเดียว จะขาดสารอาหารได้นะ!


3. เชื่อฟัง " ผู้เชี่ยวชาญ " อย่างไม่ลืมหูลืมตา

รูปภาพ:https://expertbeacon.com/sites/default/files/expert_advice_on_how_to_best_prepare_for_the_interview_2.jpg

ในที่นี้หมายถึง " ผู้เชี่ยวชาญ " ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเทรนเนอร์ในฟิตเนส นักโภชนาการ หมอเฉพาะทางและอะไรก็ตามที่จะสรรหาชื่อมาเรียก!แต่ละฝ่ายต่างก็มีความเชื่อของตนว่าควรกินอาหารประเภทไหน หรือมี " ตำรา " กันคนละเล่มนั่นเองหมออาจบอกให้เธอกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในขณะที่เทรนเนอร์บอกให้เธอลดแป้ง กินโปรตีนเยอะๆ ซะอย่างนั้น แล้วจะเชื่อใครดีล่ะเนี่ย

ทางออกก็ง่ายๆ หาสไตล์ที่เหมาะกับวิถีชีวิตของตัวเอง เราทุกคนมีวิถีการกินไม่เหมือนกัน ทั้งชนิดอาหาร เวลากินก็ต่างกันไปศึกษาและเลือกทางที่เหมาะกับความต้องการของเธอที่สุด ชนิดที่ว่าทำแล้วไม่รู้สึกฝืนก็พอ!.


4. แค่ " ตัวเลขน้ำหนักลด " ก็พอแล้ว

รูปภาพ:http://rupertreviews.com/wp-content/uploads/2015/02/feature-image1.jpg

สาวๆ หลายคนมักคิดว่าการที่" ตัวเลขน้ำหนักบนตาชั่งลดลง "คือสุขภาพดีขึ้น ผอมลง หุ่นเพรียว ไม่อ้วนเป็นช้างน้อยดัมโบ้ แค่นั้นก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ!

ต้องขอส่ายหน้าเบาๆ แล้วบอกว่า " ไม่ใช่! "


การลดน้ำหนักที่ถูกต้อง คือกินอาหารตามหลักโภชนาการ มีสารอาหารครบถ้วน ซึ่งอาจจะทำให้น้ำหนักไม่ลดลงเลยสักขีดก็เป็นได้!

อาหารที่เรากินส่งผลต่อปริมาณพลังงานที่ใช้ อารมณ์ การนอนหลับ การเต้นของหัวใจ สุขภาพช่องปาก และอีกมากมาย ซึ่งน้ำหนักบนตาชั่งบอกอะไรไม่ได้เลย!


ยิ่งเอาแต่เครียดกับตัวเลข เธอจะยิ่งท้อและกลับมากินแหลกไวขึ้น ทั้งที่จริงๆ แล้วเธอผอมลงเพราะกล้ามเนื้อหนักกว่าไขมัน เมื่อกล้ามเนื้อโตขึ้นน้ำหนักอาจจะมากขึ้นด้วยซ้ำไป

5. งดอาหาร “ไม่มีประโยชน์” ที่ชอบกินทั้งหมด

รูปภาพ:http://rawgirltoxicworld.com/wp-content/uploads/2012/08/woman_burger_istock_0000084_540x405.jpg

แต่ละคนก็ชอบกินอาหาร “ ขยะ ” แตกต่างกันไป บางคนก็ชอบกินแป้งสุดๆ ไม่กินจะขาดใจตาย แต่บางคนก็ชอบกินขนมหวาน น้ำตาลเยอะๆ คาราเมลเยิ้ม ไอศกรีมเรนโบว์แต่แทนที่เธอจะงดอาหารโปรดทั้งหมด เปลี่ยนเป็นอาหารแนวเดียวกันแต่“ มีประโยชน์มากกว่า ”แล้วกินอาหารที่ชอบแค่อาทิตย์ละครั้งก็พอ!

ถ้าเธอเสพติดช็อกโกแลตรสหวานหอม เธอคิดว่าจะงด ไม่ยอมกินได้นานสักแค่ไหนกันเชียว เดี๋ยวก็ตบะแตกจนได้!ลดช็อกโกแลตนม กินแบบดาร์คช็อกแทนจะดีกว่าในที่สุดเธอจะค่อยๆ หายอยากไปเองแหละ


6. อยากผอมซูบซีดเหมือนโครงกระดูกเดินได้

รูปภาพ:http://www.ulifeline.org/system/images/content_type_images/274/original/bulemia_nervosa_2014.jpg

คนผอมไม่ได้แปลว่าสุขภาพดีเสมอไป! สาวร่างผอมซีดเป็นโครงกระดูกเดินได้บางคน ผอมเพราะกรรมพันธุ์ กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนขึ้น แต่ถ้าไปตรวจเลือดจะพบว่าไขมันในเลือดสูงจนต้องอ้าปากค้างด้วยความตกใจ!


สาวๆ ที่อยากมีรูปร่างแบบนางแบบจึงกินยาลดน้ำหนัก อดอาหาร ศัลยกรรมผ่าตัดทั้งหลายเพื่อฝันอยากมีหุ่นอย่างนั้น ซึ่งเป็นไปไม่ได้ และเป็นการทำร้ายตัวเองอีกต่างหาก!

แทนที่จะไดเอทอย่างเคร่งครัด อดๆ อยากๆ ให้ตัวเองผอมโซ เปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้รู้สึกสดชื่น มีพลังมากขึ้น นอนหลับสบาย ป่วยน้อยลงดีกว่าไหม!

ถ้าน้ำหนักลดก็ถือเป็นกำไร แต่ขอย้ำว่า อย่าเครียดกับตัวเลขน้ำหนักบนตาชั่งค่ะสุขภาพที่ดีสำคัญที่สุด!


7. หวาดกลัวแคลอรี่เข้ากระดูกดำ

รูปภาพ:http://weightlosswowfactor.com/wp-content/uploads/2011/02/dreamstime_s_29091305.jpg

เดี๋ยวก่อนนะ แคลอรี่คือพลังงานที่หล่อเลี้ยงให้ร่างกายมีชีวิต ไม่ใช่ศัตรูคู่อาฆาตของเธอสักหน่อย!

เวลาจะกินอะไรทีต้องนับแคลอรี่รัวๆ ถ้ากินเกินไปสักสิบแคลอรี่แทบจะดื้นตาย

การกินเหมือนแมวดมไม่ดีหรอกนะ ทำให้ร่างกายสะสมไขมันเพราะมันคิดว่า เธอกำลังจะตาย!

เลือกกินน้ำตาลและไขมันจากธรรมชาติ เช่น น้ำตาลจากผลไม้ ไขมันโอเมก้า 3 หรือกรดไขมัน 6 ชนิดอย่างปลาแซลมอน ถั่วและอะโวคาโดสิ

แม้พลังงานเยอะแต่เธอจะสุขภาพดีขึ้นแน่นอน

เลือกกินแคลอรี่ให้เหมาะสมกับร่างกายดีกว่านะ


============================

แม้จะมีวิธีไดเอทที่ถูกวิธีบอกกล่าวกันมากมาย ( บางทีเตือนจนปากเปียกปากแฉะแล้วก็ไม่ฟัง ) กลับไปเชื่อวิธีไดเอทที่สุดโต่งจนน่ากลัว ในที่สุดก็เกิดปฏิกิริยาเด้งกลับ หรือโยโย่เอฟเฟกต์นั่นเอง!การลดความอ้วนที่ไม่ถาวรนั้นไม่ยั่งยืน น้ำหนักที่หายไปไม่ใช่ไขมัน แต่เป็นกล้ามเนื้อช่วยเผาผลาญพลังงานกับน้ำในร่างกายต่างหากยิ่งกล้ามเนื้อหายเยอะ ระบบเผาผลาญเธอก็แย่ลงเรื่่อยๆ สุดท้ายก็อ้วนขึ้นรัวๆ

ถ้าอยากผอมยาวๆ อย่างยั่งยืน ทิ้งกองยา สเตย์รัด อาหารเสริมแปลกๆ ออกไปให้หมดเถอะ แล้วเริ่มทำวิธีที่ถูกต้องอย่างกินอาหารครบ 5 หมู่และออกกำลังกายอย่างเหมาะสมอาจต้องใช้เวลากว่าจะได้ผล แต่รับรองว่าหุ่นสวยจะอยู่กับเธอไปได้อีกนานแสนนาน แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ!

============================

บทความที่เกี่ยวข้อง