รวม 'ขั้นตอนการใช้สกินแคร์ (Skincare Routine)' ลดรอยสิวง่ายๆ ใช้เวลาไม่เกิน 7 นาที/วัน!

เซย์ไฮค่าาา สาวซิสSistaCafeสุดเลิฟทุกคน //จริงใจสุดๆ ♡♡♡

วัยรุ่นวัยเรียน หรือสาวออฟฟิศก็เถอะ จะขอหน้าใสกิ๊งเหมือนเน็ตไอดอล ทำไมมันยากเย็นอย่างนี้คะซิส? จะรุ่นนี้ หรือรุ่นแม่ ก็มีเจ้า ' สิว ' มากวนใจตลอด #เพราะฮอร์โมนมันพลุ่งพล่าน

ใครเบาหน่อยก็มีแค่เม็ดสองเม็ดพอกรุบกริบ แต่บางคนก็...เอ่อ นั่นแหละ ดูว่าส่วนไหนไม่มีสิวยังจะง่ายกว่า แงงงง โตแล้วก็ยังทิ้งรอยสิวเอาไว้อีก แล้วเมื่อไหร่หน้าจะเนียนค้า (｡T ω T｡)

ใครเป็นสาวผิวมัน รูขุมขนกว้าง อุดตันง่าย สิวตะปุ่มตะป่ำ เธอไม่ต้องไปกินอาหารแปลกๆ หรืองดอาหารประเภทนม ตามสูตรชวนเชื่อในอินเตอร์เน็ตหรอกค่ะซิสแค่ใช้สกินแคร์ให้ถูกวิธี ตามลำดับขั้นตอนที่ถูกต้อง ก็หน้าเนียนใส กู๊ดบายสิวได้ง่ายๆ

แค่ทำตาม Steps ทั้งหมดในบทความนี้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ทำตั้งแต่เริ่มยันจบ ใช้เวลาไม่เกิน 7 นาที / วันเท่านั้นด้วยน้า!

พร้อมกำจัดสิวออกไปจากชีวิตหรือยัง? เตรียมจดลิสต์สกินแคร์ที่ต้องใช้ แล้วไปค่ะ Let's Go!

** ตอนเช้า **

Step 1 : คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน

ตื่นขึ้นมาตอนเช้า อย่างแรกที่ต้องใช้คงหนีไม่พ้น โฟมล้างหน้า หรือ ' คลีนเซอร์ ' ซึ่งควรเป็นสูตรอ่อนโยนแม้ผิวของสาวๆ อาจจะไม่เซนซิทีฟขนาดนั้น แต่ใช้สูตรอ่อนๆ ไว้ก่อนจะถนอมผิวได้ดีที่สุด และที่สำคัญ ไม่ทำให้ผิวแห้งค่ะซิส!ใช้คลีนเซอร์กำจัดความมันส่วนเกิน ที่ร่างกายผลิตขึ้นระหว่างนอนหลับ นวดวนให้ทั่วใบหน้า แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น 1 รอบ ก่อนจะล้างอีกรอบด้วยน้ำเย็น เพื่อปิดเกล็ดรูขุมขนค่ะ

Step 2: BHA/ กรด Salicylic 2%

หลังจากล้างหน้าสะอาด เช็ดหน้าให้แห้งแล้ว ก็แต้มสิวทันทีด้วย BHA ( Beta Hydroxy Acid ) หรือกรดทางเคมีชนิดหนึ่ง ซึ่งช่วยผลัดเซลล์ผิวหน้า แทรกซึม ทำความสะอาดรูขุมขนได้ดีเยี่ยมเหมาะมากกับสาวๆ ที่รูขุมขนอุดตัน เป็นสิวง่ายค่ะหากเธอเป็นคนผิวระคายเคืองง่าย แนะนำให้ใช้เป็นกรด Salicylic แทน เลือกที่เปอร์เซนต์กรดต่ำๆ ไว้ก่อน ( แพ้ง่าย ใช้แค่ 1% ก็พอ ) ทาบางๆ ให้ทั่วบริเวณที่เป็นสิว**เนื่องจากไอเทมเหล่านี้เป็น ' กรด ' หากใช้เข้มข้นมากๆ จะมีฤทธิ์กัดเนื้อเยื่อ ทำให้ผิวเป็นแผลได้ จึงควรใช้เปอร์เซนต์ต่ำๆ และหยุดใช้หลังรอยสิวจางลง อย่าใช้ต่อเนื่องนานเกินไป จะทำให้ผิวบาง ระคายเคืองได้ค่ะ

Step 3 : มอยส์เจอไรเซอร์ / ครีมกันแดดที่มี SPF เหมาะสม

มาค่ะ แต้มสิวแล้ว ก็ต้องบำรุงผิวต่อ จะเลี่ยงการทาครีมไม่ได้! แม้สาวๆ บางคนจะขยาดครีมบำรุง กลัวแพ้ กลัวสิวเห่อกว่าเดิม แต่ความจริง ยิ่งไม่ทา สิวจะยิ่งขึ้นด้วยซ้ำ! เพียงแต่ต้องเลือกใช้ให้ถูกประเภทเท่านั้นโดยมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับคนเป็นสิว ควรเลือกชนิดเจลครีม ( Gel Cream )เนื้อแบบนี้จะบางๆ แต่ไม่เหลวเป็นน้ำ ไม่ทำให้หนักหน้า หรือมีสิวอุดตัน ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำทั้งวันครีมกันแดด ให้เลือกชนิดเจล หรือโลชั่นที่มีค่า SPF เหมาะสม ( แดดบ้านเรา แนะนำเป็น SPF50 ไปเลย )เพื่อป้องกันผิวบริเวณสิวอักเสบ ผิวไหม้ ผิวด่าง และมะเร็งผิวหนัง ดังนั้นห้ามลืมทา สำคัญสุดๆ!ปล. ถ้าขี้เกียจทาหลายตัว ผสมมอยส์เจอไรเซอร์กับครีมกันแดดรวมกัน แล้วทาหน้าไปเลยก็ได้ค่ะ เท่านี้ก็ออกจากบ้านได้แล้ว!

** ก่อนนอน **

Step 1 : เมคอัพรีมูฟเวอร์ ( แบบครีม แผ่นเช็ด หรือออยล์ )

หลังจากใช้ชีวิตข้างนอกมาทั้งวัน ก็ได้เวลาล้างเมคอัพ สิ่งสกปรกออกจากหน้าแล้ว! ขั้นตอนแรกให้ใช้ ' เมคอัพรีมูฟเวอร์ ' เช็ดเครื่องสำอางออกให้หมดก่อนซึ่งเดี๋ยวนี้เขาก็มีให้เลือกหลายแบบ ทั้งแผ่นเช็ด ( Wipes ), บาล์ม, ครีม หรือออยล์ ก็เลือกที่เหมาะกับสภาพผิวหน้าของตัวเอง *ไม่ต้องกลัวใช้ออยล์แล้วจะผิวมัน เพราะต้องล้างโฟมออกอีกรอบอยู่ดี*ถ้าสาวๆ ผิวแพ้ง่าย แนะนำให้ใช้ ' Micellar Water ' เพราะมีลักษณะเป็นน้ำใสๆ แต่ไม่ผสมแอลกอฮอล์ ช่วยดึงสิ่งสกปรกออกมาได้อย่างหมดจด เป็นทั้งรีมูฟเวอร์และคลีนเซอร์ในตัวด้วยนะ*หากแต่งตาจัดๆ ควรใช้ Eye&Lip Remover แยกกับรีมูฟเวอร์ส่วนผิวหน้า เพราะยี่ห้อส่วนใหญ่ที่เคลมว่าใช้กับตาและปากได้ มักต้องถูแรง ใช้เวลานาน ใช้บ่อยผิวตาจะเหี่ยวได้ ควรใช้แบบเฉพาะไปเลยจะดีกว่าค่ะ

รวม 7 Cleansing Oil ตัวเด็ด!! เช็ดเครื่องสำอางหมดจรด หน้าเด้ง ไม่แห้งตึงhttps://sistacafe.com/summaries/42404

Step 2 : คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน + คุณสมบัติ 'ล้างเมคอัพไปด้วยในตัว'

ไม่ว่าจะใช้รีมูฟเวอร์ยี่ห้อดีเลิศ ขวดละหลายพัน เช็ดหลายรอบขนาดไหน ก็ต้องล้างด้วยโฟมอีกรอบนะ! เพราะรีมูฟเวอร์ไม่สามารถเช็ดให้หน้าสะอาดได้ 100%ควรเลือกเป็นคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน เหมือนกับตอนเช้านั่นแหละ แต่เพิ่มคุณสมบัติ ' เป็นรีมูฟเวอร์ในตัว ' ไปด้วย 2in1 ไปอีก!เลือกยี่ห้อไหนก็ได้ ที่ช่วยทำให้หน้าสะอาด แต่ไม่แห้งตึง ไม่ใส่สารเคมี น้ำหอม สี เพื่อให้การล้างหน้ามีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่เกิดสิวเพิ่มค่ะ

Step 3: BHA / กรด Salicylic

สำหรับคนเป็นสิว ก็ต้องแต้มยาทั้งเช้าและเย็นค่ะ! หลังล้างหน้าเสร็จ ก็แต้มสิวต่อด้วย BHA หรือกรด Salicylic อีกรอบ โดยแต้มบางๆ บริเวณที่เป็นสิวถ้าผิวปกติก็แต้มแบบ 2% ถ้าผิวอ่อนแอ ก็เอาแบบ 1% พออย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า BHA จะช่วยผลัดเซลล์ผิว แต่ฤทธิ์ก็ค่อนข้างแรง จึงไม่ควรใช้ต่อเนื่องนะจ๊ะ รอยสิวหายก็หยุดทาได้เลย

Step 4: AHA/ กรด Glycolic หรือ กรด Lactic

แต้ม BHA แล้ว ก็ตามด้วยกรด AHA ต่อ! AHA ( Alpha Hydroxy Acid ) เป็นกรดผลไม้ หรือสารสกัดจากธรรมชาติที่มีฤทธิ์เป็นกรด ช่วยปรับโครงสร้างผิวชั้นนอกใหม่ลอกเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออก กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดรอยสิว จุดด่างดำ ป้องกันการเกิดสิวใหม่ สาวๆ ที่ใช้ต่อเนื่อง จึงมีผิวสวย กระจ่างใสนั่นเองในสกินแคร์ตามท้องตลาดทั่วไป จะมี AHA สองชนิด คือกรด Lactic จากนมเปรี้ยว และกรด Glycolic จากอ้อย หากไม่ชัวร์ว่าเราควรใช้กรด AHA แบบไหน ก็ลองปรึกษาแพทย์ผิวหนังจะดีที่สุดนะคะ ^ ^

Step 5: มอยส์เจอไรเซอร์ / ออยล์ทาหน้าก่อนนอน

ขั้นตอนสุดท้าย ทาครีมก่อนนอน! เนื่องจากเราจะหลับแล้ว ไม่ต้องออกไปเจอแดดข้างนอก จึงควรเลือกครีมที่มีเนื้อเข้มข้นขึ้นสักหน่อย เพื่อให้บำรุงผิวได้อย่างเต็มที่โดยไม่ควรเลือกซื้อตามคนอื่น หรือคิดว่ายี่ห้อแพงๆ จะดีเสมอไป ต้องลองใช้กับตัวเองเท่านั้น เพราะผิวหน้าแต่ละคนแตกต่างกันไป ( ถ้ากลัวหน้าจะแพ้ ก็ลองเทสต์กับท้องแขนก่อนเนอะ )ถ้าเป็นสาวผิวมัน ทาเจลครีม หรือครีมก็พอ แต่ถ้าเธอผิวแห้ง ก็ควรเพิ่มขั้นตอน ' ออยล์ ' ลงไปด้วยทดสอบอาการแพ้ที่สันกราม หรือข้างแก้ม คาง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของหน้าก่อน ถ้าไม่แพ้ ค่อยทาได้ตามปกติ เป็นอันจบ Skincare Routine อย่างสมบูรณ์ค่ะ (*^^*)♡

<< ไอเทมเสริมอื่นๆ ( ถ้าอยากใช้ ) >>

มาส์กหน้า

บางครั้ง ถ้าเราทำกิจกรรมนอกบ้านแบบ Extreme มากๆ เจอแดดเปรี้ยงระดับสิบ หรือต้องการให้ผิวใสสุดๆ เตรียมออกงาน ขั้นตอนดูแลผิวทั่วไปอาจไม่พอ ต้องใช้ ' มาส์กหน้า ' เพิ่มด้วยค่ะ!จะใช้แบบครีมพอก, แบบลอกออก ( Peel Off ) หรือแบบแผ่นก็ได้ตามศรัทธาหากสาวๆ ไม่ค่อยมีเวลามากวนส่วนผสมเอง ก็แนะนำเป็นมาส์กแบบแผ่น ( Sheet Mask ) ใช้ง่าย รวดเร็ว ไม่แพง หาซื้อง่าย มีหลายสูตรให้เลือกวิธีใช้ เพียงแปะมาส์กระหว่างเล่นคอม อ่านหนังสือ ดูทีวีก็ได้ ทิ้งไว้ 15-20 นาทีแล้วลอกออก ผิวก็นุ่มฟู เนียนใสได้อย่างรวดเร็วแล้วล่ะค่า

9 'แบรนด์แผ่นมาส์กหน้า' ดี๊ดี กู้ผิวหน้าดำคล้ำจากแดด ให้กลับมากระจ่างใสอีกครั้งhttps://sistacafe.com/summaries/23791

เซรั่มวิตามิน C

หากต้องการฟื้นบำรุงผิว ที่หมองคล้ำ เจอแดดมาอย่างหนัก ให้ผิวใสออร่าอย่างรวดเร็ว นี่เลยค่ะ ' เซรั่มวิตซี 'ไอเทมเด็ด ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียนเสมอกัน ผิวหมองคล้ำน้อยลง ป้องกันริ้วรอย ตีนกาต่างๆ ได้ระดับหนึ่ง ( แค่จางลง ไม่ถึงกับหน้าตึงเปรี๊ยะนะ! แบบนั้นไปโบท็อกซ์ดีกว่า -_- )วิธีใช แค่ทาบางๆ ให้ทั่วผิวหน้าหลังทาครีมบำรุง แนะนำให้ทาแค่ 1 ครั้งต่อวัน คือก่อนนอน หากทาเยอะเกินไป กรดวิตามินซีจะทำให้ผิวระคายเคืองง่าย และผิวบางกว่าปกติ ทาแต่พอดีๆ ก็พอ

----------------------------------

อยากหน้าเนียนใส ก็จะต้องมี Skincare Routine หรือขั้นตอนดูแลผิวประมาณนี้แหละค่ะซิส เป็นไง ง่ายมะ //ส่งสายตาวิ้งๆ  ♡ ～('▽^人)  สำหรับสาวๆ ที่ไม่เคยบำรุงผิวมาก่อน อาจจะมองว่าเยอะ จุกจิก แต่ที่จริง แยกเป็นตอนเช้า 3 ขั้นตอน ก่อนนอนอีก 5 ขั้นตอน เองนะ แค่ทาตามที่บอก Step ละไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเด้อ ทำไปเรื่อยๆ ก็จะชินไปเอง ^___^ #อยากผิวใสก็ต้องทนนิดนึง

วันนี้เราก็ขอตัวลาไปก่อน ยังมีสกินแคร์หลายตัว ที่เราต้องไปหาซื้อมาเพิ่มในกรุ  ขาดแคลนครีมเวอร์ ;_; แล้วเจอกันน้า ซียูค่าา

----------------------------------

Cr. An Easy Skincare Routine That’ll Banish Acne In Less Than Seven Minutes A Day [gurl.com]http://www.gurl.com/2017/02/01/an-easy-skincare-routine-thatll-bannish-acne-in-less-than-7-minutes-a-day/