มันก็เป็นเรื่องปกติของผู้หญิงเนอะ ที่พอเลยวัย 10 ขวบขึ้นมาแล้ว มันก็อยากจะดูสวยขึ้นมาบ้าง

ช่วงม.ต้น เด็กยุคนี้ก็อาจมีการปะแป้ง ทาปากอะไรเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่จริงๆ ม.ต้น ทาแค่ครีมกันแดดก็พอเชื่อพี่ ผิววัยเยาว์สวยสุดๆ แล้ว อย่าไปเร่งกระบวนการเล้ย อะ อันนั้นก็เป็นเรื่องของเด็ก ม.ต้น

แต่พอหลังม.ปลายขึ้นมา ก็อยากสวยขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา อันนี้ยังไงก็ต้องดิ้นรนกันไป


เมื่อถึงวัยสาว มันก็ต้องอยากให้ใครมาสนใจเป็นธรรมดา

ฉะนั้นตั้งแต่ วัยม. ปลายขึ้นไป จะเป็นช่วงที่ผู้หญิงเริ่มสนใจความสวยความงาม เรียนรู้วิธีการแต่งหน้า

และจะหนักสุดเมื่ออยู่ในวัยทำงาน เป็นสังคมที่เต็มไปด้วยผู้หญิงสวยๆ ฉะนั้นสาวๆ ส่วนใหญ่จึงไม่มีใครอยากจะหน้าสดไปทำงาน

อย่างน้อยก็ต้องแต่งหน้าโทนนู้ดก็ยังดี

ปัญหาอยู่ที่ เราทุกคนไม่ใช่มือโปร

บางคนแต่งเก่งก็โชคดีไป แต่ถ้า

ใครแต่งหน้าไม่เป็น จากที่ควรจะแต่งหน้าให้ดูสวยขึ้น ก็กลายเป็นแต่งหน้าให้พอมีสีเปื้อนหน้าแค่นั้น

บางคนก็กลายเป็นดูตลกไปซะยิ่งกว่าตอนไม่แต่ง

ฉะนั้นก่อนจะแต่งให้ดูสวยได้ก็ต้องมีพื้นฐานสักเล็กน้อยก่อน ซึ่งพื้นฐานที่สาวๆ ควรรู้ ส่วนใหญ่จะไม่รู้ และกลายเป็นทำพลาดไป


แล้วสิ่งที่ผู้หญิงอยากแต่งสวยส่วนใหญ่ชอบทำพลาด จะมีอะไรบ้าง รีบไปดูด่วนๆ เลยจ้า


บอกต่อเพื่อนด้วย! 5 เรื่อง ที่สาวอยากสวย มักทำพลาด


1. รองพื้นผิดเบอร์

รูปภาพ:http://2.bp.blogspot.com/-EnzlUtBq3Yk/TihTNJ_3PRI/AAAAAAAAAIc/gtyuuCTgs-4/s1600/wrong+color.jpg

พื้นฐานการแต่งหน้าที่ดูดี อย่างแรกเลยต้องมาจากผิวที่ดูดี มีมิติ ดังนั้นปัญหาหลักๆ ที่จะทำให้คนเราดูดรอปลงหลังจากแต่งหน้า ก็คือการเลือกรองพื้นผิดเบอร์

หรือหน้าลอย หน้าเทาอย่างที่เรารู้จักกัน ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่นั้นเกิดจากบางคน

อาจจะเลือกสีไม่เป็น ไม่กล้าลองสี หรือที่น่ากลัวที่สุดคือ การสั่งซื้อผ่านอินเตอร์เน็ตโดยยังไม่เคยลอง

บางคนดูรีวิวมาแล้วมโนไปเอง

พอจ่ายตังปุ๊บ ของมาปั๊บ เสียใจปึ๊บ!

อย่างแรกเลยที่ควรทำคือ

การเลือกรองพื้น คอนซีลเลอร์ คอนทัวร์ ควรจะไปเลือกด้วยตัวเอง เพราะสว่างไปก็ลอย คล้ำไปก็ดรอปผิว

ฉะนั้นควรจะได้เฉดสีที่ตรงกับเราที่สุด

ผิวทุกคนไม่เหมือนกันหรอก ผิวขาวก็ยังมีหลายเฉด อย่าเพิ่งเชื่อรีวิวจากเน็ตจนกว่าจะได้ลองเอง

พาเพื่อนที่แต่งหน้าเป็นไปคนหนึ่ง หรือจะให้ BA ช่วยทดลองให้ก็ได้ ไม่ต้องอาย

เสียเวลานิดเดียว คุ้มกับเงินที่เสียไปเยอะแยะ

แถมการช้อปด้วยตัวเองยังทำให้รู้สึกมีความสุข มากกว่าช้อปผ่านเน็ต และที่สำคัญ จะมีสติมากกว่าด้วยจ้า จริงมะ อิอิ


2. ทำไอเทมตลับตกจนผงแตก

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/b9/94/c2/b994c2b04f7ecc64f4145ddf15558893.jpg

ใครเคยทำตลับอายแชโดว์หล่นมั้ย หรือไอเทมอย่างอื่นที่เป็นผงอัดอย่าง บลัชออน หรือไฮไลท์เตอร์

สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นไอเทมที่เราต้องใช้อย่างระมัดระวังทั้งสิ้น เพราะสิ่งเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบตลับ

และถ้าตกแรงๆ ล่ะก็ แตกกระจาย ถึงบางอันจะใช้ได้อยู่ แต่มันก็ไม่สวยแล้วอ้ะ ไม่ฟิน บางอันนี่ถ้าแตกผสมกัน เห็นสีเพี้ยนปุ๊บ อยากจะตีมือตัวเองรัวๆ

แน่นอนว่าหลายคนต้องเคยพลาดทำตกแตกกันมาคนละตลับ สองตลับแล้วแน่ๆ ถึงแม้จะระมัดระวังขนาดไหนแล้วก็ตาม

แต่ไม่เป็นไร ถ้าคุณพลาดก็เสียใจแป๊บเดียวพอ หลังจากนั้นอย่าเพิ่งทิ้ง เพราะมันยังใช้ประยุกต์ต่อได้

ถ้าอายแชโดว์, ไฮไลท์เตอร์ หรือบลัชออนคุณตกแตกเป็นผุยผงล่ะก็

ให้เทผงของมันลงไปในกลอสใส แล้วคุณจะได้ลิปกลอสสีใหม่มาอีกอัน

หรือสองอัน สามอัน แล้วแต่ว่าทำแตกไปกี่อันนะจ๊ะ

ส่วนถ้าอายแชโดว์ของคุณมีหลายสีแล้วแตกพร้อมกัน ก็หาตลับมาใส่ แล้วผสมกันได้เป็นเฉดใหม่อีกแน้...

บอกแล้วว่าเครื่องสำอางถึงพังแล้วก็ยังใช้ได้ อย่าเพิ่งทิ้งนะเอ้อ


3. กลัวแป้งโปร่ง จะไม่โปร่ง เพราะประโคมเยอะเกิน

รูปภาพ:https://www.jcinstitute.com/wp-content/uploads/2016/04/April-Blog-Post-Nicole-Kidman.jpg

หลายๆ คนอาจจะ

กลัวว่าถ้าใช้แป้งโปร่งเยอะเกินไป จะเป็นแบบในภาพดาราฮอลลีวู้ดดังๆ เจอ คือพอเจอแฟลชก็จะเห็นรอยแป้งขาวๆ เต็มไปหมด

โป๊ะซะยิ่งกว่าโป๊ะ แต่จะขอทำความเข้าใจกันอีกซักหน่อยว่า

แป้งโปร่ง ถ้าโปร่งจริง ก็จะยากที่จะสะท้อนแสงออกมาขนาดนั้น เพราะมีส่วนผสมของ luminescence ดังนั้นถ้าใช้แบบไม่พิลึกเกินก็ไม่ต้องกลัวอะไร

วิธีใช้แป้งโปร่งให้ถูกคือ

ใช้เพื่อเซ็ตเครื่องแต่งหน้าทั้งหมดบนหน้าก็ได้ ให้หน้าไม่ดูมัน และที่สำคัญต้องใช้แปรงที่ไว้สำหรับลงแป้งฝุ่นเท่านั้น เพื่อกระจายเนื้อแป้งให้ไม่ไปกองรวมกัน

ในจุดๆ เดียวบนใบหน้า หรือลงในที่ใดที่หนึ่งมากเกินไป  และเคล็ดลับอีกเล็กน้อย

เพื่อไม่ให้หน้าดูแห้งเกินไป อาจจะใช้เซ็ตติ้งเสปรย์ เพื่อให้ลุคดิวอี้ๆ ฉ่ำๆ เล็กน้อยก็ได้เช่นกัน


4. ใช้ลิปไลเนอร์ แค่วาดขอบปาก

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/9f/98/b1/9f98b16c3c5a6138104ea87c10324b52.jpg

ก็ขึ้นชื่อว่า

ลิปไลเนอร์ คนส่วนใหญ่จึงคิดว่าจะทาได้เฉพาะขอบปาก

แต่เดี๋ยวก่อน ลิปไลเนอร์ก็คือลิปสีชนิดหนึ่งนี่แหละ ไม่ใช่เครื่องมือที่ทำให้เราได้รูปปากแบบ Kylie Jenner แบบที่ทุกคนพยายามจะทำกันเท่านั้นนะ เพราะจริงๆ แล้ว

มันคืออาวุธลับที่จะช่วยทำให้ ลิปสติกของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเนื้ออะไร ก็อยู่ได้คงทนตลอดทั้งวันเลยแหละจ้า

ถ้าคุณพยายามจะวาดขอบปากแล้วพบว่าเผลอวาดเกินลงมาบริเวณปาก ก็ไม่ต้องตกใจ

พยายามล้าง หรืออะไรหรอก ปล่อยไว้งั้นแหละ หรือไม่ก็

ทาไปให้ทั่วทั้งปากเลย

เพราะนอกจากจะไม่ได้ทำให้เสียหายอะไรแล้ว

ยังทำให้ลิปสติก และลิปกลอสของคุณคงทนตลอดทั้งวันด้วยนะ

เอาจริงๆ ก็คล้ายๆ อายแชโดว์เบสนี่แหละน้า หลังจากนี้ไปคิดใหม่เลยว่า

ลิปไลเนอร์นี่แหละเป็นเบสสำหรับปากชั้นดีเล้ย


5. ผสมไพรเมอร์ เข้ากับรองพื้น

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/f7/9f/bd/f79fbd63de4c11f5f7928631a7fe8a58.jpg

เวลาเราแต่งหน้า ก็คิดว่าจะต้องเป็นไปตามขั้นตอนแต่ละลำดับ โดยไพรเมอร์จะต้องทาเป็นอย่างแรก เพราะเปรียบเสมือนการเป็นผืนผ้าใบ

ให้รองพื้นได้เกลี่ยได้เนียนๆ แบบไร้ที่ติ และหลังจากนั้นก็ตามด้วยคอนซีลเลอร์ หรืออะไรก็ว่าไป

ก็จริงที่ว่าปกติแล้ว ไพรเมอร์นั้นทำไว้สำหรับทาเพื่อเตรียมผิวให้เนียนก่อนขั้นตอนอื่นๆ แ

ต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะต้องทาเดี่ยวๆ เท่านั้นนี่นะ

เพราะจริงๆ แล้ว

เจ้าไพรเมอร์เนี่ยสามารถผสมกับรองพื้นได้เหมือนกัน

นอกจากจะไม่ได้ผิดกฎธรรมชาติอะไรแล้ว ยังให้ลุคที่ดูเนียน และพร้อมสำหรับการแต่งหน้าในขั้นต่อๆ ไปได้ดีอีกด้วย

ลุคที่คุณได้จะออกมาดูซอฟต์ๆ และดูเป็นธรรมชาติฉะนั้นไม่ต้องคิดมาก ถ้าเผลอผสมไพรเมอร์ไปกับรองพื้นลองทำดูสักครั้งอาจจะชอบลุคแบบนี้กว่าก็เป็นได้นะ


เคล็ดลับบางข้อนี่ถ้าไม่รู้คงเผลอทำไปอีกนานเลยนะเนี่ย

อย่างบลัชออนแตก บางครั้งส่วนที่แตกเป็นผงๆ ก็ทิ้งไป คิดแล้วเสียดายรู้งี้ทำเป็นลิปกลอสก็ดีหรอก สีสวยๆ ทั้งนั้นเลย ><

ถ้าใครไม่อยากให้เพื่อนเปลืองเงินฟรี และถ้าใครอยากให้เพื่อนสวยไปพร้อมๆ กัน รีบแชร์ให้เพื่อนดูเลยเร้ว