รูปภาพ:http://i.imgur.com/GeW4o.gif

ฮัลโหลค่าา สาวๆSistaCafeทุกคน (☆ω☆)เวลาอ่านบทความดูแลผิว ส่วนใหญ่สาวๆ ก็มักจะเจอแต่การดูแลผิวหน้า ไม่ก็ผิวกาย แต่การดูแลผิวส่วนหนึ่งในร่างกายที่หลายคนหลงลืมไปง่ายๆ เลยก็คือ ' ผิวเท้า ' ทั้งที่เราใช้เท้าเดิน วิ่งอยู่ทุกวันยิ่งใครต้องเดินทั้งวี่ทั้งวัน หรือสาวนักกีฬาที่ต้องว่ายน้ำ เท้าแช่น้ำต่อเนื่องหลายชั่วโมง นึกสภาพเท้าเหี่ยวๆ เมื่อยล้าจนแทบจะยกเท้าไม่ไหวสิเหตุผลนึงที่เวลาตื่นเช้าแล้วไม่อยากลุกจากเตียง ก็เพราะ ' เมื่อยเท้า ' นี่แหละค่ะวันนี้เราจึงได้รวบรวม8 ทริคเพื่อการดูแลผิวเท้า และเล็บเท้าโดยเฉพาะ! มาฝากสาวๆ ซิสต้ากัน ให้เท้าของเราเพอร์เฟกต์ แข็งแรง สุขภาพดี แถมผลพลอยได้คือผิวเท้าเต่งตึง เล็บเท้าสวย ใส่รองเท้าเปลือยเล็บได้ไม่อายใครอีกด้วยจะเป็นคนสวยทั้งที ก็ต้องสวยตั้งแต่หัวจรดเท้าถึงจะถูกต้อง >//<มา เราไปดูกันว่าต้องทำยังไงบ้างค่ะ

1. ใช้หินขัดเท้า ผลัดเซลล์ผิวส้นเท้าระหว่างอาบน้ำ

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/17/cSIOcP.jpg

ขั้นตอนแรกในการเริ่มดูแลผิวเท้า ก็เหมือนกับการเตรียมถมที่ดินสร้างบ้านนั่นแหละค่ะซิส! เราควรถมที่ให้ราบเรียบ ก่อนจะลงมือบำรุง สำหรับผิวก็หมายถึงการสครับ ผลัดเซลล์ผิวนั่นเอง ^0^

เราแนะนำให้สาวๆ ใช้ ' หินขัดตัวภูเขาไฟ ' หรือหินที่เกิดจากการปะทุของลาวาภูเขาไฟ แล้วเย็นตังลงอย่างรวดเร็ว หินที่ได้จึงเป็นรูพรุนๆ ทั่วหิน ซึ่งช่วยขจัดเซลล์ผิวได้ดีเยี่ยม!

แค่ใช้หินภูเขาไฟขัดส้นเท้าเบาๆ ในระหว่างอาบน้ำ เพื่อขจัดขี้ไคล หนังลอก ขุย ความหมองคล้ำบนส้นเท้า ( อย่าใช้ตอนเท้าแห้ง จะเจ็บแสบ ระคายเคือง เลือดออกได้! )

หลังขัดเท้าเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เท้าจะค่อยๆ นุ่มนิ่มน่าสัมผัสมากขึ้น และยังช่วยป้องกันเซลลูไลต์ได้ด้วยนะคะ ^____^


2. ใช้ 'น้ำมันมะพร้าว' ชโลมส้นเท้าให้นุ่มเนียน น่าสัมผัส

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/17/cSIoTl.jpg

น้ำมันธรรมชาติบำรุงผิวตัวท็อป ที่ฮิตในหมู่สาวๆ มาตั้งแต่โบราณ ชื่อนี้ต้องมาวินแน่นอน! ' น้ำมันมะพร้าว ( Coconut Oil ) '

เพราะเขาเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่ใช้ได้ตั้งแต่หัวจรดเท้าที่แท้ทรู ไล่มาตั้งแต่หน้า เส้นผม ผิวกาย ไปจนถึงเท้าเลยทีเดียว!

หลังจากขัดส้นเท้าแล้ว ให้ชโลมผิวเท้าด้วยน้ำมันมะพร้าวให้ทั่ว แล้วใส่ถุงเท้าทับป้องกันการลื่น และเป็นการมาส์กผิวเท้าไปในตัวด้วย ใส่ถุงเท้าข้ามคืน รุ่งเช้าค่อยถอดออก

น้ำมันชนิดนี้มีคุณสมบัติบำรุง กู้ผิวหยาบกร้านให้เนียนนุ่ม เต่งตึงน่าสัมผัส ยิ่งใช้กับผิวที่ขัดมาเสร็จใหม่ๆ จะทำให้น้ำมันซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น

ตื่นมารับรองว่า จับเท้าแล้วจะรู้สึกถึงความนุ่มจนน่าแปลกใจเลยล่ะค่า


3. ทา 'ยาทาเล็บสีใส' เคลือบเล็บให้ติดทน เงาวาว

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/17/cSIDlk.jpg

ผิวเท้านุ่มเนียนแล้ว ' เล็บเท้า ' ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญ ถ้าเท้าเนียนเรียบสวยงาม แต่เล็บเหลือง หักงอ มีจุดขาวๆ งี้ มันก็คงดูไม่ดีจริงไหมคะ?

วิธีที่ง่ายที่สุดในการบำรุงเล็บเท้าก็คือ ' เคลือบด้วยสีใส ' จะเป็นสีใสธรรมดา หรือท็อปโค้ท เบสโค้ทที่ใช้เคลือบเล็บโดยเฉพาะก็ได้

น้ำยาจะช่วยทำให้เล็บดูเงาวาว สุขภาพดี แม้ไม่ทาสีอะไรเลยก็ดูสวย และไม่ทำให้เล็บเหลืองเหมือนยาทาเล็บสีปกติ แถมทาง่ายสุดๆ ไม่ต้องมีสกิลทาเล็บมากมาย

เพียงใช้ตะไบขัดสิ่งสกปรกที่ติดตามซอกเล็บออกก่อน แล้วทาให้ทั่ว หลังทาแล้ว ก็ทาครีมบำรุงเล็บอีกรอบ ( ถ้าไม่มี ใช้โลชั่นธรรมดาหรือวาสลีนก็ได้ ) คราวนี้กล้าใส่รองเท้าเปลือยเล็บได้แน่นอน!

4. เปลี่ยนสีเล็บบ้างตามโอกาส ไม่ให้น่าเบื่อจนเกินไป!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/17/cSIAvv.jpg

สำหรับคนที่ไม่ค่อยแต่งตัว ทาเล็บแค่สีใสก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าอยากเติมสีสันให้เล็บ ใส่รองเท้าเปลือยเล็บได้สนุกยิ่งขึ้น

เราแนะนำให้สาวๆ เปลี่ยนสีเล็บบ้าง! จะสีสดใส สีนีออน สีพาสเทลอะไรก็ได้ เอาตามที่ชอบ หรือจะสลับทาไปเรื่อยๆ ให้แมทช์กับชุด + รองเท้าที่ใส่ก็ยิ่งเริ่ดค่ะซิส

ถ้าวันนี้อยากเป็นสาวเซ็กซี่ จัดไปเลยเล็บแดงเผ็ชๆ ถ้าอยากเป็นสาวอบอุ่น ฮิปสเตอร์ ก็จัดสีน้ำตาล สีครีม สีเบจ หรืออยากเป็นสาวหวาน น่าทะนุถนอม ก็จัดสีชมพู สีฟ้า สีเขียวพาสเทลไปเลย

ถ้ายังไม่รู้จะเริ่มจากสีอะไรดี ก็เริ่มจากสีกลางๆ สีอ่อนๆ ก่อน เพราะแมทช์ได้ทุกชุด ไม่โป๊ะ! หรือจะดูไอเดียทาเล็บเท้าด้านล่างนี้ก็ได้น้า


5. ถ้าใส่รองเท้าส้นสูงทุกวัน ควรยืดเหยียดกล้ามเนื้อเสมอ

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/17/cSIngS.jpg

สาวๆ บางอาชีพ เช่น คนทำงานในห้าง, สาวออฟฟิศ, เลขา, ทำงานราชการ etc. ที่ต้องใส่รองเท้าส้นสูงทั้งวัน ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ คงเข้าใจอาการเมื่อยล้า ขาเหมือนจะแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ เป็นอย่างดี! ดีไม่ดีเสี่ยงเป็นเส้นเลือดขอด เป็นตะคริวอีก

เพราะการใส่ส้นสูง คือการทำให้เท้าอยู่ผิดรูป ยิ่งผิดรูปนาน ก็ยิ่งไม่ดีต่อสุขภาพเท้ามากขึ้นเท่านั้น จึงต้องดูแลเป็นพิเศษกว่าคนใส่รองเท้าปกติ!

หลังเลิกงาน รีบถอดรองเท้าทันที เปลี่ยนมาใส่รองเท้าใส่สบาย เช่น รองเท้าแตะ ถึงบ้านแล้วก็ทำการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เพื่อให้ขาที่เมื่อยล้ากลับมาปกติ สุขภาพดีได้เร็วขึ้น และพยายามไม่ใส่ส้นสูงในวันพักผ่อน เพื่อให้ขาและเท้าได้พักบ้าง

หากสาวๆ ยังไม่รู้ว่าควรใช้ท่าไหนยืดกล้ามเนื้อ ก็ลองทำตามบทความที่เราแปะไว้ข้างล่างเลย


6. นวดเท้าบ้าง อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/18/cz0MgN.jpg

นอกจากยืดเหยียดแล้ว การผ่อนคลายเท้าอย่างนึงที่สาวๆ ( หรือหนุ่มๆ ก็ชอบ! ) คือ ' นวดเท้า ' นี่แหละ ไม่งั้นเวลาเดินผ่านสปาหรือซุ้มนวดเท้า คงไม่มีคนมาต่อคิวกันเป็นแถวยาวขนาดนั้น!แต่ราคาต่อชั่วโมงก็ช่างเจ็บปวดเหลือเกิน วัยเรียนบางคนก็ไม่มีเงินมากพออะเนาะ ที่จริงถ้าพอมีเวลา จะนวดเองก็ทำได้ค่ะ ตามนี้1. เทออยล์หรือโลชั่นอุ่นๆ ลงบนฝ่ามือ ชโลมให้ทั่วเท้า2. จับเท้าไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ถูส่วนบนของเท้าวนเป็นวงกลมด้วยนิ้วโป้ง เริ่มจากปลายนิ้วเท้าของแต่ละนิ้ว วนขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงข้อเท้า แล้วกลับมาที่นิ้วเท้าอีกรอบ ถูอีกครั้งแต่เบามือลง ทำซ้ำอย่างต่ำ 2 รอบ3. เลื่อนนิ้วโป้งมาที่ส่วนปลายเท้า ถูวนๆ เริ่มจากปลายนิ้วเท้าแล้ววนไปจนถึงส่วนส้นเท้า วนกลับไปที่นิ้วเท้า แล้วถูวนช่วงปลายเท้าด้วยนิ้วโป้ง ทำซ้ำอย่างต่ำ 2 รอบ4. ครบแล้วเปลี่ยนข้าง จนนวดเท้าครบทั้งสองข้าง เป็นอันเสร็จ!

หลังจากนวดเสร็จแล้ว เธอจะรู้สึกผ่อนคลาย กล้ามเนื้อเท้าที่ตึงๆ จะดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์เลยล่ะค่ะ ไม่เชื่อก็ลองดูคืนนี้เลยจ้า!

7. ตัดเล็บเท้าอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้เล็บขบ!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/18/cz0Vcu.jpg

ใครเคยเป็นเล็บขบ จะเล็บมือหรือเล็บเท้าก็ตาม คงรู้ดีว่ามันทรมานมากก ไปแตะส่วนที่ขบไม่ได้เลย เจ็บปวดรวดร้าวเหมือนเอามีดแทง! นั่นเพราะ

' เล็บขบ ' คือผลลัพธ์จากการตัดเล็บไม่ถูกต้อง หรือใส่รองเท้าบีบอัดเล็บเป็นเวลานาน ทำให้มีแง่ง หรือส่วนแหลมๆ ของเล็บโผล่ขึ้นมา เวลาผ่านไป แง่งเหล่านี้ก็โตขึ้นแบบผิดรูป ทำให้ไปเบียดส่วนที่ควรจะเป็นเล็บ หนักเข้าก็แทงกลับเข้าไปในเล็บ ใครเป็นหนักอาจถึงขั้นต้องถอดเล็บเลยทีเดียว #น่ากลั๊ววว

เวลาตัดเล็บ เราแนะนำให้สาวๆ ใช้ ' กรรไกรตัดเล็บแบบปกติ ' ที่ไม่ใช่กรรไกรตัดหนัง โดยตัดเป็นแนวตรง ไม่ต้องพยายามแซะตรงมุมเล็บ

ไม่ต้องให้เล็บเกลี้ยง 100% ขนาดนั้น เพราะส่วนมุมแหลมๆ นี่แหละ ทำเล็บขบกันมานักต่อนักแล้วจ้า!


8. เปลี่ยนถุงเท้าทุกวัน อย่าใส่ซ้ำจนมีกลิ่น!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/17/cSI8Fg.jpg

เราว่าสาวๆ เกือบทุกคนต้องเคยทำแหละ ( เราก็เคย! ) ยิ่งถ้าต้องซักถุงเท้าเอง ละเป็นเด็กหอนะ ให้ซักถุงเท้าทุกวันเหรอ โอยไม่มีทาง ไม่มีเวลาเด้อ!ก็ใส่ซ้ำไปจนกว่าจะเปียกฝน หรือเหม็นจนใส่ต่อไม่ได้อะ บางคนก็ 2-3 วัน บางคนหนักหน่อยก็สัปดาห์นึง บางคนก็เอ่อ... เขาเคยเปลี่ยนถุงเท้าบ้างไหมคะคุณกิตติ? #เอามืออุดจมูกรัวๆเพื่อสุขภาพเท้าที่ดี เท้าไม่เป็นเชื้อรา ไม่มีกลิ่น ไม่ควรใส่ถุงเท้าซ้ำเลยนะคะซิส! ควรเปลี่ยนทุกวัน และเลือกใส่เนื้อผ้าที่ระบายอากาศ เนื้อบาง ให้เท้าได้หายใจแต่ถ้าต้องใส่รองเท้ากีฬา ก็เลือกถุงเท้าที่เนื้อหนาหน่อย จะได้ซัพพอร์ตเท้าได้ดีขึ้น แต่ก็ต้องซักทุกวันนะ เลิกขี้เกียจ สวยแต่เท้าเหม็นก็ไม่ไหวนะเธ้อ!


รูปภาพ:https://gifimage.net/wp-content/uploads/2018/11/gif-anime-foot-3.gif

-----------------

การบำรุงผิวเท้า เล็บเท้า ที่จริงก็ไม่ได้ง่ายหรือยากจนเกินไป แต่จะเน้นเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษหน่อย เพราะสาวๆ ส่วนใหญ่มักไม่ใส่ใจเรื่องถุงเท้า การตัดเล็บเท้าที่ถูกต้อง หรือไม่ค่อยยืดกล้ามเนื้อหลังใส่ส้นสูงกัน แต่เชื่อเถอะว่ามันดี! จะเท้านุ่ม เท้าสวย ก็ต้องมาคู่กับขาที่สุขภาพดี เท้าไม่มีกลิ่น ไม่ติดเชื้อราด้วย ถึงจะโชว์เท้าเปลือยได้อย่างมั่นใจเนอะ

วันนี้เราก็ต้องขอลาสาวๆ ไปบำรุงผิวเท้าบ้างละ ถ้าชอบก็ฝากกดหัวใจ กดฟอลโลว์เราด้วยนะจ๊ะ #ทำตาปิ๊งๆ เจอกันใหม่คราวหน้าน้า See you next time Sista Girls!!

-----------------