ขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่เข้ามาอ่านในบทความนี้นะคะ!เพราะคุณคือผู้โชคดีที่สามารถเป็นคนดังได้ง่าย ๆ ด้วยเทคนิคการเขียนบทความอย่างมืออาชีพที่ไม่ว่าคุณจะปล่อยบทความแบบไหนออกไป เหล่า Follower ก็พร้อมใจกันกดเข้ามาตามอ่านบทความของคุณทันทีที่เห็นนามปากกา

บทความนี้จึงทำมาเพื่อ

สรุปเทคนิคการเขียนบทความ หรือการเขียนรีวิวในโลกออนไลน์

ฉบับสั้น เข้าใจง่าย

อ่านครั้งเดียวรู้เรื่องแต่ผลลัพธ์คุ้มค่าด้วยเทคนิคมืออาชีพ

1. เลือกคำ ( คีย์เวิร์ด ) ที่คนส่วนใหญ่ เสิร์ชหาใน google มาเขียนในบทความ

รูปภาพ:

โดยปกติแล้วเทคนิคนี้จะใช้เครื่องมือ ( Tool ) ในการค้นหาคีย์เวิร์ดแต่สำหรับ User มือใหม่ แนะนำว่าพยายามเลือกใช้‘ คำ ’หรือ' คีย์เวิร์ด 'ที่คนส่วนใหญ่มักจะเสิร์ชหากันใน Google จะได้ผลดีกว่า สังเกตง่าย ๆ ได้จากส่วนการค้นหาที่เกี่ยวข้องที่มักแสดงอยู่ด้านล่างสุดของหน้าค้นหา Google เพราะถ้าเราเลือกใช้คีย์เวิร์ดได้ตรงกับความต้องการของผู้อ่านการจะดึงความสนใจของผู้อ่าน ให้เข้ามาในบทความของเรา ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

**คีย์เวิร์ดคือ คำหลักที่เรานำไปใช้ในการเขียนบทความ โดยยึดจากคำที่คนส่วนใหญ่นิยมเสิร์ชหาใน google เช่น ทรงผมสั้น ลดน้ำหนัก ( หรือจะลองเทียบกับตัวเองก็ได้ว่าถ้าอยากรู้เรื่องผมสั้น เราจะเสิร์ชว่าอะไร เช่น เสิร์ชเรื่อง สีผมสวย ๆ หรือ ว่าร้านตัดผมดี ๆ เป็นต้นค่ะ )

2. เขียนหัวข้อบทความให้ สั้น กระชับ ไม่เกิน 45 คำ

รูปภาพ:

กระชับ! เข้าใจง่าย! ไม่ยืดเยื้อ!จำ 3 คำนี้ให้ขึ้นใจ เพราะเราต้องเขียนให้คนอ่านเห็นหัวข้อแล้วร้อง อ๋อ! และยังต้องตอบโจทย์กับสิ่งที่คนอ่านต้องการอีกด้วย เช่น เราเสิร์ชวิธีที่ทำให้รอยสิวหายไปแล้วดันเจอบทความ รวม 10 แบรนด์ใช้ดี ลดรอยสิว แบบนี้เป็นต้น( ถ้าถามว่าจะรู้ได้ยังไงว่า เรื่องไหน แบบไหน ที่คนอยากจะอ่าน คิดง่าย ๆ โดยเริ่มจากการมองปัญหาของตัวเองก่อน จากนั้นค่อยคิดต่อว่าแล้วสิ่งที่เราอยากรู้ ใครหลาย ๆ คนก็คงอยากรู้เหมือนกัน อย่างเช่น หน้าเป็นสิว อ้วนขึ้น หรือ ครีมที่ทำให้หน้าขาว เป็นต้น )

โดยจำนวนคำที่ใช้เขียนหัวข้อจะอยู่ที่ 45 คำ กำลังดีเพียงแค่มีเทคนิคเหล่านี้ก็สามารถสร้างหัวข้อบทความให้น่าสนใจ ดึงดูดคนอ่านได้แล้ว

3. Description ก็สำคัญ เพราะมันช่วยแก้ปัญหาให้ ' หัวข้อ '

รูปภาพ:

Description หรือคำอธิบายใต้หัวข้อมองเผินๆ หลายคนอาจคิดว่ามันไม่สำคัญ แต่จริงๆ แล้ว คำอธิบายใต้หัวข้อก็สำคัญไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ เลย เพราะเป็นส่วนที่ขยายข้อความ หรือ อธิบายวิธีการแก้ปัญหาของหัวข้อนั้น ๆแต่ประเภทที่ เขียนว่า มาดูกันเลย / ไปดูกัน เขียนแค่นี้มันไม่ได้เรื่องนะคะมานี่มา เดี๋ยวทำให้ดูว่าเขียนแบบไหนแล้วปัง เขียนแบบไหนแล้วแป็ก

* เปรียบเทียบ การเขียน description ที่ดีและไม่ดี *

การเขียน description ที่ดี

หัวข้อคือ :20 ทรงผมสั้น สำหรับสาวอวบ

Description :เพราะสาวอวบมักจะกังวลเกี่ยวกับเรื่องทรงผมที่ไม่ว่าจะเปลี่ยนกี่ทรงต่อกี่ทรง หน้าก็ยังดูอวบอ้วนไม่เลิก วันนี้เลยจะมาแนะนำทรงผมสั้น เนรมิตรสาวอวบให้หน้าดูเรียวแบบไม่ต้องพึ่งแอปฯ ลองตามมาอ่านกันเลยค่า

การเขียน description ที่ไม่ดี

หัวข้อคือ :20 ทรงผมสั้น สำหรับสาวอวบ

Description :มาดูกันเลยค่า ตามมา ๆ

4. ต้องมีคีย์เวิร์ดทั้งใน ' หัวข้อ ' และ ' Description ' อย่างละ 1 คำ

รูปภาพ:

เมื่อเราเลือก‘ คีย์เวิร์ด ’ได้แล้ว เราจำเป็นต้องมีคำที่เป็นคีย์เวิร์ดนั้น ๆ ปรากฎอยู่ใน‘ หัวข้อบทความ ’และ‘ description ’ตำแหน่งละ 1 คำด้วยนะห้ามลืม!

5. ‘ คีย์เวิร์ดหลัก ’ ยังไม่พอ ต้องขอ ‘ คีย์เวิร์ดรอง ’ ช่วยเสริมความแข็งแรง

รูปภาพ:

หลังจากที่เราได้คีย์เวิร์ดหลักมาแล้ว อย่าเพิ่งดีใจไปค่ะ! มันยังไม่พอนะเออ เพราะแค่คีย์เวิร์ดหลักยังไม่สามารถทำให้บทความของเราแข็งแรงพอที่จะสู้กับคนอื่นได้ ดังนั้นตัวช่วยที่จะทำให้บทความของเราแข็งแรงมากขึ้นก็คือ ‘ คีย์เวิร์ดรอง ’ นั่นเอง

คีย์เวิร์ดรองคืออะไร ?คีย์เวิร์ดรองคือคีย์เวิร์ดที่ใกล้เคียงกับคีย์เวิร์ดหลักเช่น คีย์เวิร์ดหลักคือ ‘ ครีมกันแดด ’ ส่วนคีย์เวิร์ดรองอาจจะเป็น ‘ ราคาครีมกันแดด / แนะนำครีมกันแดด ’ เป็นต้น

ถ้ายังนึกคีย์เวิร์ดรองไม่ออกให้นึกถึงตอนที่เรากำลังเสิร์ชเรื่อง ๆ นึงค่ะเช่นเสื้อผ้าสาวอวบ ( คีย์เวิร์ดหลัก ) > เสื้อผ้าพรางหุ่น ( คีย์เวิร์ดรอง ) > IG ร้านเสื้อผ้าสาวอวบ ( คีย์เวิร์ดรอง )ประมาณนี้เลย เริ่มเก็ทกันแล้วใช่ไหมคะ

6. ถ้าเป็นรีวิวสินค้า เน้นโปรดักชั่นง่าย ๆ ถ่ายรูปเองเป็นหลัก

รูปภาพ:

สำหรับบทความที่เขียนรีวิวผลิตภัณฑ์ อย่าลืมว่าผลิตภัณฑ์ที่นำมารีวิวต้องมาจากการใช้งานจริงของ User เท่านั้น ดังนั้นในส่วนของเนื้อหาที่บอกเล่าประสบการณ์ หรือความรู้สึกหลังใช้จึงเป็นสิ่งสำคัญ เช่นเดียวกับรูปภาพประกอบ ถึงจะตกแต่งสวยมีกราฟิกดีไซน์ที่ดี แต่ก็ไม่สู้พลังของความ Realเพราะอย่างนั้นจึงอยากแนะนำให้ใช้เป็นรูปที่ถ่ายเอง โปรดักชั่นง่าย ๆจะประทับใจผู้อ่านมากกว่า

7. รูปปกไม่ต้องเยอะ ถ้าเป็นรีวิวเน้น real

รูปภาพ:

ต่อเนื่องกันมาเลยกับเรื่อง‘ หน้าปก ’ที่จะต้องเน้นย้ำให้มาก ๆ เพราะหน้าปกเป็นด่านแรกที่ผู้อ่านจะสนใจเลือกอ่านบทความเทคนิคการเลือกหน้าปกให้น่าสนใจ ควรเลือกภาพที่สอดคล้องกับเนื้อหาที่เราเขียน เช่น เราเขียนเรื่องลิปสติกถูกและดี ภาพปกที่ควรใช้ คือภาพที่เน้นสีปากจัด ๆ ให้สะดุดตาหรือจะเป็นภาพของผู้หญิงที่กำลังทาลิปสติก/ถือลิปสติกอยู่ก็จะดีมาก

ส่วนการเขียนบทความรีวิวจากการใช้จริง แนะนำให้‘ ถ่ายภาพเอง ’เหมือนข้อที่ 7 เลย เพราะการถ่ายภาพสินค้าด้วยตัวเองจะทำให้บทความดูจริงใจ มีความน่าเชื่อถือมากกว่าแถมยังสร้างอิมแพคให้กับผู้อ่านได้ดีอีกด้วยนะ

8. เนื้อหากระชับด้วย 800-1,200 คำ

รูปภาพ:

เมื่อพูดถึงเนื้อหาของบทความ อีกสิ่งที่เราควรจะนึกถึงเลยก็คือ‘ จำนวนคำ ’นั่นเองค่ะ เพราะจำนวนคำที่เหมาะสมกับ 1 บทความ จะเฉลี่ยอยู่ที่ 800 - 1,200 คำหลายคน ๆ อาจจะสงสัยว่า … แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าพิมพ์ไปกี่คำแล้ว สังเกตได้ง่าย ๆ แบบเบสิกเลยก็คือ ดูจากโปรแกรม Microsoft Words หรือ โปรแกรมเวิร์ด เพื่อเช็กจำนวนคำที่บอกอยู่ด้านล่างซ้ายของหน้าโปรแกรม Words หรือสามารถกดที่รูปเพื่อตามลิงก์ไปได้เลยค่ะ

9. เทคนิคเด็ดแค่ไหน ก็ไม่แพรวพราวเท่า ' การเป็นตัวของตัวเอง '

รูปภาพ:

‘ การเป็นตัวของตัวเอง ‘คือเสน่ห์เฉพาะตัวที่ยากจะลอกเลียนแบบ หากคุณลองสังเกตดูจะพบว่าเหล่า Influencer ที่เรา Follow กันอยู่ทุกวันนี้ ต่างคนต่างก็มีเอกลักษณ์ในแบบฉบับของตัวเอง ดังนั้นถ้าคุณอยากจะเป็นเหมือนกับพวกเขาบ้าง ก็ต้องเริ่มจากการที่‘ ใส่ความเป็นตัวเองเข้าไป ’เพราะสุดท้ายแล้ว การจะเลือกติดตามใครซักคน เราก็มักจะเลือกติดตามที่ตัวตนของเขา การเป็นตัวเองนี่แหละ ดีที่สุดแล้ว!

*********************************************************************************

เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ย?

หวังว่าเทคนิคต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยเป็นแนวทางให้ผู้ที่มีความสนใจ หรือมีความต้องการพัฒนาบทความของตัวเองให้ปังมากขึ้น บอกเลยว่าถ้าได้ลองนำเทคนิคเหล่านี้บวกกับการฝึกเขียนบ่อย ๆ

ไม่แน่นะ Influencer ชื่อดังที่จะแจ้งเกิดในวงการออนไลน์คนต่อไปอาจเป็นคุณ... :)

แนะนำบทความ ที่ยอดผู้อ่านพุ่งปรี๊ด น่า Follow ไว้

ก่อนไป ขอฝากไว้ในอ้อมใจอีกนิดนึงว่า

อย่าลืมดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SistaCafe ไว้นะจ๊ะ

มีไว้อินแน่นอน โหลดได้ทั้ง

ios

และ android คลิกที่นี่เลยค่า >>

https://l.facebook.com/l.php?u=http%3A%2F%2Fhyperurl.co%2FSistaCafeApplication&h=ATOB3LR5ypQ528JrDpiJlwIsQ3BxJHYc0b61BPEC7V3Mp6Nmd58vsaKxLgchcNSC_2M798zgHsm_fWkuVBfXuLtdfohpI1hFVIC5aXpgfVSuLfCRbBL57hTb-4cRG3AQ4-Hxr_yJoYQ