เช็คเฉดสีผิว (Skin Tone) ของตัวเองได้ ภายใน 9 ขั้นตอน!

สวัสดีค่ะสาวๆ ซิสต้าทุกคน! บทความหมวด Beauty ในวันนี้จะเสนอวิธีง่ายๆ ในการทำให้เธอแต่งหน้า แต่งตัวได้สวยงามยิ่งขึ้น >w< ถามก่อนว่า เธอเคยมีปัญหาเลือกสีรองพื้น สีลิปสติก แต่งออกแล้วดูหน้าวอก หน้าลอย หรือหน้าคล้ำเสียจนอยากจะไปถล่มเคาน์เตอร์บ้างไหม หรือปัญหาเลือกสีเสื้อผ้าไม่สวย ทำให้ผิวดูคล้ำลงกว่าเดิม แทนที่จะขับผิวให้ผ่องขึ้นเสียอย่างนั้น

หมดข้อกังวลเมื่ออ่านบทความนี้ เพราะคำตอบอยู่ที่นี่แล้ว! ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากสาเหตุเดียวคือ " เธอไม่รู้จักเฉดสีผิวหรือ Skin Tone ของตัวเอง " ค่ะ! การรู้จัก Skin Tone ของตัวเองมีประโยชน์หลายข้อ เช่น เลือกสีลิปสติก สีผม โทนสีเสื้อผ้าให้เหมาะกับตัวเองได้ หมดปัญหาถูกเข้าใจผิดว่าเป็นป้าอีกต่อไป =w=

อ่านบทความนี้เพื่อเช็ค Skin Tone และสีผิว ( complexion ) ของตัวเอง แล้วไป

https://sistacafe.com/summaries/91027

กันได้เลย Let's go!

วิธีที่ 1 : ตรวจดู " เฉดสีผิว " ด้วยตัวเอง

" Skin Tone " คืออะไร

สกินโทน ( skin tone ) หรืออันเดอร์โทน ( undertone ) ไม่เกี่ยวกับสีผิวที่เรียกกันว่า ผิวขาว ผิวกลาง ผิวคล้ำ เรียกว่า Complexion หรือสีผิวภายนอกนั่นเอง แต่สกินโทนจะเกี่ยวข้องกับจำนวนเมลานินหรือพิกเมนต์ใต้ชั้นผิวหนังแท้ จะไม่เปลี่ยนสีแม้โดนแสงอาทิตย์หรือเป็นสิว เป็นสีผิวที่แท้จริงของเรา พูดง่ายๆ ว่า การที่เราผิวซีดลงในหน้าหนาว และคล้ำลงในหน้าร้อน สกินโทนของเราก็เหมือนเดิมค่ะ

> สกินโทนมีสามเฉด 1. สีผิวอมชมพู แดงฝาด ( Cool ), 2. ผิวสีอมเหลือง ( Warm ) และ 3. โทนสีเขียวมะกอก ( Neutral )> อย่าลืมว่าสกินโทนของเธออาจไม่เหมือนกับสีผิวภายนอก เธออาจมีผิวขาวอมชมพู แต่มีสกินโทนอมเหลืองก็เป็นได้> ก่อนจะเช็คสีสกินโทนของตัวเอง ทำความสะอาดผิว ไม่แต่งหน้า ทาโลชั่นใดๆ ทั้งสิ้น แค่ล้างหน้าแล้วรอให้แห้งประมาณ 15 นาที เพราะหากล้างแล้วเช็คเลย อาจได้สีที่ผิดเพี้ยน เนื่องจากสาวๆ บางคนใช้โฟมแบบสครับผิว ทำให้หน้าแดงขึ้นกว่าความเป็นจริงค่ะ> ขณะเช็คสกินโทนของตัวเอง ใช้แสงจากธรรมชาติเสมอ ( แสงอาทิตย์ ) หากใช้แสงไฟจากโคมไฟต่างๆ อาจทำให้สีผิวเพี้ยน เพราะไฟแต่ละอย่างก็สะท้อนสีต่างกันไป อาจทำให้สีผิวอมเหลือง อมเขียวได้

ดูสีของเส้นเลือด ( veins ) หลังข้อมือ

วิธีนี้เป็นวิธีที่สาวๆ นิยมใช้มากที่สุด เพราะง่ายและสะดวกมากในการตรวจอันเดอร์โทนของตัวเอง แค่ไปยืนในที่มีแสงธรรมชาติเข้าถึง หงายพลิกฝ่ามือขึ้น อย่าทาโลชั่นหรือครีมใดๆ และล้างข้อมือบริเวณนั้นให้สะอาดด้วยนะคะ

> ถ้าเส้นเลือดเป็นสีน้ำเงินหรือม่วง แปลว่าเธอมีสกินโทนเป็นแบบ Cool Tone

> ถ้าเส้นเลือดเป็นสีเขียว แปลว่าเธอมีสกินโทนเป็นแบบ Warm Tone

> ถ้าดูไม่ออกว่าเส้นเลือดของเธอสีอะไร อาจเป็นสีแบบกลาง ( Neutral )

ดูว่าผิวหนังตอบสนองกับแสงอาทิตย์อย่างไร

เธอผิวแทนได้ง่ายไหม โดนแดดแล้วผิวไหม้หรือเกิดริ้วรอยทันทีเลยหรือเปล่า จำนวนเมลานินในผิวจะเกี่ยวกับการที่ผิวตอบสนองต่อแสงแดดและบอกสกินโทนของเราได้ค่ะ

> ถ้าเธอผิวแทนได้ง่าย แต่ผิวแทบไม่ไหม้เลย แปลว่าเธอมีจำนวนเมลานินในผิวสูง มีสกินโทนแบบ Warm Tone หรือแบบธรรมชาติ ( Neutral )

> ถ้าเธอผิวไหม้ แต่ไม่มีสีแทน แปลว่าเธอมีจำนวนเมลานินในผิวน้อย มีสกินโทนแบบ Cool

> สาวบางคนที่มีผิวคล้ำมากๆ ( ทางตะวันตกเรียกว่าสีไม้มะเกลือหรือ ebony ) แต่ผิวไม่ไหม้ง่าย แปลว่ามีสกินโทนแบบ Cool Tone

*หากยังไม่แน่ใจ ลองทำการทดสอบอื่นควบคู่ไปด้วยก็ได้ค่ะ

ถือแผ่นกระดาษขาวในระดับเดียวกับใบหน้า

มองตัวเองในกระจก ดูว่าสีผิวของตัวเองตัดกับกระดาษขาวอย่างไร อาจเป็นสีเจือเหลือง, สีเจือน้ำเงิน-แดง, สีเจือกุหลาบ หรืออาจไม่สะท้อนสีอะไรเลยนอกจากสีเทาก็เป็นได้ค่ะ

> ถ้าสีผิวของเธอออกเหลืองหรือออกซีดหลังกระดาษขาว แปลว่าเธอมีสกินโทนแบบ Warm

> ถ้าสีผิวของเธอออกสีชมพู สีกุหลาบ หรือสีแดงเจือน้ำเงิน แปลว่าเธอมีสกินโทนแบบ Cool

> ถ้าสีผิวของเธอออกเทา แปลว่าเธออาจมีสีผิวแบบมะกอก อันเดอร์โทนแบบกลาง ( Neutral ) จากสีผิวภายนอกที่เจือเขียวและอันเดอร์โทนเหลือง

> ถ้าเธอไม่สามารถบอกสีผิวที่เจือได้ว่าเป็นเหลือง สีมะกอกหรือสีชมพู แปลว่าเธอมีสกินโทนแบบกลาง ( Neutral ) ซึ่งดูดีกับรองพื้นและเฉดสีสเปกตรัมของทั้ง Cool และ Warm

ใช้กระดาษฟอยล์หรือเครื่องประดับสีเงิน/ สีทอง หน้าใบหน้าของตัวเอง

ถือกระดาษฟอยล์สีทองข้างหน้าใบหน้าของตัวเอง เพื่อให้แสงสะท้อนกลับเข้าสีผิว ดูว่าใบหน้าของเธอออกเทาหรือทำให้ดูหมอง หรือจะลองใช้กระดาษฟอยล์สีเงินก็ได้

> ถ้าแสงจากกระดาษฟอยล์สีทองดูดีสุด เธอมีสกินโทนแบบ Warm

> ถ้าแสงจากกระดาษฟอยล์สีเงินทำให้ผิวดูโกลว์ เรืองแสง เธอมีสกินโทนแบบ Cool

> ถ้าแสงจากกระดาษฟอยล์สีเงินและทองให้ผลเหมือนกัน เธอมีสกินโทนแบบกลาง ( Neutral )

* ถ้าเธอไม่มีกระดาษฟอยล์สีเงินหรือสีทองเลย ใช้เครื่องประดับที่ทำจากเงินหรือทองก็ได้ เช่น สร้อยข้อมือ แล้วดูว่าแบบไหนเข้ากับสีผิวของเธอมากกว่า

ให้เพื่อนช่วยดูว่า สีผิวหลังใบหูเป็นสีอะไร

ถ้าเธอมีสิวหรือมีปัญหาผิวหน้าที่ทำให้เห็นสีผิวหรือสกินโทนได้ไม่ชัดเจน ลองให้เพื่อนช่วยดูผิวที่หลังใบหู เพราะบริเวณนั้นเป็นบริเวณที่ " ปลอดภัย " มากที่สุดค่ะ

> ตรวจผิวที่รอยพับหลังใบหู

> ถ้าผิวสีออกเจือเหลือง แปลว่ามีสกินโทนแบบ Warm

> ถ้าผิวสีออกเจือชมพูหรือดอกกุหลาบ แปลว่ามีสกินโทนแบบ Cool

> ถ้าดูไม่ออก ถือแผ่นกระดาษขาวใกล้ๆ ผิว แล้วให้เพื่อนช่วยดูว่าออกสีเหลืองหรือชมพูค่ะ

วิธีที่ 2 : ใช้ Skin Tone ของตัวเองเพื่อเลือกสีที่เหมาะสม

ส่องผิวกับแสงไฟธรรมชาติ เพื่อดูสีผิวของตัวเอง

Complexion คือสีผิวชั้นนอกของเธอ เช่น ผิวขาวเหลือง ผิวขาวอมชมพู ผิวคล้ำ และไม่ถาวร สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผิวของเธออาจสีซีดลงในหน้าหนาวและคล้ำขึ้นในหน้าร้อน ให้ดูสีผิวใกล้แนวกรามค่ะ

> เตรียมผิวให้สะอาด ไม่ทารองพื้น แป้งและโลชั่น

> ถ้าเธอมีสีผิวขาวจนซีด ขาวจนเหมือนโปร่งแสงได้ เช่น สีผิวของสาวเกาหลี แปลว่าเธอมีสิผิวแบบ fair อาจมีริ้วรอยหรือรอยแดงบ้าง อ่อนไหวต่อแสงแดดและผิวไหม้ได้ง่าย อาจมีอันเดอร์โทนแบบ Cool หรือ Warm ก็ได้

> ถ้าเธอมีผิวซีดที่ไหม้ต่อแสงแดด แต่กลายเป็นผิวสีเข้มแทนๆ แปลว่าเธอมีสีผิวแบบ light อาจมีรอยแดงบ้างและค่อนข้างอ่อนไหวต่อการระคายเคือง อาจมีอันเดอร์โทนแบบ Cool หรือ Warm ก็ได้

> ถ้าเธอผิวเข้มง่ายและแทบไม่ไหม้เลย เธอมีผิวแบบ Medium มีอันเดอร์โทนแบบ Warm หรือสีทอง เป็นเฉดสีผิวที่เจอบ่อยที่สุด

> ถ้าผิวของเธอเป็นสีมะกอก เข้มตลอดเวลาแม้ในหน้าหนาว สีผิวของเธอคือสีแทน เธอแทบไม่เคยเจออาการผิวไหม้เลย มีอันเดอรโทนแบบกลาง ( Neutral ) หรือ Warm

> ถ้าเธอมีผิวสีน้ำตาล ผมสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ เธอมีผิวแบบ Warm ผิวของเธอเข้มลงได้อย่างรวดเร็วเมื่อออกแดด และแทบไม่ไหม้เลย อันเดอร์โทนมักเป็นแบบ Warm

> ถ้าเธอมีผิวคล้ำมาก ผมสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ แปลว่าเธอมีผิวแบบคล้ำมาก ( deep complexion ) เธออาจมีสกินโทนแบบ Warm หรือ Cool และผิวของเธอแทบไม่ไหม้เลยอีกด้วย

ใช้เฉดสีผิว ( Skin Tone ) เพื่อหาสีเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับตัวเอง

*เป็นแค่คำแนะนำ ถ้าเธอชอบสีอื่น ใส่แล้วมั่นใจก็ไม่ต้องยึดติดตามกฎนี้นะคะ*

การจับคู่สกินโทนกับสีเสื้อผ้าที่เหมาะสม ทำให้บุคลิกและสีผิวของเธอดูดีขึ้นได้

> สาวๆ ที่มีอันเดอร์โทนแบบ Warm เหมาะกับสีกลางๆ อย่างเบจ ครีม ส้มปะการัง ( orangey-coral ) สีมัสตาร์ด ขาว เหลือง ส้ม น้ำตาล แดงโทนอบอุ่น และสีเขียวเหลืองค่ะ

> สาวๆ ที่มีอันเดอร์โทนแบบ Cool เหมาะกับสีแดงอมน้ำเงิน สีน้ำเงิน ม่วง ชมพู เขียว พลัม กากี สีมาเจนต้า ( ม่วงแดงเข้ม ) และสีน้ำเงินอมเขียว

> สาวๆ ที่มีอันเดอร์โทนแบบกลาง ( Neutral ) โชคดีที่สุดเพราะเข้าได้กับสีเสื้อผ้าแทบทุกสีเลยล่ะค่ะ

ดู Skin Tone และสีผิวเพื่อเลือกสีลิปสติกที่เหมาะสมกับตัวเอง

> ถ้าเธอมีผิวแบบ Fair หรือ Light ใช้ลิปสติกสีชมพูอ่อน สีชมพูอมส้ม ( Coral ) สีนู้ด สีเบจ หรือสีแดงหม่น ( dusty red )

*ถ้าเธอมีอันเดอรโทนแบบ Cool ใช้สีแดงราสป์เบอร์รี่ มอคค่า หรือสีนู้ด ถ้ามีอันเดอร์โทนแบบ Warm ให้ใช้สีแดงที่มีอันเดอร์โทนน้ำเงิน ทำให้ฟันดูขาวขึ้นอีกด้วย สีขมพูอมส้ม สีชมพูซีดหรือสีพีชนู้ดก็ใช้ได้ค่ะ

> ถ้าเธอมีผิวแทนหรือ medium เลือกสีแดงเชอร์รี่ สีแดงกุหลาบ สีม่วงอ่อน ( mauve ) หรือสีเบอร์รี่ หรือเป็นสีชมพูเข้ม สีชมพูอมส้มก็ดูดีได้

*ถ้าเธอมีอันเดอร์โทนแบบ Warm ลองดูสีส้มอมแดง สีส้ม-แดง สีทองแดง หรือสีบรอนซ์ก็ได้

*ถ้าเธอมีอันเดอร์โทนแบบ Cool ใช้สีไวน์แดงแบบไวน์แครนเบอร์รี่ค่ะ

> ถ้าเธอมีผิวเข้มมาก ให้ใช้สีน้ำตาล สีม่วง สีน้ำตาลคาราเทล สีพลัมหรือสีไวน์

* ถ้าเธอมีอันเดอร์โทนแบบ Warm ใช้สีทองแดง สีบรอนซ์ หรือสีแดงที่เจือน้ำเงิน ( blue-based )

* ถ้าเธอมีอันเดอร์โทนแบบ Cool ใช้สีเมทัลลิค เช่น สีแดงทับทิม ( ruby red ) หรือสีไวน์แดงเข้มๆ ค่ะ

==================================

เป็นอย่างไรบ้างกับบทความตรวจเช็คสีผิวชั้นในหรือ " Skin Tone " ( จะเรียกว่าสกินโทนหรืออันเดอร์โทนก็แล้วแต่ ) ซึ่งแตกต่างกับสีผิวชั้นนอก ( Complexion ) เพราะสกินโทนจะไม่เปลี่ยนเฉดสีตามสภาพอากาศหรือฤดู ต่างกับสีผิวปกติที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอด ถ้าเราเลือกสีเมคอัพและเสื้อผ้าได้ตรงกัน ก็จะทำให้เธอดูบุคลิกดีได้ตลอดเวลาไงล่ะ

เป็นกำลังใจให้สาวซิสต้าทุกคนสวย บุคลิกดีจนคนรอบข้างต้องกดเลิฟรัวๆ ให้เลย เย้! ><

==================================

Cr. How to Determine Skin Tone [ Wikihow ]

http://www.wikihow.com/Determine-Skin-Tone

บทความที่เกี่ยวข้อง

เคล็ดลับ เลือก 'ลิปสติก' ให้เข้ากับสีผิว

https://sistacafe.com/summaries/2923

วิธีเลือกสี อายแชโดว์ ที่ใช่และเหมาะกับสีผิวคุณ

https://sistacafe.com/summaries/4843