ปรับนิดเพื่อโลก 🌏 มัดรวม 7 วิธี' รักษ์โลก ' ฉบับสายบิวตี้ ง่าย ๆ อีซี่ ใคร ๆ ก็ทำได้

เคยไหมคะ? ที่ซื้อเครื่องสำอางไม่หยุด พอซื้อมาเยอะเกินก็ใช้ไม่หมดคิดว่าสายบิวตี้หลาย ๆ คนต้องประสบพบเจอปัญหานี้แน่นอนเลยแหละเนอะ โดยเฉพาะกับเจ้าลิปสติกสีสวย ๆ ที่เห็นแล้วหัวใจมันสั่น มันอยากได้ อยากสอยมาทาให้ปากสวยฉ่ำ แต่สุดท้ายก็ดั๊นติดใช้ลิปสติกกันตายของตัวเองอยู่ดี สรุปลิปสติกที่ซื้อมาก็ใช้ไม่หมด จากลิปสติกสวย ๆ ก็กลายเป็นขยะซะงั้น นี่แหละค่ะ... นี่เป็นอีกหนึ่งต้นตอที่เราสร้างขยะโดยไม่รู้ตัว แถมยังทำร้ายโลกอีกด้วย วันนี้เราก็เลยอยากจะมาชวนทุกคนที่เป็นสายบิวตี้มาช่วยกันรักษ์โลกกันให้มากขึ้น ด้วยการปรับพฤติกรรมอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ซึ่งวิธีทำก็ไม่ยากเลย ทุกคนสามารถทำได้แน่นอนว่าแต่... พร้อมรึยังเอ่ย? ถ้าพร้อมไปรักษ์โลกแล้ว ก็ตามมาเล้ย ♥

❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀

♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦

7 ฮาวทูรักษ์โลกแบบสายบิวตี้ ทำได้ง่าย ๆ ไม่ต้องเสียเงิน

♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦

ซื้อเท่าที่จำเป็น

เปิดกันด้วยข้อนี้เลยจ้า เชื่อว่าหลายคนติดนิสัยอ่านรีวิวก่อนซื้อของกันใช่ไหมล่ะคะ ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์ เครื่องสำอาง ของใช้ต่าง ๆ นานา เห็นใครบอกอันนี้ดี อันนี้โดนก็แห่ไปซื้อตามที่รีวิวไปซะหมดจนสุดท้ายของก็เต็มบ้าน ใช้ไม่ทันบางคนก็ทยอยให้คนรู้จักเอาไปใช้แล้วแต่ก็ยังเหลืออีกเต็มบ้าน เราก็เลยเสนอวิธีการซื้อแค่เท่าที่จำเป็นนั่นเองค่ะการซื้อแค่ที่จำเป็น แค่ที่ใช้จะทำให้เราใช้มันได้คุ้มค่าที่สุดถ้าใช้ไปจนมันหมดอายุแต่ของชิ้นนั้นมันยังไม่หมด ก็ยังดีกว่ามีหลายชิ้นแต่เหลือเต็มขวดถูกม้า โดยเฉพาะกับลิปสติก เชื่อว่าหลาย ๆ คนมีปัญหานี้แน่นอน ซื้อลิปจนเต็มโต๊ะเครื่องแป้งไปหมด แนะนำว่าเอาแค่ที่ชอบที่ใช้แค่สัก 1 - 3 แท่งก็พอค่ะ ถ้าเกินจากนี้คือต้องหักห้ามใจแล้วน้า :-D

ค่อย ๆ ใช้ทีละนิด

ค่อย ๆ ใช้ที่ว่าคือกดหรือบีบออกมาทีละน้อย ๆ นั่นเองค่ะ คือหลายคนชอบกดแบบสุดปั๊ม แล้วผลิตภัณฑ์ก็จะออกมาเยอะจนเหลือเต็มไปหมดสุดท้ายก็ต้องทิ้งส่วนที่เกินออกไป ทำแบบนี้บ่อย ๆ แล้วสุดท้ายของมันก็จะหมดเร็วจนต้องซื้อใหม่ ขยะก็จะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชิ้นจากที่ 1 ขวดใช้ได้ 1 ปี อาจจะเป็น 2 ขวดต่อปีก็ได้ ดังนั้นเนี่ยถ้าจะใช้ก็ค่อย ๆ บีบ ค่อย ๆ กดออกมาทีละน้อย ๆ ก่อนนะคะ ถ้าไม่พอค่อย ๆ กดเพิ่ม อย่ากดจนสุดปั๊มตั้งแต่ครั้งแรก ให้ลองทีละนิดก่อน ถ้ารู้ว่าเราใช้ประมาณ 1 ปั๊มจริง ๆ ก็ค่อยกดจนสุดในครั้งต่อ ๆ ไป เห็นไหมคะว่าแค่ปรับพฤติกรรมนิดเดียว ก็ช่วยลดขยะ แถมยังประหยัดขึ้นด้วยนะ :-D

เลือกใช้คลีนซิ่งบาล์มหรือคลีนซิ่งออยล์แทน

คลีนซิ่งแบบน้ำไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะคะ มันก็ดีเหมือนกัน เพียงแต่ว่าในการใช้ทุก ๆ ครั้งมันจะต้องมีสำลีในการใช้แล้วทิ้ง ทำให้เกิดการสร้างขยะเพิ่มขึ้น ถ้าใครอยากใช้คลีนซิ่งแบบน้ำจริง ๆ แนะนำให้หาแบรนด์ที่เขาทำสำลีแบบรีไซเคิลดูนะคะ ก็คือสำลีนั้นจะซักแล้วใช้ซ้ำได้ เช็ดสะอาดเหมือนสำลีแบบใช้แล้วทิ้งเลยค่ะ แถมช่วยลดขยะด้วย แต่ถ้าใครไม่สะดวกไปตามล่าหาแบรนด์พวกนี้ก็เลี่ยงมาใช้แบบคลีนซิ่งบาล์มหรือคลีนซิ่งออยล์กันเลย ที่แนะนำเป็น 2 แบบนี้ก็เพราะว่ามันไม่ต้องใช้สำลีในการเช็ดนั่นเองค่ะ แค่เอาผลิตภัณฑ์มาทาบนหน้าแล้วใช้มือนวด ๆ ถู ๆ วน ๆ แป๊บเดียวก็สะอาดหมดจดเหมือนคลีนซิ่งแบบน้ำเลยล่ะค่ะ มันอาจจะเลอะเทอะไปหน่อยเพราะต้องใช้มือ แต่มันก็ช่วยลดขยะได้น้า ใครสนใจอยากช่วยโลกก็ลองเปลี่ยนกันดูนะคะ

หาอุปกรณ์มาใช้ตักผลิตภัณฑ์

หลายคนอ่านแล้วอาจจะงง คือแบบนี้ค่ะ พวกสกินแคร์หรือเครื่องสำอางค์ที่เป็นแบบกระปุกต้องใช้นิ้วเพื่อตักผลิตภัณฑ์ออกมาเนี่ย มันมีความเสี่ยงที่ผลิตภัณฑ์จะเสื่อมได้ไว เพราะนิ้วมือของเราอาจจะมีสิ่งสกปรกติดอยู่ แล้วพอเราเอานิ้วไปตัดขึ้นมาเนี่ยความสกปรกพวกนั้นก็จะติดครีมไปด้วย ครีมหรือเครื่องสำอางพวกนี้ก็อาจจะเสื่อมสภาพได้ง่ายขึ้นแล้วต้องซื้อใหม่ไวขึ้น ดังนั้นเนี่ยให้หาไม้พายเล็ก ๆ ไว้ใช้ตักผลิตภัณฑ์ก่อนใช้ทุกครั้งก็เอาไปล้าง เช็ดให้แห้งแล้วมาตัก แค่นี้ก็ยืดอายุผลิตภัณฑ์บิวตี้ของเราให้อยู่ได้นานจนครบเวลาที่กำหนดแล้วละ

กระปุกหรือขวดที่ใช้หมดแล้วเอามาใช้ใหม่

เครื่องสำอางอาจจะยากสักหน่อย แต่พวกแพ็กเกจสกินแคร์ ทรีตเมนต์บำรุงผมอะไรพวกนี้ จะมีความแข็งแรงสามารถใส่นั่นใส่นี่เพื่อเก็บได้เมื่อใช้หมดแล้วแนะนำว่าให้ล้างแล้วตากให้แห้งหลังจากนั้นเอามาเก็บไว้ก่อนก็ได้ค่ะ วันไหนต้องใช้พวกกระปุกหรือขวดพวกนี้ก็จะได้ไม่ต้องไปหาซื้อ ถ้าใครนึกไม่ออกว่าจะเอาไปใส่อะไร พวกยางมัดผม กิ๊บ ต่างหู สร้อยคอ กำไลพวกนี้เก็บได้หมดเลยค่ะแถมยังทำให้โต๊ะเครื่องแป้งหรือตู้เก็บเครื่องประดับเป็นที่เป็นทางมากขึ้นด้วย หรือใครจะเอาไปใส่พวกอุปกรณ์จุกจิกอย่าง กาวแท่ง สก็อตเทป คลิปหนีบกระดาษก็ได้เหมือนกันนะเออ นอกจากนี้พวกตลับที่มีกระจกก็สามารถเอามาพกใส่กระเป๋าไว้ส่องหน้าในระหว่างวันได้ด้วย เห็นม้า~ แค่ลองเอามาปรับใช้ก็ทำให้ได้ที่ใส่ของเพิ่มขึ้นแล้ว เจ๋งสุดเลยใช่ไหมล่า :-D

เครื่องสำอางหมดอายุให้นำไปบริจาค

เครื่องสำอางถ้าหมดอายุแล้ว ไม่อยากจะทิ้งก็ให้นำไปบริจาคกันได้นะคะ หลายคนอาจจะแบบบริจาคได้ยังไงอะ ก็มันใช้ไม่ได้แล้ว คืออย่างนี้ค่ะ เครื่องสำอางที่หมดอายุแล้วแต่ยังไม่ได้มีสีที่เปลี่ยนไปจนดูใช้งานไม่ได้หรือขึ้นราจนไม่โอเคมาก ๆ ก็นำไปบริจาคทางวัดได้นะคะ เพราะทางวัดเขาจะมีแต่งหน้าศพที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งเขาก็จะเอาเครื่องสำอางที่หมดอายุพวกนี้มาแต่งหน้านั่นเองค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องลองไปถามทางวัดด้วยนะคะว่าเขายังรับบริจาคอยู่ไหม เพราะบางทีเขาก็มีเครื่องสำอางเยอะมากเลยอาจจะไม่ได้รับบริจาคเพิ่มแล้ว และถ้าเป็นแบบนั้น เราก็ต้องมาจัดการทิ้งมัน แต่ ๆอย่าทิ้งแบบโยนลงถังขยะเลยนะคะ ถ้าอยากรู้วิธีทิ้งที่ถูกต้องก็ลงมาดูข้อต่อไปกันเลย

ถ้าจะทิ้งของที่หมดอายุก็ต้องแยกชิ้นส่วนก่อน

จะทิ้งเครื่องสำอางทั้งทีก็ต้องทิ้งแบบรักโลกกันหน่อยค่า อันดับแรกเลยก็คือถ้ายังมีผลิตภัณฑ์เหลือ ก็ให้หาถุงเพื่อเททิ้ง แล้วหลังจากนั้นนำไปล้างให้สะอาดต่อมาก็แยกประเภทอันไหนพลาสติก อันไหนเหล็ก อันไหนแก้ว ถ้าอันไหนแยกชิ้นส่วนได้อีกก็แยกย่อยให้สุดเลยค่ะ พวกตลับแป้ง ตลับบลัชออน สามารถแงะตัวตลับกับอะลูมิเนียมออกจากกันได้นะคะ แล้วหลังจากนั้นค่อยเอาไปใส่ตู้รีไซเคิลหรืออาจจะไปหาที่เขารับซื้อพวกกระดาษหนังสือพิมพ์ พลาสติก แก้วอะไรพวกนี้ก็ได้นะคะ ร้านพวกนี้เขาจะรับซื้อเพื่อไปรีไซเคิลอีกทีนั่นเองใครที่อ่านแล้วยังไม่เห็นภาพก็ลองกดคลิปด้านล่างนี้ไปดูวิธีที่ชัดเจนขึ้นได้นะคะ :-D

❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀

เห็นไหมคะว่าแค่ปรับเปลี่ยนวิธีการใช้แบบง่าย ๆก็สามารถช่วยโลกให้มีขยะน้อยลงได้แล้ว วิธีพวกนี้ก็ไม่ได้ยากในการทำ แต่อาจจะยากในการหักห้ามใจสักหน่อยโดยเฉพาะพวกเครื่องสำอางและสกินแคร์ หลายคนคือเห็นของใหม่ สีใหม่แล้วใจสั่นอยากจะสอยมาครอบครอง แต่ตอนนี้ต้องฮึบเข้าไว้ค่ะ! อย่าให้มันมาครอบงำเราได้เราจะต้องมั่นคง ใช้ที่มีให้หมดก่อน ถ้าไม่จำเป็นต้องใช้ก็ยั้งมือไว้ค่ะ สู้ชีวิตนะคะแต่อย่าให้มันสู้กลับเน้อ ถ้าสู้กลับมันจะวนลูปเดิมคือของเต็มบ้านเน้อ ฮึบไว้ค่ะ!ตอนนี้หมดเวลาแล้วล่ะค่ะบทความหน้าจะมีอะไรดี ๆ มาฝากก็อย่าลืมติดตามด้วยนะคะบ๊ายบายค่า ♥