สำหรับหัวข้อนี้ ใครที่มักโดนเพื่อนเรียกว่า “แม่สาวขี้มโน” จะได้ถือโอกาสเช็คซะหน่อย ว่าตกลงแล้วคุณคือสาวขี้มโนจริงๆ อย่างที่เพื่อนบอกหรือเปล่า
เริ่มเช็คกันได้เลยค่ะ ^0^
1. เจอชายหนุ่มที่ชอบ 2 ครั้ง ถือว่าเป็นพรหมลิขิต

เจอครั้งแรกก็ต้องตาต้องใจแล้ว แอบคิดในใจว่าถ้าเจอ 2 ครั้ง แสดงว่าคุณคือคู่ตุนาหงันของฉันชัวร์ๆ พอได้พบประสบอีกครั้ง ต่อมมโนทำงานทันที ภาพในหัวบังเกิดว่าเรา 2 เป็นคู่กันมาแต่ชาติปางก่อนแน่ๆ ภาพยิงยาวไปถึงตอนเดทเรียบร้อย ระวังตัดภาพมาที่โลกแห่งความเป็นจริง เขาเดินลับตาไปแล้วกำลังไปรับแฟนสาวของเขาอยู่นะคะ อิอิ
2. ผู้ชายขอไลน์คิดว่าเขามีใจชัวร์ๆ

ยิ่งเป็นชายหนุ่มในอุดมคติเอ่ยปากขอไลน์ด้วยแล้วใจก็ไปแล้วค่ะ คิดเลยว่าเขามีใจแน่ๆ แต่ดูดีๆ ก่อนนะคะ ก่อนที่เขาจะขอเนี่ย บริบทของคุณกับเขามันเป็นยังไง หากต้องดีลงานกัน การที่เขาขอไลน์ไว้ไม่แปลกค่ะ เพราะคุยงานทางไลน์ สะดวกรวดเร็วดี แต่สำหรับสาวขี้มโนก็อาจคิดต่ออีกว่า เขาอาจจะเอาเรื่องงานมาบังหน้าเพราะอยากคุยกับเราแน่ๆ! หากคุณมีความคิดประมาณนี้ บ่งบอกได้ในเบื้องต้นว่า คุณมีพลังของความโนแฝงเร้นอยู่ค่ะ!
3. ผู้ชายโทรหา ก็เหมาว่าเขาชอบ

แค่เห็นเบอร์ชายหนุ่มที่พึงใจโทรมา ใจก็คิดไปไกลกว่า80%แล้ว แม้ว่าเขาจะโทรมาถามเรื่องงาน หรือขอความเห็นบางอย่างเนื่องจากคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ คุณก็จะไม่สนใจประเด็นนี้เลย คุณจะเห็นภาพว่าเขากำลังหาเหตุมาคุยกับคุณแน่ๆ ถ้าคุณชอบคิดอะไรลักษณะนี้ก็ไม่ต้องสืบค่ะ ป้ายนางสาวขี้มโนแปะไว้ที่หน้าผากของคุณเรียบร้อยแล้ว
4. จินตนาการก้าวไกล แค่มีใครเผลอมอง

บางทีระหว่างรอเพื่อนสาวในร้านอาหาร เห็นมนุษย์ผู้ชายคนหนึ่งมองเราบ่อยๆ หรือบางทีมองเรานานเกินความจำเป็น ก็หยิบสมาร์ทโฟนคู่ชีพไลน์หาเพื่อนสาวเพื่อคุยเรื่องชายหนุ่มคนดังกล่าวทันที “ แก มีผู้ชายมองฉันอ่ะ ทำไรไม่ถูกเลยเนี่ย รีบมาหน่อยสิ ” มือพิมพ์ไปใจก็แอบยิ้มเบาๆ ว่ามีชายหนุ่มมาหลงเสน่ห์เราเข้าให้แล้ว ระวังนะคะบางทีเขาอาจจะมองคนที่ถัดจากคุณ หรือคุณอาจหน้าคล้ายเจ้าหนี้ของเขา...ก็เป็นได้
ฮั่นแน่!!! รู้นะว่าเป็นกันบ่อย ถึงจะพยายามหาข้ออ้างมาปฏิเสธแค่ไหน แต่อ่านมาถึงตรงนี้ตอบได้หรือยังคะว่า คุณจัดอยู่ในกลุ่มของแม่สาวขี้มโนหรือเปล่า ^ ^ แต่ถ้าจะมโนมันก็ไม่แปลกหรอก แต่จะดีกว่ามั้ยถ้าจะทำให้เขาชอบเราจริงๆ โดยไม่มโน สนใจสามารถติดตามอ่านได้ที่บทความนี้ค่ะ
ขอให้สาวๆ สมหวังในความรักนะจ๊ะ!!
Comments