"ต๊าย! นั่นมือเหรอ นึกว่าทุ่งกุลาร้องไห้! ทำไมแห้งแตกขนาดนี้ล่ะ ในชีวิตนี้ไม่เคยทาครีมเลยใช่ไหมนั่น!? "
ไ
ด้ยินเสียงหวีดร้องอย่างตกใจของเพื่อนสาวแล้ว หน้าของเธอก็หุบเหลือสองนิ้วรัวๆ .___.
ไม่ได้ดูแลตัวเองเลย ทำแต่งานทั้งวัน ทั้งงานบ้าน ทำสวน รู้ตัวอีกทีมือก็สากซะจนไม่กล้าให้ใครจับ ร้องไห้แรง T^T ต้องการตัวช่วยอย่างด่วนแล้วค่า~
ถ้าเธอกำลังประสบปัญหามือแห้ง บทความนี้แหละช่วยได้แค่ใช้'แฮนด์ครีม'ยี่ห้อดีมีคุณภาพ ทาเป็นประจำอย่างต่อเนื่องก็ทำให้ผิวเนียนนุ่ม ฟื้นฟูให้กลับมาใสกิ๊งเหมือนเก่าได้ =w=b!
เราได้รวบรวมครีมทามือ หรือแฮนด์ครีมที่สาวๆ ห้องโต๊ะเครื่องแป้ง Pantip และเว็บรีวิวเครื่องสำอางชื่อดัง Vanilla.in.th คอนเฟิร์มว่าดีจริง! ให้เธอได้ลองเลือกอ่านสรรพคุณ ข้อดีข้อเสียก่อนตัดสินใจซื้อ
ก็แหม...จะซื้ออะไรมาใช้ทั้งที ก็ไม่อยากเสียเงินฟรีใช่ไหมล่ะ!
พร้อมแล้วก็....ไปกันเล้ย!
1. Crabtree & Evelyn
เริ่มกันที่แบรนด์แรก
" แครบทรีแอนด์อีฟลิน ( Crabtree & Eyelyn ) "
ยี่ห้อสินค้าตกแต่งบ้านและสกินแคร์สัญชาติอเมริกัน-อังกฤษ โดยมีผลิตภัณฑ์ด้านความงามในเครือมากมาย เช่น แฮนด์ครีม น้ำหอม ผลิตภัณฑ์ชำระล้างผิวกาย แชมพู สบู่ ครีมนวดผม โลชั่น ครีมบำรุง ลิปแคร์ เป็นต้น
ผลิตภัณฑ์ที่สาวๆ
ห้องโต๊ะเครื่องแป้ง Pantip
ต่างยกนิ้วให้เป็น The Best คงหนีไม่พ้นแฮนด์ครีมรุ่น
" Hand Therapy "
ที่มีกลิ่นมากมายให้เลือกสรร เช่น La Source, Citron, Avocado olive& Brasil, Pomegranate, Lavender แต่สูตรที่ฮิตที่สุดต้องเป็น Gardener หรือสูตรที่มีโลโก้เป็นรูปสาวถือต้นไม้หน้าหลอดนั่นเองค่ะ
ความเห็นจากสาวๆ ห้องโต๊ะเครื่องแป้ง Pantip และเว็บรีวิวเครื่องสำอางชื่อดัง Vanilla.in.th ลงคะแนนให้ด้วยคุณสมบัติบำรุงผิวมืออย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อครีมเข้มข้นแต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ กลิ่นออกแนวสมุนไพร ลดรอยด้านรอยแตกบนมืออย่างชัดเจน แม้แตกจนเลือดซิบๆ ก็เอาอยู่! รู้สึกถึงความนุ่มในครั้งแรกที่ใช้ แพกเกจจิ้งสวยดูดีด้วยค่ะ
ข้อเสียคือปริมาณค่อนข้างน้อยและราคาสูงไปสักนิดสำหรับวัยเรียนค่ะ
2. L'occitane
มาต่อกันที่แบรนด์
" ล็อกซิทาน ออง โพรวองซ์ ( L'occitane en Provence ) "
ที่ขายผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้าน รวมถึงสินค้าความงาม เครื่องสำอางและสกินแคร์บำรุงผิวหน้า ผิวกายและน้ำหอมสัญชาติฝรั่งเศส เป็นแบรนด์ที่ค่่อนข้างเน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ
ผลิตภัณฑ์ที่มี่ส่วนผสมของ Shea Butter 100% จะขึ้นชื่อและเลื่องลือสุดๆ ในหมู่สาวไทย เช่น ครีมอาบน้ำ โลชั่น สบู่ก้อน ลิปแคร์แบบกระปุกหรือน้ำหอมที่มีหลายกลิ่นให้เลือก แต่สินค้าที่ 'ฮิต' สุดๆ ต้องเป็น
'L'occitane Shea Butter Hand Cream'
ที่มีส่วนผสมของเชียบัตเตอร์ 20%, วิตามินอี, น้ำผึ้งและสารสกัดจากอัลมอนด์ มีกลิ่นหอมจากดอกไม้คือมะลิและกระดังงาค่ะ
ความคิดเห็นของสาวๆ
ห้องโต๊ะเครื่องแป้ง Pantip
และเว็บรีวิวเครื่องสำอาง Vanilla รีวิวไว้ว่า เนื้อครีมชุ่มชื่นไม่เหนียวเหนอะหนะ ทาได้ทั้งมือ ข้อศอกและตาตุ่ม ลดความหยาบกร้านของผิวหนัง ผิวดูนุ่มเพียงทาครั้งเดียว เนื้อเข้มข้นสุดๆ
ข้อเสียคือเนื้อของครีม 'ข้น' มากจนอาจไม่สะดวกหยิบจับสิ่งของใดๆ หลังทาครีม เหมาะกับการทาตอนกลางคืนก่อนเข้านอนเท่านั้น กลิ่นของครีมค่อนข้างฉุน ราคาค่อนข้างสูงสำหรับวัยเรียนค่ะ
3. Vaseline
มาถึงแบรนด์ที่สาม
" วาสลีน ( Vaseline ) "
สกินแคร์ที่มีส่วนผสมจากปิโตรเลียมเจลลี่เป็นหลัก อยู่ในเครือของบริษัท " ยูนิลีเวอร์ ( Unilever ) " โดยผลิตภัณฑ์จะมีครีมบำรุงผิว สบู่ก้อน โลชั่น คลีนซิ่งทำความสะอาด ลูกกลิ้งดับกลิ่นกายและผลิตภัณฑ์ชำระล้างจุดซ่อนเร้นค่ะ
วาสลีนขึ้นชื่อในหมู่สาวไทย โดยเฉพาะในห้อง
โต๊ะเครื่องแป้ง Pantip
ที่มักมีกระทู้บำรุงผิวด้วยวาสลีนอยู่เสมอ โดยมีสองรุ่นที่ต้องการแนะนำ คือ
'Vaseline Petrolium Jelly' และ 'Vaseline Healthy Hands Nails Conditioning'
ค่ะ
ตัวแรกรู้จักกันในฐานะ
'วาสลีนกระปุกเหลือง'
ขนาดใหญ่ใช้ได้นานและอเนกประสงค์สุดๆ ใช้ได้ตั้งแต่ขนตา มือ ( เป็นแฮนด์ครีม ) ข้อศอก ตาตุ่ม ลูบที่ปลายผม บำรุงปาก รักษาส้นเท้าแตกให้เรียบเนียน เนื้อเจลให้ความชุ่มชื่น ทาแล้วใส่ถุงมือก่อนนอนจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
แต่ข้อเสียคือเนื้อค่อนข้างมัน ไม่เหมาะสำหรับทาตอนกลางวันค่ะ
ตัวที่สองเคยรู้จักกันในชื่อ 'วาสลีนหลอดชมพู' หรือชื่อจริงคือ
'Vaseline Healthy Hand&Nail Conditioning'
ก่อนจะเปลี่ยนแพกเกจจิ้งใหม่เมื่อไม่นานมานี้ จุดเด่นคือหาซื้อง่าย ราคาไม่แพง ( ไม่ถึงร้อยบาท ) ให้ความชุ่มชื่นพอสมควร กลิ่นหอม ลดความหยาบกร้านของผิว สุขภาพเล็บแข็งแรงขึ้นกว่าเดิม
แต่ข้อเสียคือเนื้อค่อนข้างบาง ซึมช้า จึงไม้่เหมาะกับสาวที่มีผิวแห้งขั้นรุนแรงค่ะ
4. Nivea
จบที่แบรนด์สุดท้ายที่ใครไม่รู้จักถือว่าเชย!
" นีเวีย ( Nivea ) "
ยี่ห้อสกินแคร์และคลีนซิ่งสัญชาติเยอรมัน มีผลิตภัณฑ์มากมายวางขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าทั่วไป เช่น โลชั่น ครีมอาบน้ำ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ โทนเนอร์ ลิปแคร์และแฮนด์ครีม โลโก้ที่เป็นเอกลักษณ์คือรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีน้ำเงินเข้มนั่นเอง
ครีมทามือที่เราอยากแนะนำมีสองรุ่น คือ
'Nivea Anti Age Q10 Plus Anti-Oxidant Hand Cream' และ 'Nivea UV Whitening Cell Repair'
ค่ะ
ตัวแรกจะมีส่วนผสมจาก Q10 Plus เหมาะกับสาวๆ ที่มีผิวแห้งเสียสะสมจากการโดนแสงแดดเป็นเวลานาน สาวๆ Pantip และ Vanilla.in.th ให้ความเห็นว่า ให้ความชุ่มชื่นได้ดี ซึมง่ายไม่เหนียวเหนอะหนะ เนื้อครีมเป็นสีขาวนุ่ม กลิ่นหอม ใช้แล้วมือดูเนียนและกระชับขึ้น ผสมสารป้องกันแสงแดด
ข้อเสียคือไม่ค่อยเห็นผลชัดเจนเรื่องริ้วรอยจากวัยเท่าไหร่ค่ะ
ตัวที่สองมีสารป้องกันแสงแดดและ 'ไวท์เทนนิ่ง' ช่วยทำให้ผิวขาวขึ้น ฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ในผิวหนัง ความเห็นจากสาวๆ Pantip และ Vanilla.in.th บอกว่า กลิ่นหอม ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ให้ความชุ่มชื่นได้ดีมาก เนื้อครีมเหมาะสำหรับคนผิวแห้ง ราคาไม่แพง
ข้อเสียคือซึมค่อนข้างยาก ค่อนข้างเหนอะหนะ กันแดดได้เล็กน้อย ควรใช้ครีมกันแดดควบคู่ด้วย และไม่เห็นผลชัดเจนเรื่องความขาวใสเท่าที่ควรค่ะ
=========================
เห็นรีวิวครีมทามือแพกเกจสวยหรู คุณภาพเกินราคาทั้ง 4 แบรนด์แล้ว อยากลองซื้อมาใช้สักยี่ห้อแล้วหรือยัง =w= อยากเป็นผู้หญิงที่น่ารักและมีเสน่ห์ ไม่ควรละเลย 'มือ' เป็นอันขาด เพราะเป็นอวัยวะที่คนอื่นมีโอกาสได้สัมผัสมากที่สุด ต้องบำรุงให้เนียนนุ่มเข้าไว้ แค่นี้ก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น 'คนดูแลตัวเอง' ให้คนรอบข้างชื่นชมและอยากทำความรู้จักแล้วล่ะค่ะ
สาวผิวแห้งทั้งหลาย...คราวหน้าอย่าลืมพกแฮนด์ครีมติดกระเป๋าไว้นะคะ ^^
=========================
