อาการเป็นลมหน้ามืดมักเกิดจากการที่เราหมดสติไปชั่วขณะหนึ่ง เพราะสมองไม่ได้รับออกซิเจนเพียงพอ แม้ว่าการเป็นลมจะไม่ใช่การเตือนหรือการมีปัญหาสุขภาพที่หนักหนาอะไร แต่อย่างน้อยๆ ก็คงดีกว่าถ้าเธอรู้ว่าปัญหาที่แท้จริงนั้นคืออะไร
เวลาพบคนที่เป็นลมหมดสติ สิ่งที่คนเข้าไปช่วยต้องรู้คือควรพรมน้ำสองสามหยดบนหน้าของคนป่วย พอฟื้นก็ให้จิบน้ำเล็กน้อย ถ้ายังอาการไม่ดีขึ้นให้พาส่งโรงพยาบาลเลยจะดีกว่า สิ่งที่ต้องตรวจเช็คเป็นอันดับแรกก็คือผลเลือดซึ่งจะทำให้เห็นสาเหตุของอาการต่างๆ ดังนี้
1. เกิดจากปัญหาความดันในเลือดต่ำ
ปัญหาความดันเลือดต่ำเป็นภาวะที่อันตรายมากและก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการเป็นลมล้มพับไปได้ การแก้ปัญหาความดันเลือดต่ำทำได้โดยการทานอาหารให้ครบทุกมื้อ เพราะการไม่ทานอาหารจะทำให้ระดับน้ำตาลและความดันลดลงนั่นเอง ดังนั้นถ้าจะไดเอทก็อย่าอดเลยนะ
2. ลุกขึ้นยืนเร็วเกินไป
การลุกขึ้นยืนเร็วเกินไปจะทำให้เลือดไหลลงขาอย่างเร็วโดยไม่วิ่งไปเลี้ยงสมอง จึงทำให้หลายครั้งเราจะรู้สึกเหมือนจะเป็นลมได้ ตามหลักแล้วเราจึงไม่ควรรีบลุกจากที่นอนหรือเก้าอี้ ค่อยลุกหรือใช้เวลาหน่อยให้ร่างกายได้ปรับตัวนิดนึง
3. ความเครียด
อาการไฮเปอร์เทนชั่นหรือความดันเลือดสูงมักเป็นสาเหตุที่ทำให้สุขภาพหลายๆ คนเกิดอาการเจ็บป่วยได้ ดังนั้นถ้าให้ดีควรควบคุมไม่ให้เกิดความเครียดมากเกินไปเพราะมันจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการเป็นลมได้เช่นกัน
4. เวลามีการเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์
เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ต้องปะทะอารมณ์มากมายทำให้เธอรู้สึกไม่มั่นคงทางอารมณ์ขึ้นมา เช่น ร้องไห้หนักมาก หรือดีใจสุดๆ เหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น เหงื่อจะออกมากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการหน้ามืดขึ้นมาได้
5. ท้องว่าง
ณ จุดๆ นี้หลายคนอาจจะเคยมีประสบการณ์มาแล้วเวลาที่ท้องว่างนานๆ เรื่องนี้อธิบายได้ง่ายมาก นั่นเพราะว่าเธอไม่มีสารอาหารอะไรไปเลี้ยงสมองไงล่ะ ทานเถอะ แต่ดูแลอาหารที่ทานอย่าให้หนักเกินไปละกัน
6. หัวใจเต้นผิดปกติ
อาการหัวใจเต้นผิดปกติจริงๆ แล้วมันเกิดขึ้นได้กับทุกคน อาการของมันเกิดจากการกระตุกของการไหลเวียนของเลือดไปสู่สมอง การกระตุกนี้คือภาวะที่เสี่ยงต่อการจับตัวเป็นลิ่มและอาการหัวใจล้มเหลว ดังนั้นต้องดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ทานอาหารที่ดีและออกกำลังกายสม่ำเสมอด้วย
7. สัญญาณแรกของการตั้งครรภ์
การรู้สึกหน้ามืดคล้ายเป็นลมคือสัญญาณหนึ่งของการตั้งครรภ์ ถ้าเธอคิดไว้อยู่แล้วว่าอาจจะตั้งครรภ์ล่ะก็ แนะนำให้ลองใช้อุปกรณ์ตรวจครรภ์ที่บ้านหรือไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลดู ถ้าใช่จริงๆ ก็ขอแสดงความยินดีไว้ล่วงหน้าตรงนี้เลยแล้วกันนะคุณแม่ :)
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
