สวัสดีค่าสาว ๆ
SistaCafe
วันนี้ขอชวนสาว ๆ มาเข้าครัวกันสักหน่อยดีกว่า ซึ่งเมนูนี้เหมาะกับสาว ๆ ที่ชอบทานขนมหวาน โดยเฉพาะช็อกโกแลตมาก ๆ เลยค่ะ ซึ่งถ้าจะให้พูดถึงแบรนด์ที่เป็นที่นิยมเวลาไปเที่ยวญี่ปุ่นล่ะก็ ใครหลายคนอาจจะเคย ได้ยิน หรือเคยลองชิมช็อกโกแลตญี่ปุ่น ที่เรียกกันว่า
Nama Chocolate ( 生チョコレート )
แน่นอนเลย เพราะมักจะเป็น รายการของขวัญ ของฝากยอดนิยมที่จะซื้อกลับบ้าน จากญี่ปุ่นใช่ไหมล่ะคะซิส
>///<
Nama Chocolate นั้น มีจุดเด่นทั้งความเรียบเนียนของเนื้อช็อกโกแลตที่ทานแล้วละลายในปาก เลยทำให้เพื่อน ๆ ติดใจ และชอบทานกันซึ่งจริง ๆ แล้วเราไม่จำเป็นต้องบินไปญี่ปุ่นเพื่อไปซื้อมาทานอีกต่อไปแล้วค่ะ เพราะเรานั้นสามารถทำทานกันเองได้ง่าย ๆ แถมส่วนผสมก็ไม่ได้ยุ่งยากเลยด้วย
นามะช็อกโกแลต คืออะไร ?
นามา ( 生, ออกเสียง [na-ma] ) หมายถึง ดิบ หรือ สดในภาษาญี่ปุ่น
ช็อกโกแลตชื่อ " นามะ " เลยหมายถึง การใช้ ช็อกโกแลต และครีมที่สดใหม่ เนื่องจากในนามะช็อกโกแลตนั้น มีการใช้ครีมสด เมื่อทำเสร็จแล้วจึงควรเก็บไว้ในตู้เย็น และควรทานให้หมดภายใน 4 วัน แต่จริง ๆ แล้วถ้าต้องการเก็บจริง ๆ เราสามารถแช่แข็งในตู้เย็น แล้วเก็บได้นานถึงหนึ่งเดือนเลยทีเดียว
เคล็ดลับ การทำ Nama Chocolate
1. ใช้ช็อกโกแลตที่มีคุณภาพ
ช็อกโกแลตที่ดี มีคุณภาพเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ สำหรับการทำ นามะช็อกโกแลตจริงๆ ค่ะ เนื่องจากเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดสำหรับการทำช็อกโกแลตที่แสนอร่อยนี้ ดังนั้นควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าช็อกโกแลตที่จะใช้ ทำจากเนยโกโก้ 100% และ ไม่ใช้ไขมันพืชเป็นส่วนผสมด้วย
2. ใช้ Heavy Cream หรือ whipping cream
Heavy Cream คือ ครีมหนาแบบอเมริกัน ( มีไขมัน 36% -38 ) ( มีไขมัน 30% ) ส่วน whipping cream ( มีไขมัน 30% ) ซึ่งทั้งสองตัวนี้ใช้แทนกันได้ โดยสัดส่วนการใช้ ควรเป็น 1: 2 ( ครีม 1 ส่วน ต่อ ดาร์กช็อกโกแลต 2 ส่วน )
3. ใช้ภาชนะที่แห้ง และสะอาด
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าชาม และช้อนส้อมที่เราใช้นั้นแห้งสนิท แม้แต่น้ำ หรือ ไอน้ำจำนวนเล็กน้อยก็สามารถ “ จับ ” กระบวนการละลายช็อกโกแลต ในขั้นตอนการทำของเราได้ อาจจะทำให้ช็อกโกแลตจับตัวเป็นก้อน และหยาบได้
วันนี้เราเลยมี
วิธีการทำ Nama Chocolate ที่แกะสูตรมากจาก ROYCE’ มาบอกเพื่อน ๆ กัน
จะมีวิธีทำที่ง่าย ไม่ซับซ้อน แถมจะอร่อยขนาดไหนนั้น เรามาดูกันเลยค่ะ
^///^
ส่วนผสม
1. ดาร์กช็อกโกแลตคุณภาพดี 400 กรัม ( มีส่วนผสมของ 70% โกโก้ แบบ Semisweet )2. ครีม ( วิปปิ้ง ) หนัก 200 มล. ( ไขมัน 38% ) ( ใช้ ¾ถ้วย + 1 ช้อนโต๊ะ )
3. บรั่นดี1 ช้อนโต๊ะ ( ปรับแต่งได้ตามที่ต้องการ )
4. ผงโกโก้แบบไม่หวาน
ขั้นตอนการทำ
1. ค่อย ๆ หั่นและสับ ดาร์กช็อกโกแลตเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อให้ช็อกโกแลตละลายได้เร็วขึ้น และเป็นเนื้อเดียวกันมากขึ้น จากนั้นใส่ช็อกโกแลตลงในภาชนะที่เตรียมไว้
2. จัดเรียงถาด 8 "x 8" ด้วยกระดาษไข โดยการเลือกถาดขนาดที่เหมาะสมนั้น เป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสูงของช็อกโกแลตเมื่อทำเสร็จแล้วด้วย ใครที่อยากได้นามะช็อกโกแลตก้อนใหญ่ ๆ หนา ๆ ก็ให้ใช้ถาดที่มีความสูงเพิ่มมากขึ้นได้เลย
3. เทวิปปิ้งครีมลงในหม้อขนาดเล็ก แล้วนำไปต้มให้เดือดในไฟที่ร้อนระดับปานกลาง ตรวจสอบให้มั่นใจด้วย ว่าความร้อนได้กระจายอย่างทั่วถึงนะคะ
4. ค่อย ๆ คนวิปปิ้งครีมให้เป็นเนื้อเดียวกัน และ หากเห็นฟองเล็ก ๆ รอบ ๆ หม้อต้ม ให้ใช้ช้อนตักนำออกจากหม้อ
5. จากนั้นเทช็อกโกแลตที่เตรียมไว้ ลงในวิปปิ้งครีมที่อุ่นอยู่ และคนให้เข้ากัน โดยใช้ไม้พายซิลิโคน
6. คนต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ช็อกโกแลต และวิปปิ้งครีมเป็นเนื้อเดียวกัน โดยที่ไม่มีเนื้อช็อกโกแลตจับตัวกันเป็นก้อน
7. ใครที่ต้องการเพิ่มกลิ่น ก็ใส่บรั่นดีลงไปเลย
8. เทส่วนผสมลงในถาดอบที่เตรียมไว้ และทำให้พื้นผิวของช็อกโกแลตเรียบด้วยการค่อย ๆ เกลี่ยโดยใช้ไม้พาย
9. เช็คให้แน่ใจว่าช็อกโกแลต ได้กระจายตัว มีผิวที่เรียบเนียนอย่างสม่ำเสมอ จากนั้นนำช็อกโกแลตไปแช่เย็นประมาณ 4-5 ชั่วโมง จนแข็งตัว
หลังจากแช่เย็น 4-5 ชั่วโมง ........
10. เอาช็อกโกแลตออกจากถาด แล้วตัดขอบช็อกโกแลตส่วนเกินรอบ ๆ เพื่อให้ได้สัดส่วนที่ดูดี
11. อุ่นมีดชัดด้วยผ้าขนหนูที่อุ่น ๆ ( ด้วยการแช่น้ำร้อน ) และตัดช็อกโกแลตเป็นเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาด 1 นิ้ว ( อย่าลืมทำความสะอาด และ อุ่นมีดก่อนตัด ในแต่ละครั้งเพื่อให้ตัดได้ง่าย และได้ช็อกโกแลตที่มุมสวยงาม )
12. สุดท้ายโรยผงโกโก้ไว้ด้านบน หรือถ้าใครไม่ถนัด จะหยิบช็อกโกแลตแล้วจุ่มทีละชิ้น ก็ได้เหมือนกัน
13. เราสามารถเสิร์ฟนามะช็อกโกแลตบนจาน หรือ จัดวางในกล่องให้สวยงามเพื่อเป็นของขวัญในวันพิเศษให้กับคนพิเศษก็ได้
และหากเพิ่งนำช็อกโกแลตเพิ่งออกมาจากตู้เย็น แนะนำให้รอประมาณ 5-10 นาทีก่อนเสิร์ฟ เพื่อให้ช็อกโกแลตนุ่มพอ ทานอร่อย ทานแล้วละลายในปาก แทนที่จะเป็นช็อคโกแลตเย็น ๆ แข็ง ๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ กับวิธีการทำNama Chocolate ( นามะช็อกโกแลต, ช็อกโกแลตสด )แบบง่าย ๆ แกะสูตรจากแบรนด์ดังอย่าง ROYCE’ มาให้เพื่อน ๆ กันในวันนี้ เป็นวิธีทำ และมีส่วนผสมที่ไม่ยุ่งยากเลยใช่ไหมล่ะคะ ใครที่กำลังฝึกทำขนมง่าย ๆ หรือหาของขวัญให้คนรู้ใจอยู่ล่ะก็ ลองเอาเมนูนี้ไปทำกันได้นะจ๊ะ
สำหรับวันนี้ต้องขอลากันไปก่อน แล้วเจอกันใหม่ค่า บ๊ายบาย^///^
