เชื่อว่าเรื่องงานที่ชอบแต่เงินน้อยถึงปานกลาง กับงานที่ไม่ได้ชอบแต่เงินเยอะ เป็นปัญหาโลกแตกของใครหลายๆ คน ฉันก็เคยเป็นหนึ่งในคนที่ตั้งคำถามกับตัวเอง จนในที่สุดก็มีโอกาสได้สัมผัสกับทั้ง 2 อย่าง เลยอยากขอแบ่งปันทั้ง 2 แง่มุม ในทัศนะของตัวเอง เผื่อจะเป็นประโยชน์กับใครหลายๆ คนบ้าง
เงินที่ใช่
สมัยเรียนจบใหม่ๆ ไฟกำลังแรง รู้สึกอยากทำงานอะไรก็ได้ที่เงินเยอะๆ ถามว่า ตอนนั้นมีงานที่ชอบที่อยากทำไหม ตอบเลยว่ามีค่ะ แต่งานที่ชอบเงินมันไม่มากพอไง ก็เลยขอลุยมาทางเงินที่ใช่ดีกว่า ปรากฏว่า ทำไปได้ไม่นาน ใจลึกๆ รู้แล้วว่าไม่ใช่อย่างแรง ทั้งเนื้องาน ทั้งสภาพแวดล้อมในออฟฟิศ แต่ก็ยังไม่ถอย ขอดูเพื่อความแน่ใจก่อนแต่สภาพจิตใจไม่เคยโกหกค่ะ เมื่อจิตเราไม่ไหว กายก็ไม่เอาตามไปด้วย ฉันเริ่มป่วยบ่อย ทั้งป่วยจริงป่วยปลอมปนกันมั่วไปหมด ลาสารพัดจะลา ไปทำงานก็ไปแบบซังกะตาย กลัวตอนเช้า ชอบตอนกลางคืน และมักจะนอนดึกเกินกว่าเหตุ เพราะอยากตักตวงช่วงเวลาที่ไม่ได้ทำงานให้นานที่สุด สุขภาพก็แย่ลงเรื่อยๆ เพราะบางทีง่วงมากแต่ฝืนไม่ยอมนอน กลัวหลับแล้วเช้าเร็ว สุดท้ายก็ไม่ไหว ตอนนั้นคิดเลยว่า ต่อให้จ้างฉันด้วยเงินมากกว่านี้ 10 เท่า ก็ไม่เอาแล้วล่ะค่ะ!
งานที่ชอบ
พอมีโอกาสได้ทำงานที่ชอบ แม้เงินจะอยู่ในระดับปานกลางค่อนไปทางน้อย แต่ฉันรู้สึกมีความสุขกับมันนะ ไปทำงานก็เหมือนไม่ได้ทำ ความรู้สึกเหมือนกับองค์กรจ้างเราให้มาอยู่กับงานอดิเรกของเราเอง มันมีPassionในทุกๆ วัน
สุขด้วย สนุกด้วย โอเค!!...มันอาจมีปัญหาบ้าง เครียดบ้าง แต่เราจะไม่หมดพลังในการแก้ปัญหา จะไม่ถอดใจง่ายๆ และถ้าเราทำงานอย่างมีความสุข ผลงานก็จะออกมาเป็นที่น่าพอใจ ที่สำคัญคือ ถ้าสุขภาพจิตดี สุขภาพกายก็จะดีตามไปด้วย อาจมีป่วยบ้างตามสภาพอากาศ แต่ก็ไม่ได้มีอาการป่วยที่มาจากสภาพจิตใจที่ย่ำแย่อีกแล้ว
นอกจากนี้ ฉันเองได้มีโอกาสคุยกับนักธุรกิจหลายๆ ท่านที่ประสบความสำเร็จ ทุกคนต่างที่มานะคะ แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือ ทุกคนพูดเหมือนกันว่า
การจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้นั้น ต้องทำอะไรที่ตัวเองชอบ
พออยู่กับสิ่งที่ชอบแล้ว จะมีความสุข พอมีความสุข ผลงานก็จะดี เงินก็จะตามมา ทุกอย่างดีหมด เพราะเราทำสิ่งนั้นออกมาด้วยความตั้งใจ
ถ้าไม่รู้ว่าชอบอะไร ก็ให้รักในสิ่งที่ทำ
สำหรับใครที่ยังตอบปัญหาไม่ได้ ว่าชีวิตนี้ชอบงานแบบไหน ก็ให้รักในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ เพราะหากคุณไม่รักในสิ่งที่คุณทำอยู่ตอนนี้ มันจะทำให้คุณไม่มีผลงานที่ดีออกมา เรื่องของใจถือเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าใจของคุณไม่รักงานที่คุณทำ มันจะฟ้องออกมาที่ผลงาน อย่าแปลกใจถ้าคุณไม่มีผลงานที่ดีพอ ในเมื่อคุณเองปราศจากความรักที่จะให้กับงาน ฉะนั้นแล้วถ้าไม่รู้จริงๆ ว่า งานอะไรที่ทำแล้วเราจะรัก ก็ให้รักในงานที่ทำอยู่ตอนนี้ดีกว่าค่ะ
มีงานที่ชอบแต่จำเป็นต้องใช้เงินมาก
ในกรณีที่คุณมีภาระมากมาย จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องทำงานที่ผลตอบแทนสูง แต่ทีนี้ก็ยังอยากที่จะทำงานที่รัก ที่ชอบ มีหนึ่งทางออกมาเสนอ นั่นก็คือ คุณทำงานที่คุณชอบต่อเถอะค่ะ เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้นว่า ถ้าเราได้ทำในสิ่งที่เราชอบ เราจะสรรค์สร้างผลงานออกมาได้ดี และงานของเราก็จะก้าวกระโดด
อีกทั้งยังได้ความสุขในขณะที่ทำงานด้วย แล้วคุณก็หางานเสริมทำเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับตัวเอง เพื่อเพิ่มช่องทางรายได้ แต่ถ้างานที่คุณชอบทำเงินได้น้อยขั้นแอดวานซ์จริงๆ ล่ะก็...อีกหนึ่งทางเลือกคือ คุณต้องหางานที่รายได้สูง แล้วทำสิ่งที่ชอบจากงานเสริม แม้งานประจำอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ชอบ แต่อย่างน้อยคุณก็มีเงินมาใช้จ่ายภาระหน้าที่ต่างๆ และก็ยังไม่ได้ทิ้งสิ่งที่ชอบไป เพราะยังมีงานเสริมคือสิ่งที่คุณรักรออยู่นั่นเองค่ะ
ส่วนตัวนะคะ สำหรับฉันแล้ว ฉันให้น้ำหนักที่ความสุขทางใจ เรื่องของใจใครว่า ไม่สำคัญ ถ้าใจไม่โอนี่มันส่งผลหลายด้านกับชีวิตเหมือนกันนะคะ ทุกอย่างจะรุ่งหรือร่วงใจนี่แหละตัวชี้เลย แต่เรื่องแบบนี้ก็นานาจิตตัง แล้วคุณล่ะคะเลือกงานที่ชอบ...หรือว่าเงินที่ใช่???
