ใครบอกล่ะว่าสิวจะเป็นได้แค่ช่วงวัยรุ่นเท่านั้นเพราะแม้แต่สาวๆ ที่วัยย่าง 30 บางคนก็ยังเป็นสิวมาตั้งแต่วัยรุ่นยังไม่หายเลยแถมแม้จะเป็นวัยหมดประจำเดือนแล้ว สิวก็อาจจะแอบมาเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีใครรู้เรียกได้ว่าจะวางใจเรื่องสิวนี่ไม่ได้เลยเชียวแหละ

ประเด็นคือสาวๆ ทุกคนต่างก็มีปัญหาผิวที่ต้องคอยดูแล  แต่บางครั้งมันก็ทำให้นึกถึงสำนวน "ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก" ปัญหาผิวหนึ่งยังไม่หมด มีปัญหาใหม่มาอีกแล้ว!โดยเฉพาะผู้หญิงที่เลยช่วงวัยรุ่นมาแล้ว ก็เริ่มจะเข้าสู่วัยที่เริ่มมีริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยตื้นๆ หรือริ้วรอยย้ำลึกแล้วยังงี้จะดูแลผิวยังไงดีจะเน้นดูแลผิวเรื่องไหนก่อน หรือจริงๆ แล้วมันสามารถแก้ไปพร้อมกันได้รึเปล่านะ?


เพราะถ้าสู้กับปัญหาสิวมากเกินไป ผิวก็จะเริ่มแห้ง และถ้าผิวแห้งริ้วรอยก็จะชัดมากขึ้นกว่าเดิมแต่ถ้าเน้นเรื่องริ้วรอยมากเกินไป ด้วยครีมที่กะว่าต้องชุ่มชื้นเต็มที่ผิวที่เป็นสิวก็อาจจะหนักกว่าเก่าโอ้ย...แค่คิดก็ปวดหัวแล้วอย่าเพิ่งหนักใจไป เพราะความจริงแล้วเราสามารถดูแลปัญหาผิวทั้งสองอย่างนี้ไปพร้อมๆ กันได้ ลองไปดู5 วิธี จะผิวสิว หรือผิวแก่ ก็แก้พร้อมกันได้!


ทั้งสิว ทั้งริ้วรอย!? 5 วิธี จะผิวสิว หรือผิวแก่ ก็แก้พร้อมกันได้!


1. ล้างหน้าแบบอ่อนโยน

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/98/d9/4b/98d94bd6113fefe696964441fd327844.jpg

ข้อผิดพลาดใหญ่ๆ ของสาวๆ ที่รับมือกับสิว ก็คือ การเลือกคลีนเซอร์ที่รุนแรงกับผิวหน้าเกินไป เพื่อให้สิวแห้งและหายไปจากหน้า

แต่เป็นเรื่องที่ร้ายต่อผิวมากๆ

การใช้คลีนเซอร์แรงๆ เพื่อทำให้ผิวแห้ง จะยิ่งกระตุ้นให้มีการผลิต sebum มากขึ้น สรุปว่าผิวแห้งไปละ แต่สิวยังอยู่จ้า

ดังนั้นควรจะ

ใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยนกับผิว

ลองดูส่วนประกอบเลย

ถ้ามีอะไรเกี่ยวกับ sodium lauryl sulfate ให้รีบวางทันที

เพราะมันรุนแรงกับผิวมากๆ


และสบู่ก้อนก็ไม่เอา คลีนเซอร์แบบน้ำนมก็ไม่เอา เพราะอาจจะทำให้ผิวอุดตัน และกลายเป็นสิวหนักกว่าเดิม


2. ผลัดเซลล์ผิว

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/1b/57/f2/1b57f2470013011c670572cd60058981.jpg

salicylic acid (BHA) มีหน้าที่ต่อสิว คือช่วยผลัดผิว และลงลึกสู่รูขุมขน ล้าง sebum ส่วนเกิน และเซลล์ที่ตายแล้ว รวมถึงอะไรก็ตามที่กำลังอุดตันผิวของคุณจนทำให้เกิดสิวโดยมันจะทำหน้าที่ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วตั้งแต่พื้นผิวชั้นบน ดังนั้นมั่นใจได้ว่ามันจะไม่มีทางอุดตันอีกแน่นอน ถ้าให้เข้าใจง่ายๆเจ้าตัวนี้จะช่วยทำให้รูขุมขนของคุณสะอาด และลดการเกิดสิว แต่จะได้ผลดีถ้าเป็นประเภทไม่ต้องล้างออกอันไหนต้องล้างออก เก็บไว้เลยจ้ะ ไม่ได้ผลหรอก

ส่วนสาร  glycolic acid  ที่มีผลดีในด้านริ้วรอย ก็เป็นสกินแคร์ที่สามารถไปด้วยกันได้ฉะนั้นทั้งสิว และริ้วรอย สามารถใช้โปรดัคส์ที่มีส่วนผสมทั้งสองอย่างนี้ได้เลย


3. แอนตี้ออกซิเดนท์ เซรั่ม

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/a6/85/db/a685dbb1f8a4d1b6943ddd56d49d2168.jpg

อนุมูลอิสระนี่แหละ คือศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของผิวเราทุกคนกระบวนการทำงานของอนุมูลอิสระ คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผิวเราเกิดริ้วรอย และจุดด่างดำแต่สารต้านอนุมูลอิสระ หรือที่เรารู้จักกันอีกชื่อว่า Antioxidants จะไปขวางการทำงานของอนุมูลอิสระ

จริงๆ ร่างกายเรารู้ตัวว่า อนุมูลอิสระกำลังจะมาเยือนแล้ว ดังนั้นธรรมชาติของร่างกายจึงผลิตสารแอนตี้ออกซิเดนท์เพื่อทำลายศัตรูผิวก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาแต่ประเด็นคือผิวของเราจำเป็นต้องพึ่งสารแอนตี้ออกซิเดนท์มากกว่าที่ร่างกายเราจะสามารถผลิตขึ้นมาได้ตามธรรมชาตินี่แหละคือที่มาของการทานอาหารแบบเฮลท์ตี้ และสกินแคร์จึงมีประโยชน์กับผิวเรา

เราสามารถเจอสารแอนตี้ออกซิเดนท์ได้ในสกินแคร์หลายตัว ที่มีส่วนผสมของวิตามิน C, วิตามิน E, ชาเขียว, Resveratrol, Coenzyme Q10, กรดเฟอรูลิก และ  Superoxide dismutase (S.O.D.)แล้วอะไรที่ดีที่สุดในการต้านอนุมูลอิสระ คำตอบก็คือไม่มีอันไหนดีที่สุด ก็เหมือนที่ร่างกายเราไม่ได้ต้องการแค่ผักคะน้า ผิวเราก็ไม่ได้ต้องการแค่ชาเขียว เช่นกัน

ยิ่งเรารับสารต้านอนุมูลอิสระได้มากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งดูอ่อนเยาว์ และมีสุขภาพดีมากขึ้นเท่านั้น


4. เซรั่มกรดไฮยารูลอนิก

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/3a/fd/24/3afd24f84facc2698fb1b3c46f01189b.jpg

กรดไฮยารูลอนิก เปรียบเสมือนแม่เหล็กดูดความชุ่มชื้นให้กับผิวเพราะมันจะทำการจับน้ำในอากาศเข้าไปสู่ผิวหนัง และฝังไว้ในผิวเรา เป็นกรดที่ดีมาก สามารถเก็บน้ำไว้ในผิวได้หลายเท่าตัว และที่ดีไปกว่านั้นคือมันสามารถทำงานได้ดี ไม่ว่าจะอยู่ที่ที่มีความชื้นต่ำ หรือสูงดังนั้นไม่ว่าคุณจะอยุ่ที่ไหน กรดไฮยารูลอนิก ก็สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ!

เซรั่มที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ หรือ มอยซ์เจอไรเซอร์บางตัว ก็ถือว่ามีกรดไฮยารูลอนิกอยู่เพียงพอที่จะทำให้ผิวของเราดูอิ่มน้ำฉ่ำวาวกันแล้ว แต่ถ้าใครรู้สึกว่ายังไม่พอล่ะก็ซื้อเซรั่มที่มีส่วนผสมของกรดไฮยารูลอนิกมาใช้แยกต่างหากเลยก็ได้เช่นกันจ้า


5. มอยซ์เจอไรเซอร์ ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/6f/d3/a0/6fd3a0f0634b93cb0ad4645fc9ee677f.jpg

ผิวหนังของคุณต้องการมอยซ์เจอไรเซอร์ที่มีสารแอนตี้ออกซิเดนท์ เพื่อต่อสุ้กับอนุมูลอิสระ และต้องมีความชุ่มชื้นเพียงพอที่จะไม่ทำให้ผิวคุณแห้งเป็นขุยด้วย และสารniacinamide ก็คือฟอร์มหนึ่งของ วิตามิน B3 ซึ่งสามารถยับยั้งได้ทั้งริ้วรอย, จุดด่างดำ, ผิวแห้ง, ปลอบประโลมผิวที่ระคายเคือง และแก้ปัญหาสิวได้ด้วยมีอะไรที่ทำไม่ได้มั้ยเนี้ย!?

แต่ปัญหาอยู่ตรงนี้ ทุกคนคงรู้ดีว่าอะไรก็ตามที่มีเนื้อข้น หนักเกินไป ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาการอุดตัน ซึ่งจะทำให้ผิวของคุณกลายเป็นสิวได้ดังนั้นทางที่ีดีคือควรเลือกโปรดัคส์ที่มีเนื้อบางเบา อย่างโลชั่น หรืออิมัลชั่น แทนที่จะใช้ครีมจะดีที่สุด


และนี่ก็คือ การดูแลผิวสไตล์คนมีสิว และมีริ้วรอยใครที่มีปัญหาทั้งสองอย่างนี้พร้อมกัน ก็สามารถดูเทคนิคตามทั้ง 5 ข้อนี้ได้เลยและที่สำคัญอย่าลืมทาครีมกันแดดด้วยนะจ๊ะ เพราะแดดคือสาเหตุของปัญหาผิวทุกๆ ด้าน เป็นสาเหตุของริ้วรอย แถมยังทำให้ผิวที่รักษาสิวระคายเคืองได้ด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะยังไงต้องทาครีมกันแดดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อให้ผิวเราสวยที่สุด เนาะ!