1. SistaCafe
  2. อยู่เป็น ตกลงคำนี้ดีไหม ? เมื่อยิ่งโต IQ และ EQ ต้องมาคู่กัน

ปัญหาโลกแตกของสังคมทั่วไปและสังคมทำงานมากนะคะ สำหรับประเด็น "อยู่เป็น หรือ ขี้ประจบ " เป็นที่ถกเถียงกันแบบสุด ๆ ว่าแบบไหนคือขอบเขตของการอยู่เป็นและแบบไหนคือแบบที่เรียกได้เต็มปากเต็มคำว่าขี้ประจบ คิดแล้วก็หัวจะแตก งั้นลองมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องนี้กันค่ะว่าอยู่เป็นมันคืออะไรกันแน่ ขี้ประจบมันเป็นแบบไหน แล้วการวางตัวแบบไหนถึงจะเรียกว่าอยู่เป็น แล้วแบบไหนที่ไม่สมควรทำมาก ๆ ในการอยู่ในสังคม มาร่วมกันไขข้อข้องใจนี้ไปกันเลยดีกว่า Let's goooo~


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


อยู่เป็นหมายถึงอะไร ตกลงคำนี้ดีไหม ?

" อยู่เป็น " หมายถึงอะไร แล้วตกลงคำนี้ดีไหม? อยู่เป็นก็คือ การอยู่ในสังคมแบบรู้ว่าควรวางตัวอยู่ตรงไหน ควรทำอะไร ที่ไหน อย่างไรแบบมีขอบเขต อยู่เป็นมันไม่ใช่คำพูดที่ไม่ดีมาตั้งแต่แรกนะคะ มันขึ้นอยู่กับเจตนาคนพูดมากกว่า ถ้าเขาพูดในเชิงชื่นชมว่าอยู่เป็นนะเนี่ยก็ถือว่าชมกันไป แต่ถ้าพูดในเชิงกระแนะกระแหนอันนี้ก็ชัดเจนนะคะว่าเขากำลังแซะเราอยู่แน่นอนเลย แล้วแบบนี้คำนี้เป็นคำที่ไม่ดีรึเปล่า ส่วนตัวว่าเราตัดสินจากเจตนาคนพูดจะดีกว่าค่ะ เนื่องจากว่าคนพูด บริบท น้ำเสียงจะเป็นตัวตัดสินมากกว่าว่าเขามีเจตนาจะสื่ออะไรกับคนฟัง


อยู่เป็น VS ขี้ประจบ ต่างกันยังไง ?

อยู่เป็น VS ขี้ประจบ ต่างกันยังไง? จริง ๆ ต่างกันมาก ๆ เลยก็ว่าได้นะคะ อยู่เป็นอย่างที่บอกคือรู้ว่าควรวางตัวยังไง ต้องทำอะไร ที่ไหน อย่างไรแบบมีมารยาทและขอบเขต แต่ขี้ประจบเนี่ยมันจะ Advanced ไปกว่านี้อีกขั้นนึงเลย คือมันจะเป็นการรู้ว่าต้องทำอะไร ที่ไหน อย่างไรและวางตัวแบบไหนที่อีกฝ่ายจะชอบและเขาก็จะทำแบบนั้นแบบที่ไม่เป็นตัวเองมาก ๆ ซึ่งมันจะไม่เหมือนกับอยู่เป็นที่ทำแค่ในขอบเขตที่เหมาะสมนะคะ ดังนั้นเนี่ยมันสามารถแยกออกได้ง่ายมาก ๆ


รวม 10 วิธีอยู่เป็นในทางที่ดี ฝึกเข้าสังคมต้องทำยังไงบ้าง ?


อยู่เป็น ต้องทำยังไง? 1. มีความยืดหยุ่น ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม

อันดับแรกในการอยู่เป็นเลยก็คือการมีความยืดหยุ่น ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมนั่นเองค่ะ เขามาแรก ๆ แน่นอนว่าไม่มีใครไหลลื่นได้แบบ 100% แม้ว่าจะเป็นคนเฟรนด์ลี่พูดเก่งแค่ไหนก็ตาม เพราะการไปเจออะไรใหม่ ๆ โดยที่ยังไม่รู้สังคม ยังไม่รู้การทำงานเลยก็จะต้องคอยดู คอยสอดส่องคอยสังเกตกันไปก่อนว่ามันเป็นยังไง มันควรเข้าหายังไง มันควรทำตัวแบบไหนการที่เราอยากจะเป็นตัวเองมากเกินไปบางครั้งมันก็ทำไม่ได้นะคะ ยิ่งไปเจอสังคมใหม่ ๆ ด้วย เรายิ่งไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายเป็นแบบไหน การดูเชิงกันไปก่อนแล้วค่อย ๆ ปรับตัวก็เป็นการอยู่เป็นแบบนึงเหมือนกันนะจ๊ะ


วิธีอยู่เป็นในสังคม 2. รับฟังในทุกความแตกต่าง

การทำงานกับคนหมู่มากก็ต้องรับฟังในทุกความแตกต่างและทุกความคิดเห็นนะคะ แม้ว่าเราอาจจะไม่ได้เห็นด้วยกับเขาทั้ง 100% ก็ตามแต่เราก็สามารถรับฟังและคิดตามในสิ่งที่เขาพูดมาได้ว่ามันเป็นยังไง มันโอเคไหม ถ้าเรามีสิทธิ์เสนอความคิดเห็นก็ลองเสนอดูบ้าง อาจจะปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขความคิดเห็นอื่น ๆ บ้างหรือเอามาปรับให้มันเป็นไอเดียใหม่ ๆ ก็จะได้ลงตัวมากขึ้นนะคะเพราะทุก ๆ ความคิดเห็นในการทำงานมันมีผลกับผลงานทั้งหมดเลยถ้าเราตั้งใจฟังและปรับนั่นนิดนี่หน่อยก็อาจจะได้ผลงานที่ออกมาดีเยี่ยมมาก ๆ ผลงานนึงเลยนะคะ


วิธีวางตัวให้เหมาะสม 3. เข้าใจสถานการณ์และมีกาลเทศะ

เวลาทำงานแน่นอนว่าจะต้องมีเหตุการณ์ที่ไม่ใช่เราที่เป็นคนหัวร้อน แต่มีคนในที่ทำงานหัวร้อน ซึ่งถ้าเราอยู่เป็นเราก็จะต้องเข้าใจสถานการณ์ก่อนว่ามันเป็นยังไง มันจะรุนแรงไหมหรือเขาจะทำประมาณนี้แค่เสียงเหวี่ยงนิดหน่อยอ่านสถานการณ์ให้ออกเราก็จะดูไม่ไปยุ่งหรือไปก้าวก่ายอีกฝ่ายมากไปแล้วนะคะและทำให้เราดูมีกาลเทศะด้วย ไม่ไปแทรกตอนที่เขากำลังเถียงกัน ตอนที่เขาไม่พอใจกัน ถ้าตอนเจอสถานการณ์มันค่อนข้างน่าจะตกใจก็พยายามรวบรวมสติให้ได้มากที่สุด อ่านสถานการณ์อันไหนเราเลี่ยงได้ อันไหนควรห้ามนะคะ


การวางตัวที่ดีในสังคม 4. รู้จักยับยั้งและจัดการอารมณ์ของตนเองได้

หลายต่อหลายครั้งเราก็ต้องเจอเพื่อนร่วมงานแปลก ๆ อยู่แล้วนะคะ ส่วนใครไม่เจอก็ยินดีด้วยมาก ๆ ค่ะ และแน่นอนว่าการเจอเพื่อนร่วมงานแปลก ๆ มักจะทำให้ขีดจำกัดความอดทนของเรามันต่ำลงมาก ๆ ดังนั้นเราจะต้องรู้จักยับยั้งและจัดการอารมณ์ของตนเองให้ได้ม่ว่าจะหงุดหงิด โมโห เสียใจหรืออะไรก็ตามแต่ในด้านลบ ต้องพยายามเคลียร์ตัวเองให้ได้แต่ถ้ารู้สึกว่าณ.ตอนนั้นมันไม่ไหวแล้วจริง ๆ ให้เดินหนีไปสงบสติคนเดียวด่วน ๆ เลยนะคะ จะได้ไม่ต้องทำให้เสียบรรยากาศแล้วก็ไม่ทำให้คนอื่น ๆ มองเราไม่ดีด้วย


อยู่เป็นควรปฎิบัติอย่างไร ? 5. เลือกใช้วิธีแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผลและมีวุฒิทางอารมณ์

อย่างที่บอกไว้เลยว่าเราต้องรู้จักระงับอารมณ์ของตัวเองให้ได้ แล้วก็จะต้องเลือกใช้วิธีแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผลและมีวุฒิทางอารมณ์ที่ดีด้วย เนื่องจากว่าสถานการณ์หลาย ๆ อย่างมันชวนทำให้เรารู้สึกหัวร้อนปุด ๆ สุด ๆ อยากกรี๊ดอัดหน้าอีกฝ่ายแต่ก็รู้ว่าทำไม่ได้ เราก็ต้องสงบสติตั้งสมาธิว่าควรจะแก้ปัญหาแบบไหน ไม่ต่อว่าหรือด่าไปก่อน เน้นแก้ปัญหาก่อนเพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศการทำงานซึ่งถ้าเราทำได้บอกเลยว่าเราจะดูเป็นคนที่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่ดีมาก ๆ นะคะ ถ้าใครอยากลองไปปรับใช้ก็ลองได้ค่ะ ให้นับ 1 2 3 ในใจค่อย ๆ แก้ปัญหาก่อนจะตำหนิก็ไว้ทีหลัง แบบนั้นเวิร์กกว่าแน่นอนนะคะ


ฝึกอยู่เป็น ทำยังไง? 6. ฝึกสื่อสาร ทำความรู้จักกับคนในออฟฟิศด้วย

นอกจากการวางตัวในส่วนของการทำงานแล้ว ก็อยากให้ทุกคนฝึกสื่อสาร ทำความรู้จักกับคนในออฟฟิศด้วยนะคะ พยายามวางตัวไม่อ่อนข้อแต่ไม่ได้แข็งกระด้างเกินไป วางตัวให้เขาอยากจะเข้ามาคุยด้วยและเราก็หัดที่จะสื่อสารกับคนรอบตัวบ้าง ทักทายบ้าง พูดคุยเรื่องทั่วไปบ้าง เพื่อจะได้เป็นการทลายกำแพงที่ไม่กล้าข้ามมาหากันได้นะคะแอบกระซิบว่าสนิทกับป้าแม่บ้านไว้จะดีมาก ๆ ค่ะส่วนใหญ่แกจะรู้เรื่องนั่นนี่เยอะมาก และแกก็จะได้มาบอกให้เราฟังนะคะ ซึ่งเราจะสามารถเก็บเป็นข้อมูลในการวางตัวได้ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเองจ้า


วิธีเข้าสังคม 7. แบ่งปันสิ่งต่าง ๆ เพื่อสร้างสัมพันธ์กับคนในออฟฟิศ

นอกจากการคุยกับคนในออฟฟิศแล้ว การแบ่งปันสิ่งต่าง ๆ เพื่อสร้างสัมพันธ์กับคนในออฟฟิศก็เป็นสิ่งที่ดีนะคะ เช่น ไปเที่ยวมาก็ซื้อขนมมาแบ่งคนในฝ่ายบ้างเอาแค่แบบเล็ก ๆ น้อย ๆ แบ่งกันกินนิด ๆ หน่อย ๆ ก็พอเขาจะได้รู้ว่าเรามีน้ำใจ เราเป็นคนที่ไม่ได้นิ่ง ๆ น้า เข้าหาได้น้าอะไรแบบนี้นะคะ การปฏิบัติตัวของคนรอบข้างเราก็จะเปลี่ยนไปด้วยเพราะเขามีความประทับใจในตัวเราแบบใหม่ ๆ นะคะ ดังนั้นเนี่ย เล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าทำได้เพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีก็อยากให้ทุกคนได้ทำกันนะคะ


ทริคอยู่เป็น 8. งานไหนที่มีโอกาสทำได้ อยากให้คว้าไว้

งานไหนที่มีโอกาสทำได้ อยากให้คว้าไว้จริง ๆ นะคะ มันเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เติบโตในหน้าที่การงานแล้วก็ยังเป็นอีกตัววัดที่บ่งบอกว่าเราพัฒนาฝีมือได้แค่ไหน เราสามารถทำนั่น ทำนี่ได้มากน้อยแค่ไหนด้วย แต่ก็ต้องประเมินศักยภาพตัวเองด้วยนะคะ ไม่ใช่ว่าอยากทำแต่เราไม่ถนัดเลยแล้วพอรับงานมาก็ต้องหัวหมุนหนักมาก ลำบากไปหมด เหนื่อยล้าทั้งกายและใจแบบนั้นก็ไม่ไหวเน้อ เอาให้มันพอดี ๆ นะคะรู้ว่าตัวเองควรทำอะไร อยู่ตรงไหนถึงจะพอดีเน้อ


การอยู่ให้เป็นในสังคมทำงาน 9. อย่าร่วมนินทาคนในออฟฟิศ

การเมาท์มอยเรื่องชาวบ้านคืองานของเรามาก ๆ เชื่อว่าหลายต่อหลายคนเป็นแน่นอน แต่ ๆ การอยู่เป็นจะต้องไม่ร่วมนินทาคนในออฟฟิศนะคะ คือเชื่อเลยว่าหลายบริษัทมาก ๆ ต้องมีคนตั้งวงเมาท์นินทาหัวหน้าเอย นินทาเพื่อนร่วมงานเอย ซึ่งถ้าให้ดีที่สุดนะคะ นั่งฟังเฉย ๆ ไม่ต้องไปออกความคิดเห็นอะไร เก็บข้อมูลเอาไว้ ไม่ต้องไปบอกใคร ไม่ต้องไปเผยแพร่กับใคร เราจะได้รู้ว่าแต่ละคนนิสัยเป็นยังไง ฟังจากคนอื่นเจอกับที่เราเจอเหมือนกันไหม แล้วค่อยตัดสินจะดีกว่านิ่งสงบสยบการเคลื่อนไหวนะคะ เกิดเวลาอีกฝ่ายที่โดนนินทาจับได้เราจะได้ไม่มีชนักติดหลังด้วย


อยู่เป็นในสังคม 10. อย่าเล่าความลับให้ใครฟัง

ข้อนี้สำคัญมาก ๆ เลยก็คืออย่าเล่าความลับให้ใครฟัง ไม่ว่าจะความลับเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว ถ้าเราไม่ได้สนิทกับที่ทำงานมากพอหรือเป็นเพื่อนที่ไว้วางใจได้แน่ ๆ อะไรแบบนั้น เนื่องจากว่าคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจนะคะ บางความลับบอกแล้วบอกอีกว่าอย่าบอกใคร สุดท้ายก็เอาไปบอกอยู่ดีเพราะความลับไม่มีในโลก สู้เก็บไว้ที่เราหรือคนที่สนิทใจจะดีกว่า คนในที่ทำงานบางคนก็เอาไปเมาท์มอยฉ่ำ ไม่ก็อาจจะเอาไปพูดให้เราเสีย ๆ หาย ๆ เพิ่มขึ้นก็ได้ ดังนั้นต้องระวังตัว อยู่ให้เป็น พูดแค่ที่ควรพูดนะจ๊ะ


การอยู่เป็นแบบไหนที่ไม่ควรทำ

การอยู่เป็นในบางครั้งมันก็มีเส้นบาง ๆ ของคำว่า Ignorance หรือการเพิกเฉยอยู่เหมือนกันนะคะ แต่ว่ามีหลาย ๆ ประเด็นเลยที่เราไม่ควรทำและไม่ควรเพิกเฉยเช่ย

  1. เฉยเมยต่อสิ่งที่ผิดในสังคม : อย่างเช่นการที่มีคนโดนคุกคาม ใช้ความรุนแรงแล้วเราก็นิ่งเฉยไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให่มันผ่านไปเพราะไม่ใช่เรื่องของเรา จริงอยู่ที่ว่าบางครั้งการเอาตัวเข้าไปเกี่ยวอาจจะมีอันตรายได้ แต่ถ้าอันไหนมันเกินไปแล้วจริง ๆ ก็อยากให้ทุกคนลองใจเย็น ๆ หาทางออกเพื่อแก้ไขสถานการณ์ดูนะคะ ถ้ามองว่าอันตรายเกินไปก็ลองแจ้งคนที่พอจะมีอำนาจมาทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ก็ได้
  2. เอาประโยชน์เข้าตัว โดยไม่สนว่าใครจะเดือดร้อน : เพราะการอยู่เป็นในบางครั้งมันก็มีประโยชน์กับเรา แต่ก็อาจจะทำให้คนอื่นเดือดร้อนได้ ดังนั้นถ้าอะไรที่มันกระทบต่อคนรอบตัว ทำให้คนอื่นเดือดร้อนเราก็ควรปรับปรุงน้า ไม่งั้นอยู่เป็นจะกลายเป็นอยู่ไม่เป็นได้
  3. ทำตัวเป็นกลาง แต่เอาเรื่องจากฝั่งนึงไปบอกอีกฝั่งนึง : บางคนวางตัวเป็นคนอยู่เป็นฟังจากฝั่งนั้นที ฝั่งนี้ที แล้วก็ทำตัวพูดในเชิงหวังดีว่าอีกฝั่งบอกมาแบบนั้น อีกฝ่ายบอกมาแบบนี้ สุดท้ายผลมันก็ออกมาให้เรากลายเป็นนกสองหัวแม้ว่าเจตนาจริงอาจจะไม่ได้ไม่ดีเลยก็ตาม ก็ทำตัวเป็นกลาง ๆ ฟัง ๆ นิ่ง ๆ ไว้จะดีที่สุดนะคะ

♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


จัดเต็มเรื่องการ อยู่เป็น ไปแบบจุก ๆ แน่น ๆ เลยนะคะ ก็หวังว่าทุกคนจะสามารถแยกแยะคำว่าอยู่เป็นและขี้ประจบออกจากกันได้ แล้วก็ได้เอาวิธีการวางตัวไปปรับใช้ในชีวิตจริงด้วย พูดก็พูดบางครั้งการอยู่เป็นมันจะอยู่เป็นอย่างเดียวก็คงไม่ไหว บางครั้งก็ต้องรู้จักปรับตัวบ้างอะไรบ้างเพื่อการทำงานที่ราบรื่นมากขึ้น ไม่อย่างนั้นเราอาจจะใช้ชีวิตลำบากนะคะ สังคมเรามันไม่ได้ซื่อตรงกับเราเสมอไป บางครั้งมันก็ชอบมาในรูปแบบเพื่อนร่วมงานแปลก ๆ หัวหน้างานแปลก ๆ ถ้าจุดไหนพอจะหยวน ๆ ไปได้ก็อยากให้หยวน ๆ ไปนะคะ แต่ถ้าแย่มากจริง ๆ ลาออกคือทางออกที่ดีที่สุดค่ะ ทนทำงานกับสถานที่ Toxic นาน ๆ มันก็ไม่ไหวอะเนอะ เอาล่ะ! ว่าแล้วก็ขอตัวลาทุกคนไปก่อน ไว้กลับมาพบกันในบทความหน้าน้า บ๊ายบายค่ะ


Designer : namoodong

Writer : pumxpurin



บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้