1. SistaCafe
  2. "ของสะสม" มีคุณค่าทางจิตใจหรือแค่ไร้สาระ?

หันไปทางไหนก็เจอแต่คนสะสมของนะคะ ยิ่งช่วงนี้ Art Toys ฮิตหนักมากกก~ เปิดไปโซเชียลไหนก็ต้องมีคนอวด ไม่ก็แกะกล่องสุ่มกันฉ่ำ ๆ แต่ก็ว่าไม่ได้นะคะเป็นความชอบของแต่ละบุคคล คนเราก็มีความชอบที่แตกต่างกัน รวมไปถึงของที่ชอบสะสมด้วย ซึ่งของสะสมมันก็จะมีอยู่บางประเภทที่มักจะโดนผู้ใหญ่หรือคนรอบข้างบ่นตลอดว่า "ไร้สาระ"และเราก็มักจะไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมองแบบนั้นและทำไมตัวเราถึงมองของบางอย่างว่าไร้สาระเหมือนกัน? ฟัง ๆ ไปชักงงแล้ว งั้นเอางี้ดีกว่า เรามาคุยกันดีกว่าว่าของสะสมมันมีขอบเขตประมาณไหน แล้วมันไร้สาระจริงไหม มันมีผลกับจิตใจยังไงบ้าง แล้วทำยังไงให้สะสมของแบบพอดี ไม่เกินตัว พร้อมจะรู้แล้วก็มาอ่านกันเลยค่า


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


ของสะสมคืออะไร แล้วมันขอบเขตไหมว่าแบบไหนถึงจะเรียกว่าสะสม?

ของสะสมมันคืออะไร? มันก็คือของสิ่งนึงซึ่งไม่ได้มีใครมากำหนดว่ามันควรเป็นอะไร ลักษณะแบบไหน ไม่มีถูกหรือผิดนะคะขอแค่มันเป็นสิ่งที่เราชอบ เราสนใจจะเก็บมันเรื่อย ๆ เท่านี้ก็เรียกได้ว่าเป็นของสะสมแล้วบางคนอาจจะชอบสะสมการ์ดศิลปิน บางคนชอบสะสมอาร์ตทอยส์ บางคนชอบสะสมเหรียญ บางคนชอบสะสมพระเครื่อง ทุกคนมีความชอบและของที่สะสมแตกต่างกันไป ดังนั้นมันไม่มีอะไรตายตัวมากำหนดเลยว่าแบบไหนถึงจะเรียกของสะสมได้ แบบไหนเรียกไม่ได้ ชอบอะไร สะสมอันนั้นไปเป็นอันจบจ้า!


ทำไมคนถึงมองว่าของสะสม " ไร้สาระ " ในสายตาเขา?

เชื่อว่าสิ่งนี้เป็นคำถามในใจหลาย ๆ คนแน่ ๆ ว่า "ทำไมหลาย ๆ คนถึงมองว่าการสะสมของต่าง ๆ มันไร้สาระ" โดยเฉพาะกับผู้ใหญ่นี่อื้อหือ... ไม่เคยจะเข้าใจกันเล้ย บ่นตลอด ด่าตลอด วัยรุ่นเซ็งชะมัด! เราขอตอบในมุมที่เคยสอบถามผู้ใหญ่มาเลยนะคะ เขาบอกว่าเขาไม่เข้าใจว่ามันมีประโยชน์ยังไง เก็บแล้วได้อะไรขึ้นมา ทำไมต้องเก็บ เสียดายเงินเปล่า ๆ เอาไปทำอย่างอื่นดีกว่า ซึ่งคำตอบพวกนี้สรุปง่าย ๆ เลยก็คือเขาแค่ไม่อินกับสิ่งที่เราทำ เขาก็เลยมองว่าสิ่งนี้มันไร้สาะระนะคะ คือต่อให้อธิบายว่าเราชอบยังไง เขาก็จะทำได้แค่อ๋อ อือ ๆ แค่นั้นแหละค่ะเพราะความชอบคนเรามันต่างกัน เขาก็เลยจะไม่เข้าใจว่าทำไมคนถึงชอบสิ่ง ๆ นี้ ต้องอินขนาดนั้นเลยเหรอ ซึ่งบอกตรง ๆ ว่าลองคิดถึงตัวเองเวลาไม่อินอะไรแล้วมองคนที่อิน ก็... คิดไม่ต่างกับผู้ใหญ่เท่าไหร่ มันก็ไม่เชิงว่าเป็นความคิดที่ผิดนะคะแค่แบบว่าถ้าไม่อิน ไม่ชอบก็ไม่ควรพูดจาไม่ดีใส่คนที่อินจะดีกว่าเท่านั้นเอง จริงไหมคะ :-)


เราจะเปลี่ยน " ความคิด " ของคนที่คิดแบบนี้ได้ไหม?

ส่วนตัวคิดว่าวิธีการเปลี่ยนความคิดของคนที่คิดว่ามันไร้สาระ ไม่อินบลา ๆ แล้วมาพูดจาใส่เราให้เรารู้สึกไม่พอใจ วิธีง่าย ๆ คือให้เปรียบเทียบสวนกลับไปเลยค่ะ เพราะร้อยทั้งร้อยคนเรามักจะมีสิ่งที่ชอบยึดเหนี่ยวจิ9ใจนะคะ สมมติว่าเราชอบสะสมการ์ดศิลปินแล้วโดนแม่บ่นว่าซื้อทำไม ไร้สาระ เปลืองเงิน เราก็แค่ถามแม่กลับไปว่าแล้วทำไมแม่ถึงชอบซื้อจานชามมาเก็บล่ะ? ถ้าแม่ตอบว่าก็แม่ชอบอะไรทำนองนี้ ก็บอกเขาไปเลยนะคะว่ามันก็เหมือนกัน มันคือความชอบของแต่ละคน แม่ไม่ชอบไม่อินสิ่งที่เราสะสม เราก็ไม่อินของแม่เหมือนกัน แค่เราต่างเข้าใจและเคารพความชอบกันและกันมันก็น่าจะดีกว่ารึเปล่า ในเมื่อเราต่างคนต่างไม่ไปเดือดร้อนหรือมารบกวนกัน เชื่อว่าทำแบบนี้ส่วนใหญ่ผู้ใหญ่ก็จะเริ่มเข้าใจและจะบ่นน้อยลงไปเองนะคะ

ส่วนตัวใช้วิธีนี้บอกเลยว่าอยู่หมัดค่ะ แม่เลิกบ่นไปแล้ว คิคิ > _ <


ของสะสมมีประโยชน์ต่อ " สมองและสุขภาพจิต " จริงเหรอ?

ต้องบอกว่านอกจากมีคุณค่าทางจิตใจแล้ว การสะสมสิ่งของมีประโยชน์ต่อสมองและสุขภาพจิตใจด้วยนะคะ เพราะว่าการสะสมสิ่งของมันก็คือความชอบและความสนใจของเรา เวลาเรามีเรื่องที่เครียดมาก ๆ หรือเจอเรื่องร้าย ๆ เข้ามา แค่เพียงเราได้มานั่งสะสมของ มานั่งจัดเรียงหรือมองของสะสมมันก็ช่วยทำให้สภาพจิตใจที่ขุ่นมัวดีขึ้นได้ ลดความเครียดไปได้ด้วยนอกจากนี้ยังเป็นการฝึกสมองในด้านความจำด้วยนะคะ เพราะของสะสมเรามักจะจำได้ว่าอันนี้ได้มายังไง อันนี้ซื้อมาจากไหน ซื้อมาวันไหน พิเศษยังไง ลำดับนั่นนี่ บลา ๆ ยิ่งเวลาที่มีคนถามแล้วเราต้องประมวลผลตอบบอกเลยว่าทั้งอิน ทั้งได้บริหารสมองไปในตัวด้วยนะคะ > _ <


ทริคเก็บสะสมของยังไงไม่ให้เกินตัว!


ทริคเก็บสะสมของยังไงไม่ให้เกินตัว + ทริคเช็กตัวเองว่าเรากำลังเกินตัวไหม

ซื้อแค่เท่าที่ซื้อไหว อย่าไปเดือดร้อนคนอื่น

ข้อนี้สำคัญมาก ๆ นะคะ ก็คือการซื้อเท่าที่ไหวและไม่เดือดร้อนใคร เชื่อว่ามีหลายคนมาก ๆ ที่อยากได้สิ่งนั้น อยากจะเอาสิ่งนี้แล้วมันเกินตัว ทางที่หลายคนจะหันไปหาทางออกก็คืออาจจะเริ่มหยิบยืม อาจจะเริ่มต้องไปขอพ่อแม่หรืออาจจะต้องเจียดเงินส่วนที่ตั้งใจเก็บไว้มาใช้ ทีนี้มันก็จะเริ่มเดือดร้อนตัวเอง เดือนร้อนคนรอบตัวแล้วนะคะ ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องในการเก็บสะสมของเลย เราควรเก็บสะสมในความพอดี ไม่เดือดร้อนตัวเองและไม่เดือดร้อนคนอื่นคิดไว้เสมอนะคะว่าอย่าชอบอะไรที่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน



คิดไว้เสมอว่ามันไม่ต้องมีครบทุกชิ้นก็ได้

บอกเลยว่าการถือคติ "ไม่ต้องมีครบทุกอย่าง ทุกชิ้นก็ได้" เป็นอะไรที่ดีมาก ๆ นะคะ เพราะหลายคนชอบไปถือคติ "ของมันต้องมี" ซะเยอะ จนสุดท้ายก็มาบ่นว่าไม่มีเงินเก็บ เงินไม่พอใช้เลยเดือนนี้ บลา ๆ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลมันก็มาจากความคิดของเราด้วยนะคะพยายามเปลี่ยนความคิดว่าเราไม่ต้องมีครบทั้งหมดก็ได้ เน้นเอาแค่ที่อยากให้จริง ๆตัดใจเลือกมาให้ได้เท่านี้ ถ้าบังเอิญว่างบเหลืออีก พอซื้อได้อีกก็ค่อยซื้อเพิ่มเติมก็ไม่สายนะคะ อย่าพยายามที่จะเอาให้ได้ทันที ไม่งั้นเราจะตัดใจไม่ได้ไปตลอดเน้อ


ตั้งเป้าไว้ว่าเดือนนี้จะใช้จ่ายในส่วนนี้แค่ไหน

การกำหนดไปเลยว่าต่อเดือนจะซื้อของสะสมได้ในงบเท่าไหร่ จะทำให้เราควบคุมการใช้จ่ายของเราได้มากขึ้นนะคะ คือถ้าเราไม่ควบคุมหรือคิดเตือนใจไว้เลย เราอาจจะใช้จ่ายแบบสนุกมือไปมาก ๆ เลยก็ได้ การกำหนดจะช่วยทำให้เรารู้ขอบเขตว่าประมาณนี้คือพอดีนะ มากกว่านี้คือไม่โอเคแล้วเป็นอีกทางที่ช่วยประมาณตัวเองด้วย แล้วก็ไม่ทำให้เราใช้จ่ายแบบเกินตัวไปด้วยนะคะ ซึ่งก็อย่าตั้งไว้ต่ำเกินหรือสูงเกินไปนะคะ ไม่งั้นก็จะทำยากหรืออาจจะชิลเกินไปได้ เอาให้มันอยู่ในความเหมาะสมของตัวเอง


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


เป็นยังไงกันบ้างคะ ได้อ่านมุมมองเกี่ยวกับของสะสมเพิ่มเติม แถมยังได้รู้ด้วยว่าของสะสมมันมีคุณค่าทางจิตใจแตกต่างกันไปแบบไหน เราได้ตกตะกอนความคิดใหม่ ๆ เพิ่มไหมน้า~ ก็หวังว่าจะช่วยทำให้หลาย ๆ คนได้มีมุมมองในเรื่องนี้เพิ่มขึ้นนะคะ หรือถ้าใครชอบบทความนี้ก็สามารถกดแชร์ไปให้คนที่ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้ได้เปิดมุมมองใหม่ ๆ ดูก็ได้นะเออ เพิ่มเติมอีกนิดนึงอยากจะบอกสักหน่อยว่าของสะสมหรือความชอบของคนเรามันแตกต่างกันถ้าเขาไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนก็ปล่อยให้เขาได้ทำในสิ่งที่ชอบดีกว่าเนอะ ไม่ต้องไปพูดจาทำร้ายจิตใจให้หงุดหงิดกันเปล่า ๆเอาล่ะ! ตอนนี้ก็หมดหน้าที่เราแล้วล่ะ ขอตัวลาทุกคนไปก่อนดีกว่า แล้วมาเจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะ บ๊ายบาย


บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้