ยังรอกันอยู่ไหมหรือลืมกันไปแล้วเพื่อนจ๋า ( นึกว่าจะมาปีหน้าแล้วอ่ะแกร้ ฮ่าๆ ) กลับมาต่อแล้วจ้ากับ รีวิวเที่ยวมาเลเซียฉบับรูปปังแต่จ่ายตังนิสสเดียว หลังจากปล่อย Ep. 1 ไปนานม้ากกกก วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มาต่อกับอีก 3 เมืองที่เหลืออย่าง กัวลาลัมเปอร์ , มะละกา และปุตราจายา
คราวที่แล้วเราจบกันด้วยการพาเพื่อนๆ เที่ยวที่ปีนัง ก็ถึงเวลาที่เราจะพาพวกเธอเข้าสู้เมืองหลวงของประเทศนี้สักที แต่เราไม่ได้ไปแบบลำบากเหมือนต่อมาปีนังแล้วนะ รอบนี้บินในประเทศแบบสวยๆ เพราะตั๋วเครื่องบินราคาถูกมากไม่กี่ร้อยเอง ( แต่แนะนำว่าให้จองล่วงหน้านานหน่อยนะคะ ) เราเลือกใช้บริการ Malindo Air สายการบินราคาดีและเครื่องก็ใหญ่นั่งสบายดีด้วยค่ะ บินประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงเมืองหลวงอย่างกัวลาลัมเปอร์แล้ว ว่าแล้วก็ตามเราไปเที่ยวต่อกันเล้ย!

► KUALA LUMPUR " กัวลาลัมเปอร์ " ◄
♡ การเดินทางเข้าเมือง ♡
เราบินตรงจากสนามบินปีนังมาลังยังกัวลาฯ ที่สนามบิน KLIA1 วิธีการเข้าเมืองของที่นี่ก็มีหลากหลายค่ะ ทั้ง รถไฟเข้าเมืองอย่าง KLIA TRANSIT , รถ Taxi หรือ Grab แต่ที่ถูกสุดและเราแนะนำก็คือรถบัส โดยราคาจะอยู่ที่ 10 ริงกิต ( ประมาญ 80 บาท ) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเข้าสู่กลางเมืองในย่าน KL Sentral เลยทีเดียวค่ะ
♡ การเดินทางภายในกัวลาฯ ♡
การเดินทางในกัวลาฯ ก็ค่อนข้างสะดวกสบายเลยค่ะ เพราะเขามีรถไฟฟ้าที่ครอบคลุมหลายจุด แต่รถไฟฟ้าของที่นี่มีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้ารางเบา, รถไฟฟ้าชานเมือง , รถไฟระหว่างเมือง , รถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยาน , รถไฟฟ้ารางเดี่ยว และ MRT โดยจะมีจุดเชื่อมใช้งานกันทั่วทั้งเมืองตามแผนผังนี้เลยค่ะ

( Lake Symphony ตึกแฝดปิโตรนาส )
เนื่องจากเราออกจาปีนังช่วงเย็นๆ และไปถึงกัวลาฯ ช่วงค่ำ ที่แรกของเราก็คือแลนด์มาร์คของมาเลเซียอย่าง " ตึกแฝดปีโตรนาส " เพราะทุก 20.00 จะมีการแสดง Lake Symphony น้ำพุประกอบแสงสี บริเวณสวนสาธารณด้านหลังตึก ก็ไปนั่งจับจองหามุมถ่ายรูปกันได้ตามชอบใจเลยจ้า ส่วนตัวเราคิดว่าเป็นโวช์ที่สวยงามดีค่ะ แต่ยังไม่ตื่นตาตื่นใจเท่าโชว์ Wonder Full – Light & Water Spectacular ที่ตึก Marina Bay Sands ของสิงคโปร์ แต่ถ้ามีโอกาสไปแล้วก็ไม่ควรพลาดชมเช่นกันค่ะ
หลังจากการแสดงจบเราก็เดินเล่นแถวๆ นั้นก่อนจะเข้าที่พัก ต้องบอกว่าบ้านเมืองเขาเจริญก้าวหน้าไม่ต่างจากเมืองหลวงใหญ่ๆ หลายๆ ประเทศ และดูจะก้าวไกลไปกว่าความเจริญของบ้านเราแล้วด้วยค่ะ
ค่าเข้าชม : -
เวลาการแสดง : 20.00 ทุกวัน
การเดินทาง : สถานี KLCC เดินเชื่อมเข้าไปยังด้านในห้างซูเรีย (SURIA) แล้วเดินทะลุออกไปด้านหลังของห้างจะเจอสวนสาธารณะ
( Night market Jalan Alo )
ที่พักของเราในเมืองนี้อยู่ที่ย่าน bukit bintang ค่ะ ถือว่าเป็นย่านท่องเที่ยวสำคัญเต็มไปด้วยห้างใหญ่ๆ หลายแห่ง รวมไปถึงถนนคนเดินที่เปิดค่อนข้างดึก หลังจากเราเก็บกระเป๋าเรียบร้อยก็ออมาเดินเล่นหาของกินกันที่ " night market Jalan Alor " แหล่งรวบรวมสตรีทฟู้ดส์ของมาเลเซีย ของกินเยอะมากๆ ทั้งคาวหวาน มีทั้งแบบเทคโฮม หรือนั่งกินชิลล์ให้อารมณ์เหมือนถนนข้าวสารบ้านเราเลยค่ะ

หน้าตาอาหารหลายๆ ร้านก็ดูสะอานทานง่าย แถมรสชาติก็ไม่ต่างจากบ้านเราด้วยค่ะ
ที่สำคัญร้านอาหารไทยเยอะมากกกก อาหารบ้านเราต้องเป็นที่นิยมของเขาแน่นอน
ค่าเข้าชม : -
เวลาเปิด : เปิด 24 ชม.
การเดินทาง : สถานี AirAsia bukit bintang
( ย่าน Sultan Abdul Samad Building )
สำหรับใครที่ชอบเดินชมเมือง ถ่ายรูปสถาปัตยกรรมสวยๆ แนะนำว่าอย่าพลาดมาเดินเล่นที่ย่านนี้เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น อาคารสุลต่านอับดุลซามัค (Sultan Abdul Samad Building) , มัสยิดจาเม็ก , เซ็นทรัล มาร์เก็ต (Central market) และไชน่า ทาวน์ ตึกรามบ้านช่องแถวนี้เป็นสถาปัตยกรรมอิสลามสวยๆ เต็มไปหมด แถมจุดนี้ยังมีส่วนของเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านอาหารฮิปส์ๆ เพียบ! ( แนะนำว่าให้เดินก่อน 16.00 นะคะเพราะมัสยิดจะปิดเวลานั้น ส่วนคาเฟ่จะปิดช่วง 18.00 ค่ะ )

อย่างที่บอกไปว่าในย่านนี้เต็มไปด้วยร้านน่านั่งและคาเฟ่ฮิปส์ๆ เยอะมาก ในแบบที่เดินยาวๆ ก็ถึงกันได้หมด โดยส่วนมากจะอยู่ในย่านไชน่าทาวน์ค่ะ แต่เนื่องจากเวลาเราไม่พอจึงไปได้แค่ร้านเดียว งานนี้เลยขอเอา Map กับร้าน recommend มาฝากสาวๆ ด้วยจะ เผื่อใครวางแพลนจะตามรอยเราไป ยังไงฝากตามไปเก็บคาเฟ่เผื่อเราด้วยน่าาา

เราได้มีโอกาสแวะไปที่ Bubble Bee Cafe ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องวาฟเฟอร์ต้องไปจัดเลยเธอ

Cr. lostitsfun
ค่าเข้าชม : -
เวลาเปิด : เปิด 24 ชม. มัสยิดปิด 16.00 น. / คาเฟ่ส่วนใหญ่ปิด 18.00 น.
การเดินทาง : สถานี Masjid Jamek
ตามไปดูสาว Mayy R เที่ยวกัวลาฯ และมะละกา กัน
► Melaka " มะละกา "◄
มะละกาเป็นอีกเมืองโบราณของมาเลเซียที่ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกเช่นเดียวกับจอร์จทาวน์ที่ปีนัง เป็นอีกเมืองที่ควรแวะไปมากๆ เดินเล่นถ่ายรูปชิลล์ๆ ก็คือดีงาม
♡ การเดินทาง ♡
จากกัวลาฯ มีรถบัสวิ่งตรงไปถึงมะละกาเลยค่ะ ราคาจะอยู่ที่ 10-12 ริงกิต ( ประมาณ 100 บาท ) ใช้ระยะเวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง โดยต้องไปขึ้นรถที่ TBS terminal bersepadu อารมณ์หมอชิตบ้านเราค่ะ มีรถบัสหลายๆ เจ้า การเดินทางไปที่ TBS ก็ง่ายเพราะมีรถไฟฟ้าผ่าน โดยเที่ยวแรกของบัสไปมะละกาจะอยู่ที่ 7.00 น เมื่อไปถึงท่ารถที่มะละกาหรือ Melaka Sentral แล้ว จะมีรถบัสเข้าเมืองมะละกาแต่ถ้าไปหลายคนแนะนำ Grab เช่นเดิม ไม่แพงรวดเร็วสบายกว่าเยอะ
เที่ยวมะละกาสามารถเดินเที่ยวได้รอบๆ เมืองเลย และไปเที่ยววันเดียวกลับได้ค่ะ สำหรับใครที่ไม่ค้างแนะนำว่าให้ไปขึ้นบัสรอบเช้าจะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆ

บรรยากาศ TBS terminal bersepadu ดีมากๆ ค่ะ ทุกอย่างดูใหม่
( Dutch square )
จุดแรกที่เป็นไฮไลท์ของเมืองนี้ก็คือ Dutch square หรือโบส์ถแดงตรงนี้เองค่ะ ในอดีตมะละกาเคยเป็นเมืองท่าสำคัญที่เจริญมากๆ และตกเป็นเมืองขึ้นของโปรตุเกส, เนเธอร์แลนด์ และอังกฤษ ตึกรามบ้านช่องในเมืองนี้จึงมีสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างหลายๆ ประเทศซึ่งเป็นอะไรที่ดีงามมากๆ
เราชอบมะละกามากๆ เพราะเมืองนี้น่ารัก มุมถ่ายรูปเพียบ แถมยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสีสัน ภาพวาดที่ดูแล้วสดชื่น อ่อ ความดี้ดีอีกอย่างของที่นี่ก็คือเขาเป็นเมืองที่มีคลองเล็กๆ ผ่ากลาง มองเรือชมเมืองแล่นผ่าน เป็นเมืองโบราณที่น่ารักจริงๆ

สถาปัตยกรรมของและวิถีชีวิตของชาวจีนเชื้อสายมาเลเซีย
บ้านเมืองสไตล์ชิโนโปรตุกีส อยู่ร่วมกับร้านค้าสมัยใหม่ คือเก๋

ความสดใสของภาพเพ้นท์ตามผนังที่พักอาศัย

( ของกินที่มะละกา : Gi Kiat Huay )

Gi Kiat Huay ต้องมากิน " ลักซา " คือขนมจีนแบบฉบับมาเลเซีย มีทั้งแบบแห้งและน้ำ รสชาติเหมือนแกงส้มมีเส้น ปิดท้ายด้วยน้ำแข็งใสถั่วแดง
( ของกินที่มะละกา : the daily fix )

แล้วอย่าลืมแวะมาลองแพนเค้กที่คาเฟ่ the daily fix คนเยอะหน่อยแต่อร่อยมาก
► Putrajaya " ปูตราจายา "◄
ปูตราจายา เป็นเมืองสร้างใหม่ของมาเลเซียค่ะ เนื่องจากความหนาแน่นในเมืองหลวงอย่างกัวลาลัมเปอร์ จึงมีการสร้างเมืองนี้ขึ้นมา เมืองนี้คือทุกอย่างดูใหม่ ดูสวย เป็นระเบียบมากๆ เหมือนเมืองที่หลุดออกมาจากโลกอนาคตเลยก็ว่าได้ การวางผังเมืองถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็นสัดส่วนชัดเจน ย่านที่อยู่อาศัย , ย่านราชการ แต่ที่ดีกว่าก็คือพื้นที่สีเขียวของเมืองที่พื้นที่มากที่สุดในผังเมืองเลยค่ะ
♡ การเดินทาง ♡
การเดินทางมาเที่ยวเมือง ปูตราจายา ก็มาได้จากกัวลาฯ เช่นกัน ง่ายๆ โดยการนั่ง Klia transit หรือรถไฟเชื่อมสนามบินมาถึงเลย แนะนำว่าให้เที่ยวเมืองนี้วันกลับ เพราะเราสามารถนั่ง Klia transit ไปยังสนามบินต่อได้เลย ( ถ้าแวะเที่ยวปูตราจายาค่ารถ Klia transit จะถูกกว่าการนั่งตรงจากกัวลาฯ ไปสนามบิน )
ส่วนการเดินทางในเมืองแนะนำว่าใช้ Grab ดีสุดค่ะ เพราะบัสมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทาง ตามสถานที่ท่องเที่ยวคือบัสราคาต่อคนแพงกว่า Grab อีกนะขอบอก
ภายใน Klia transit ก็คือใหม่เวอร์ นั่งสบายแป๊ปเดียวถึง

ทุกอย่างคือดูสวยงาม สะอาดน่าอยู่มากๆ
( มัสยิดสีชมพู " Masjid Putra " )
การมาเที่ยวปูตราจายาคือการมาเที่ยวชมเมืองและสถาปัตยกรรมค่ะ สถานที่ที่โด่งดังมากๆ ก็คือมัสยิดสีชมพูหรือ Masjid Putra จะมีเวลาเปิดเป็นรอบๆ ให้เข้ามาชมความสวยงามด้านใน และวิวเมืองที่สวยตะลึง ไฮไลท์ก็คือการได้ใส่ผ้าคลุมแบบสาวอิสลามในชุดสีชมพูถ่ายรูปสวยๆ นี้แหล่ะค่ะ ( แอบกระซิบว่าเที่ยวที่นี้จะมีพื้นที่ห้ามเข้า และต้องสงบนิดหนึ่งนะคะ เพราะเป็นสถานที่ทางศาสนาต้องระวังให้ถูกกาลเทศะด้วยจ้า )


ค่าเข้าชม : -
เวลาเปิด : เปิดให้เข้าชมเป็นรอบ ได้แก่ 9.00 -12.30 , 14.00 – 16.00, 17.30 - 18.00
( มัสยิดสีเงิน " Iron Mosque " )
มัสยิดอีกที่ที่ไม่ควรพลาดไปเช่นกันถ้าไปถึงปูจราจายาก็คือ มัสยิดสีเงิน หรือ Iron Mosque ความโดดเด่นก็ตามชื่อเพราะมัสยิดเขาทำจากเหล็กเกือบทั้งหมด แถมยังอยู่บริเวณชั้นดาดฟ้าเหมือนลอยฟ้าได้เลยค่ะ มาที่นี่ก็ถ่ายภาพสวยไม่ต่างจากมัสยิดสีชมพู ส่วนผ้าคลุมจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้มดีงามไม่ต่างกัน

ตามไปดูสาว Mayy R เที่ยวปูตราจายากัน
____________________________________________
5 วันในมาเลเซียของเราในที่สุดก็จบลงแล้ววว! การเดินทางครั้งนี้ทำให้เราเปลี่ยนมุมมองต่อประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆ เราไปเลย ใครจะคิดว่ามาเลเซียจะเป็นเมืองที่เจริญก้าวหน้าและตื่นตาตื่นใจได้ขนาดนี้ เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เที่ยวคุ้มมากๆ เดินทางง่ายแถมค่าใช้จ่ายยังถูก เราได้ทั้งพบเจอทั้งความสวยงามของบ้านเมืองเก่า และความตระการตาของเมืองใหญ่ ถ้ามีโอกาสก็อยากให้เพื่อนๆ ชาวซิสตามเราไปเที่ยวกันดูนะคะ
ทริปนี้ต้องขอโบกมือลากันไปก่อน จะไม่ปล่อยให้หายคิดถึงนานเพราะทริปหน้าจะมาในไม่ช้านี้ ฮี่ฮ่า สุดท้ายก็ยังขอบคุณใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ และด้วยความหวังดีอยากฝากไว้ว่าพวกเธอจ๋าออกไปเที่ยวกันเถอะ!!
Comments