1. SistaCafe
  2. 7 วิธีดีๆ ฟื้นฟูตัวเองจากวันร้ายๆ ให้กลับมาสดใสกว่าเดิม!!

BADDAY

เชื่อว่าทุกคนย่อมคงต้องเคยเจอกับวันร้ายๆ แบบนี้ เช่น ทำไมช่วงนี้ไม่มีอะไรได้ดั่งใจเลย หรือทำอะไรก็ไม่ได้ดีไปสักอย่าง

แต่อยากบอกให้รู้ไว้นะคะว่า มันแค่BADDAYไม่ใช่BAD LIFE

แต่ถ้าสาวๆ ยังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ยอมฟื้นฟูตัวเอง ลุกขึ้นมาปฎิบัติตัวซะใหม่ สาวๆ อาจจะตกอยู่ในสภาพ  BAD LIFE ได้เหมือนกันนะคะ



แต่เอาเถอะ อย่ามัวแต่โทษโชคชะตาฟ้าดินอะไรเลยค่ะ ชีวิตเราก็ต้องจัดการเองสิยะ อย่ามัวแต่บ่น มาเข้าคอร์สนี้ดีกว่ากับ

7 วิธีฟื้นฟูตัวเองจากวันร้ายๆ ให้ " เรา " กลายเป็น "เรา" ที่สดใสกว่าเดิมดีกว่าจ้า



1. ทำอะไรสักอย่างเพื่อตัวเองบ้าง

มันอาจจะยากนะที่เราจะหาเวลาอยู่กับตัวเอง นี่แหละที่เขาเรียกว่าในความเศร้าเราก็ยังได้เจอกับเรื่องดีๆ อยู่บ้าง ก็เพราะว่าเราเจอกับช่วงเวลาจิตตกสุดๆ มาแล้ว มันก็ต้องหาอะไรที่มาเยียวยาจิตใจกันบ้างแหละน้า ด้วยการตามใจตัวเองซะเลยง่ายๆ เช่นออกไปหาเครื่องดื่มอร่อยๆ ในร้านสวยๆ นั่งชิลเอาฟีล นั่งอ่านหนังสือทำจิตใจให้สงบบ้าง หรือแม้แต่จะแหกกฎนอนดึกเล่นเกมให้มันสะใจไปเลย!


จริงๆ แล้วช่วงเวลาที่อยู่กับตัวเอง มันก็ถือว่าเป็นความคิดที่ดีนะ เพราะสมัยนี้โลกมันเร็วเหลือเกิน เราไปโฟกัสกับสิ่งภายนอกมากเกินไปนี่แหละจึงเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้พักผ่อนStart up ชีวิตกันใหม่อีกครั้ง


2. จัดดินเนอร์แจ่มๆ ให้ตัวเอง

เอาแล้วนี่เป็นข้ออ้างที่ดีที่อาจจะดูเด็กเอาแต่ใจไปบ้าง แต่บางครั้งมันก็คือสิ่งที่เราต้องการมานานใช่มั้ยล่ะ!! บางครั้งสิ่งง่ายๆ เรากลับทำให้ยากซะงั้น ชอบอะไร ทำไมไม่ทำตามสิ่งที่เราต้องการเล่า อย่างเช่นการติดสินบนตัวเองเรื่องการไดเอท วันนี้ขอวันนึงนะ ฉันทนทุกข์กับอาหารมื้อเล็กๆ มานาน วันนี้แหละวันที่หัวใจอ่อนแอ เพราะโดนเธอทำร้ายหัวใจ โอ้เย่ เฮ้


จัดไป มื้อใหญ่เลยสาวน้อย วันนี้เธอได้สิทธิ์นั้นทันที แต่อย่างไรก็ตาม เพราะรักจึงขอแอบเตือนสติว่า จะทานอะไรก็ให้นึกถึงตอนที่อิ่มแล้วด้วยนะ ไม่ใช่อิ่มแล้วมารู้สึกเสียใจไปกับกองขนมหวานเต็มโต๊ะ ขุ่นพระ น้ำหนักขึ้น!!เอาล้าววว Bad Day วนลูปละจ้า


3. ลองตั้ง Goal ง่ายๆ แล้วทำให้สำเร็จ

ก็ถ้าสิ่งที่ตั้งเป้าหมายไว้มันยากเกินไปที่จะทำให้สำเร็จในวันใกล้ แล้วเกิดรู้สึกท้อ วิธีแก้ง่ายๆก็แค่ลองตั้งเป้าหมายง่ายๆ แล้วทำมันให้สำเร็จเมื่อเป้าหมายบางอย่างในชีวิต มันถูกทำให้สำเร็จบ้าง เราก็จะรู้สึกใจชื้น มีกำลังใจมาบ้างแล้วล่ะ


ยกตัวอย่างง่ายๆถ้างานชิ้นใหญ่ที่เจ้านายให้ หรือผลการเรียนที่หวังจะให้ดีขึ้น มันยังทำไม่สำเร็จก็พักไว้แปบนึง แล้วหันมาทำงานง่ายๆ อย่างจองตั๋วหนัง จองโต๊ะในร้านอาหารให้เจ้านายหรือถ้าน้องวัยเรียน ก็คือเคลียร์การบ้านในวิชาที่ชอบให้เสร็จไปซะก่อนแค่นี้ความรู้สึกใจชื้นก็กลับมาแล้ว


4. เปิดใจคุยกับใครสักคน ( ที่รัก )

เคยมั้ย เวลาอกหักหรือเสียใจอะไร เรามักจะโทรตามบรรดาเพื่อนในแก็งให้ออกมาแฮงเอ้าท์ พูดคุยเม้ามอยให้สบายใจ ก็เพราะว่าสาวๆ ไว้ใจพวกเขาใช่มั้ยล่ะคะ คนที่สาวๆ รัก สาวๆ จะรู้สึกสบายใจถ้าได้ระบายความอัดอั้นตันใจคนรักในที่นี้เราไม่ขอจำกัดสถานะ เพราะคนที่เรารักมีตั้งแต่ คนที่แน่นอนคือพ่อกับแม่ เพื่อนซี้ หรือแม้แต่เจ้าตูบน้องเหมียวในบ้าน


มันไม่ใช่แค่เรื่องการให้คำแนะนำหรอกนะ แต่มันยังเป็นเรื่องของจิดใจที่ว่าเราได้คุยกับใครสักคน เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวได้แชร์เรื่องราวที่เราเจอมาอย่างหนักหนา คนที่เราพูดด้วย เขาจะเข้าใจหรือไม่ก็ตาม เราก็รู้สึกดีแล้ว

ปล.ถ้าใครคิดว่าตัวเองพูดไม่เก่ง เล่าไม่เก่ง ก็ใช้วิธีส่งข้อความสั้นๆ บอกรัก หรือข้อความแสดงความรู้สึกในตอนนั้น เช่น รักนะแม่ ( แม่ ) , ฉันเหนื่อยจังเลยแก ( เพื่อน )เชื่อสิ แค่นี้คนปลายทางก็จะรับรู้ได้ว่าเรารู้สึกอย่างไร


5. ทำอะไรไม่ถูกก็ " อาบน้ำ " ก่อนละกัน

ใครจะไปคิดละเนอะว่าการอาบน้ำจะมาเป็นทางแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ แต่จริงๆ แล้วการอาบน้ำมันก็คือการบำบัดได้ชำระล้างร่างกายที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดมันก็เหมือนกับการที่เราได้กำจัดความเครียด ความกังวลที่เราสั่งสมมาตลอดทั้งวัน ให้ชะล้างไปพร้อมกับสายน้ำ


การอาบน้ำในช่วงเย็น มันก็เป็นการ

รีเฟรชร่างกายหลังจากทำงาน/นั่งเรียน

และจะดีมากถ้าบ้านใครมีอ่างอาบน้ำให้เราได้นอนแช่ รีแล็กซ์ก่อนนอน แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาถ้าใครไม่มีอ่างอาบน้ำ เพราะไม่ว่าสาวๆ จะอาบน้ำด้วยฝักบัว อ่าง ตักอาบ สาวๆ ก็จะได้รับรสชาติความสงบได้หมดเหมือนกันแหละจ้า


6. ตั้งสติแล้วค่อยๆ คิดเนอะ

เคยได้ยินคำนี้มั้ยคะ " นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว " ก็เพราะมันเกิดความผิดพลาด ความยุ่งยากไปแล้ว เราจะมาฟาดงวงฟาดงาโวยวายให้ใจรุ่มร้อนกันอีกทำไมเอาเป็นว่าถ้าสมมติเมื่อวานเราทำงานพลาดไปแล้ว ก็คงต้องตั้งสติว่า มันเกิดขึ้นได้ยังไงแล้วค่อยๆ แก้ปัญหากันไป


มันอาจจะยากจะที่สถานการณ์แบบนั้นแล้วเราจะมองหาทางในแง่บวกได้ แต่ถ้าเราหัดมองโลกในแง่บวกซะบ้างบ่อยๆ จนเป็นนิสัย มันก็จะง่ายไปแล้วถ้าเกิดมีวัน Bad Day อีก


7. สร้างเสียง " หัวเราะ " หรือ " รอยยิ้ม "

ใครๆ ก็รู้อยู่แล้วว่าทั้ง

เสียงหัวเราะและรอยยิ้ม ล้วนหมายถึงว่าคนๆ นั้นเขาจะต้องมีความสุขอยู่แน่ๆ

สมองก็จะสั่งการหลั่งสารแห่งความสุขมาให้เราได้เปรมปรีใจไปตามๆ กัน



แต่ถ้าเกิดตอนนั้นเราทุกข์ล่ะ ไม่มีแรงบันดาลใจอะไรเลยให้รู้สึกอยากหัวเราะหรือยิ้ม เราเคยอ่านหนังสือเรื่องการพัฒนาตัวเองของคนญี่ปุ่น เขาใส่ใจไปถึงเรื่อง

ความสุขที่เราสามารถสร้างขึ้นได้เองจากสมองของเรา

พูดมาขนาดนี้หมายถึงอะไร

คือถ้าหากเราเศร้าแต่ปากเราขยับให้ยิ้มได้ หรือแค่ลองหัวเราะออกมา สมองมันก็จะ

ปรับเปลี่ยนอารมณ์ของเราให้ดีขึ้นได้ค่ะ

BADDAY

แค่เห็นชื่อก็รู้สึกเหนื่อยซะแล้ว แต่อย่างที่บอกอ่ะนะว่าเ

ราต้องไม่ไปจมปลักอยู่กับมันอย่างนั้น เชื่อสิว่าทุกอย่างมันแก้ไขได้ ใช้ชีวิตให้มันง่ายๆ สิยะวัยรุ่น เฮ้!

เอาล่ะ ใครก็ตามที่กำลังวุ่นวายอยู่กับวันแย่ๆ ก็ลองหันมาทำตามคำแนะนำนี้ดูบ้างนะคะ เพราะ

เราจะต้องไม่เสียเวลาให้ความสวยของเราหม่นหมองนาน หายเศร้าแล้วก็มาเริ่ดๆ เชิดๆ เป็นคนใหม่ที่หัวใจสดใสฟรุ้งฟริ้งกว่าเดิมดีกว่าค่า


บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้

🔮 ดูดวงกับ SistaCafe ผ่าน Line Official !
รูปภาพสำหรับป๊อปอัพลอย:1