1. SistaCafe
  2. ท่องโลกนิยายไปกับ Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ 2 ฟีลลิ่งในหนึ่งเดียว

ย้อนกลับไปถึงความหวานของนิทานก่อนนอน เทพนิยายเจ้าชายและเจ้าหญิง เชื่อว่าเรื่องราวเหล่านี้ยังคงซ่อนอยู่ในความจำเล็กๆ ของทุกคนใช่ไหมคะ เช่นเดียวกับ

"

Mocking Tales "


คาเฟ่ทองหล่อ

4 แห่งนี้ ที่นำไอเดีย

Fairy tale

หรือเทพนิยายมาเนรมิตเป็นร้านน่านั่ง งานโรแมนติกก็มา งานหรูหราก็มี งานนี้ตามไปมุงกันด่วนนนนนน

!!




สำหรับร้าน

" Mocking Tales "

ตั้งอยู่ในโครงการ

The Maze Thonglor

จัดเป็นอีกหนึ่ง

คาเฟ่ทองหล่อ

ชิคๆ ในย่านกลางเมืองแห่งนี้ค่ะ พูดถึงความเก๋นอกจากการแต่งร้านที่ไม่เหมือนใครแล้ว



เรื่องราวหรือคอนเซ็ปต์ยังน่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะเขาได้หยิบเอาความสวยงามของเทพนิยายมาตีความออกเป็น 2 ด้าน ในแบบ

Daylight Nightlight

คล้ายๆ การ์ตูนดังของดิสนีย์ ที่เดี๋ยวนี้ถูกนำมาสร้างเป็นหนังเพื่อบอกเล่าเรื่องราวฝั่ง Darkside ของตัวร้ายในมุมมองอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่นั่นเองค่ะ




คาเฟ่ทองหล่อไม่ได้มีแค่ร้านเดียวนะ


Day Dessert & Night Bar @ Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ


จากตีมข้างต้นทำให้รูปแบบการเสิร์ฟอาหารของ

" Mocking Tales "

บอกเลยว่ากิ๊บเก๋ไม่เหมือนใครด้วยการนำเสนอแบบ


Day Dessert & Night Bar


ในช่วงเวลากลางวันสาวๆ จะได้มานั่งทานขนมหวาน จิบเครื่องดื่มเบาๆ จำพวกชากาแฟ แบบคาเฟ่ใสๆ แต่พอพระอาทิตย์ตกดินปุ๊บ หลังเวลา 18.00 น. เป็นต้นไป

Mocking Tales

จะแปลงร่างเป็นบาร์ค็อกเทลให้นั่งดริ๊งก์ชิลล์ๆ กลายเป็นอีกฟีลลิ่งหนึ่งไปเลยล่ะขอบอก



นอกจากนั้นแล้ว มาที่ร้านนี้ไม่ต้องกลัวเบื่อ เพราะทางร้านจะหมุนเวียนเปลี่ยนตีมตกแต่งร้าน รวมไปถึงเมนูอาหารเป็น

chapter

แบ่งออกเป็น

3 chapter

ต่อปี โดยนำ Fairy Tale เรื่องต่างๆ มาเป็นแรงบันดาลใจ ถ้าเพื่อนๆ ไปในช่วงนี้จะอยู่ในช่วง chapter

" Under The Sea"

เรื่องราวของใต้ท้องทะเลลึก



แบบนี้เลิกงานก็ไปกินของหวานไม่ทันสิ

ข้อนี้สำหรับสาวๆ วัยทำงานที่ชอบทานของหวานก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะด้วยทำเล

คาเฟ่ทองหล่อ

ทำให้

" Mocking Tales "

ยังคงเสิร์ฟเมนูของหวานยาวไปจนถึงเวลา 22.30 น. เลยจ้า



ทางด้านเมนูขนมของที่นี่จะเป็นเมนูเฉพาะที่คิดขึ้นใหม่ตามคอนเซ็ปต์ร้านหาคาเฟ่ใดมาเหมือนค่ะคุณ แถมยังเป็นเมนูโฮมเมดที่วัตถุดิบใช้ของดีคุณภาพคับแก้ว โดยเฉพาะไอศกรีมที่มีให้เลือกมากกว่า 12 รสชาติ เป็นรสชาติใหม่ที่ทีมเชฟคิดขึ้นมาเองอีกด้วยนะ



ส่วนของหน้าตาเรียกได้ว่าวิลิศมาหรา สวยปังอลังการ มีลูกเล่นในการกินให้ได้ตื่นตาตื่นใจกันทุกเมนูเลยทีเดียวค่ะ มาเริ่มต้นที่เมนูแรกที่เป็นไฮไลท์ ใครมาเป็นอันต้องจัดอย่าง

Inferno Moutain ( 480++ บาท )

ช็อกโกแลตภูเขาไฟที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก

The Lord of The Ring




ช็อกโกแลตรูปทรงภูเขาที่เมื่อราดด้วยเหล้าส้มและจุดไฟ จะละลายกลายเป็นภูเขาไฟลาวาสอดไส้ข้างในไว้ด้วยไอศกรีมโฮมเมด 3 ลูกโตที่สามารถเปลี่ยนรสได้ตามชอบใจ ทานคู่กับบราวนี่แท้ๆ รสชาติเข้มข้น ปิดท้ายด้วยการราดซอสราสเบอร์รี่ผสมเหล้าส้ม จานนี้น่าจะถูกใจสำหรับสายขนมที่ไม่ชอบทานหวานมากได้ดีเลยค่ะ



ไปต่อกันที่เมนูพิเศษใหม่แกะกล่องที่มีแค่ช่วง

chapter" Under The Sea "

นี้เท่านั้น กับ

Sacred Groung under the sea ( 320++ บาท )

วุ้นหยดน้ำที่เสิร์ฟพร้อมไอศกรีม ผลราสเบอร์รี่สด และเค้กราสเบอร์รี่ จัดแต่งให้มีความคล้ายปะการังใต้ท้องทะเล



แถมยังมีความว้าวตรงที่ส่วนของวุ้นหยดน้ำจะสามารถเรืองแสงได้เมื่อกระทบกับแสงไฟ blacklight จากซีเคร็ตเคล็คลับของร้านโดยเฉพาะ เลอค่ามากๆ



กินหนักขนาดนี้เดี๋ยวจะติดคอ ต้องขอจิบเครื่องดื่มสวยๆ ตาม งานนี้

" Mocking Tales "

จัดมาให้ทั้งสายใสและสายเข้ม แก้วแรกกับ

Cookie Mint Monster milk shake ( 175 บาท )

สำหรับใครที่เป็นคอมินต์เลิฟเวอร์ แก้วนี้มีความแนะนำเพราะทำมาจากไอศกรีมมินต์โฮมเมดที่ให้มินต์เต็มๆ หอมสดชื่น



แต่สำหรับสายเข้มคอกาแฟควรลอง

Shining Tropical ( 125 บาท )

เป็นการนำกาแฟมามิกช์เข้ากับผลไม้อย่างเสาวรส ความขมของกาแฟถูกตัดด้วยความเปรี้ยวของเสาวรส ง่วงแค่ไหนจิบทีมีตื่นแน่นอนค่ะ




Castle of Beauty and the Beast @ Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ


ชิมอาหารกันพอหอมปากหอมคอแล้ว กลับมาเดินชมตัวร้านกันสักหน่อย แน่นอนหากขึ้นชื่อว่าเป็น

คาเฟ่ทองหล่อ

ความชิคของร้านย่อมไม่น้อยหน้ากัน เช่นเดียวกับ

" Mocking Tales "

ที่มีในคอนเซ็ปต์เทพนิยายเม้าท์กันไปข้างต้น ทำให้การตกแต่งจงใจให้ออกมาเป็นเหมือนปราสาทโบราณที่ได้แรงบันดาลใจมาจากในเรื่อง

โฉมงามกับเจ้าชายอสูร ( Beauty and the Beast )




ตัวร้านคุมโทนสีดำเป็นหลัก จุดเด่นอยู่ที่การนำ

บานประตูเหล็กยืดโบราณ

มาตกแต่งตามส่วนต่างๆ และที่ขาดไม่ได้คือเหล่าหุ่นเหล็กอัศวินซึ่งทำหน้าที่เหมือนผู้พิทักษ์สถานที่แห่งนี้ แสงไฟสลัวๆ ช่วยเพิ่มบรรยากาศ

กลิ่นอายโกธิค

เหมือนได้หลุดเข้ามานั่งเล่นในปราสาทของเจ้าชายอสูร



โดยแบ่งโซนต่างๆ ให้เหมือนห้องต่างๆ ในปราสาท ไม่ว่าจะเป็น หอคอย ห้องอาหาร ห้องใต้ดิน ห้องปรุงยา ฯลฯ แต่ถ้าเพื่อนๆ มาช่วงกลางคืนแนะนำให้

แมทช์เสื้อผ้าสีขาว

มานะจ๊ะ เพราะแสงไฟ

blacklight

ที่ติดอยู่ทั่วบริเวณร้านจะกระทบให้ดูเรืองแสงได้ ให้อีกบรรยากาศหนึ่งที่ยิ่งสวยขึ้นไปอีก



มีโฉมงามแล้วก็ต้องมีเจ้าชาย

" Mocking Tales "

เขาก็มีเจ้าชายเหมือนกัน งานนี้ไม่ใช่เจ้าชายอสูรนะออกตัวก่อนเลย เพราะชายหนุ่มผู้นี้คือ

พ่อค้าแซ่บ

ประจำร้านซึ่งก็คือคุณเจี้ยน หนึ่งในหุ้นส่วนควบตำแหน่งบาริสต้า ผู้เคยไปวาดลวดลายเชคเครื่องดื่มไกลถึงประเทศออสเตรเลีย เรียกว่ามาคาเฟ่ทองหล่อแห่งนี้มีทั้งอาหารจริงให้อิ่มท้อง และอาหารตาให้อิ่มใจ สาวๆ นั่งทั้งวันไม่มีเบื่อ เราลองมาแล้วยู้วววว :P




เอาเป็นว่าใครเป็นสายไหนก็เลือกมาตามเวลาที่ถูกใจได้เลย เพิ่มเติมอีกนิดสำหรับ

ในทุกๆ วัน พุธ-ศุกร์ ทางร้านเขาก็มีดนตรีสดมาเล่นด้วยนะ


หากอยากจะมานั่งชิลล์จิบแอลกอฮอล์ฟังดนตรีดีๆ ก็ดูเป็นตัวเลือกที่เข้าท่าไม่น้อย งานนี้

Sista

Cafe

ขอปักหมุดแรงๆ หนึ่งทียกให้


" Mocking Tales "


เป็นอีกหนึ่ง

คาเฟ่ทองหล่อ

ที่ไม่ควรพลาด!!



วันนี้เราต้องขอตัวไปก่อนแล้วล่ะ แล้วพบกันใหม่คราวหน้าค่ะ N.



เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้