“ กลิ่นตัว ” เกิดจากอะไร ? พร้อมแชร์วิธีง่ายๆ ที่ช่วยระงับกลิ่นกายได้จริง 📌

สวัสดีค่าา แวะมาชวนเมาท์เกี่ยวกับเรื่องใกล้ตัวอย่าง“ กลิ่นตัว ”อีกแล้วค่ะ ^^

กลิ่นตัวเรียกได้ว่าเป็นปัญหายอดฮิตที่ทำให้หลายคนกลุ้มใจอยู่ในตอนนี้ เพราะการมีกลิ่นตัวแรงมันทำให้ความมั่นใจลดฮวบนอกจากจะต้องทนดมกลิ่นตัวที่เหม็นๆ ของตัวเองแล้ว ก็ยังแอบกังวลว่าเวลามีคนเดินผ่านหรือมานั่งใกล้ๆ แล้วจะได้กลิ่นเหม็นลอยโชยไปเตะจมูกจนร้องทักเรื่องกลิ่นตัวแรงด้วยนี่สิเราจึงอยากชวนเพื่อนๆ ที่มีปัญหากลิ่นตัวแรงไปหาคำตอบกันว่ากลิ่นตัวเกิดจากอะไรจะได้รู้ลึกถึงต้นตอที่ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และหาวิธีแก้ได้อย่างตรงจุดยังไงล่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ตามไปดูได้เลย

・・・・・・

【 “ กลิ่นตัว ” เกิดจากอะไร ? 】

เพื่อนๆ สังเกตเห็นเหมือนกันรึเปล่าว่า“ กลิ่นตัว ”ของคนเราไม่เหมือนกันนะคะ บางคนอาจมีกลิ่นตัวแรงมากๆ ในขณะที่บางคนแทบจะไม่มีกลิ่นตัวเลย แบบนี้ก็อดสังสัยไม่ได้ว่าตัวการที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวมันมาจากอะไรกันแน่ ?!คำตอบคือกลิ่นตัวเกิดจากการที่เหงื่อและแบคทีเรียมาเจอกันค่ะ โดยผิวหนังของเรามีต่อมเหงื่อที่สำคัญอยู่ 2 ต่อม นั่นก็คือต่อมเอกไครน์ที่ทำหน้าที่ผลิตเหงื่อเพื่อคลายความร้อน เมื่ออุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น และต่อมอะโพไครน์ที่อยู่บริเวณรักแร้ ทำหน้าที่ผลิตของเหลวสีขาวขุ่นออกมา เมื่อเหงื่อสัมผัสกับแบคทีเรียบนผิวหนังก็จะทำให้เกิดกลิ่นตัวขึ้นค่ะ

นอกจากนี้ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่างที่ทำให้กลิ่นตัวแรงด้วยนะ เช่น น้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ ความเครียด การดื่มแอลกอฮอล์ พฤติกรรมการกิน ปัญหาสุขภาพบางอย่าง ฯลฯแล้วถ้าชาวซิสกำลังกลุ้มใจเรื่องกลิ่นตัวและแก้ปัญหานี้ ทางเราก็มีวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยระงับกลิ่นกายมาให้ลองทำตามกันด้วยค่ะ

【 5 วิธีง่ายๆ ที่ช่วยระงับกลิ่นกายได้จริง 】

➀ อาบน้ำวันละ 2 ครั้ง

ขนาดเป็นคนที่เหงื่อไม่ค่อยออกสักเท่าไหร่ หรือกลิ่นตัวไม่แรงมาก แต่ถ้าวันไหนที่ไม่ได้อาบน้ำก็เริ่มได้กลิ่นตุๆ ที่ไม่พึงประสงค์แล้วนะคะ แบบนี้การรักษาความสะอาดของร่างกายจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ สำหรับคนมีกลิ่นตัวโดยควรอาบน้ำวันละ 2 ครั้งเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก คราบเหงื่อ และเชื้อแบคทีเรียตามผิวหนัง ไม่ให้ตกค้างสะสมอยู่บนร่างกาย แล้วสำหรับคนที่กลิ่นตัวแรงมากๆ ก็อาจเลือกใช้สบู่ต้านแบคทีเรียเพื่อช่วยลดปริมาณแบคทีเรียและลดการเกิดกลิ่นตัวได้เลยค่ะ

➁ รักษาความสะอาดบริเวณรักแร้

ร่างกายส่วนที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นๆ ถ้าอยากแก้ปัญหากลิ่นตัวแบบได้ผลก็คือบริเวณรักแร้นี่แหละค่ะ อย่างที่เราบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่าผิวหนังของคนเรามีต่อมอะโพไครน์ที่ทำหน้าที่ผลิตเหงื่อ และบริเวณรักแร้ก็มีต่อมชนิดชนิดนี้อยู่มากเวลาอาบน้ำก็ควรถูสบู่บริเวณรักแร้และล้างตัวให้สะอาดเช็ดตัวให้แห้งหลังอาบน้ำทุกครั้ง นอกจากนี้ก็ควรกำจัดขนบริเวณรักแร้เป็นประจำเพื่อลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียจนทำให้เกิดกลิ่นตัวเหม็นอับด้วยนะคะ

➂ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย

หนึ่งในวิธีช่วยลดปัญหากลิ่นตัวที่ง่ายและสะดวกสุดๆ ก็คือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายค่ะ โดยผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่วางขายทั่วไป มีให้เลือกใช้กันหลายแบบตามความต้องการเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์แบบสเปรย์ แบบสติ๊ก แบบโรลออน แบบครีม ฯลฯซึ่งผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายบางตัวก็อาจช่วยลดการผลิตเหงื่อผลิตภัณฑ์บางตัวอาจช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียหรือผลิตภัณฑ์บางตัวก็มีส่วนผสมของน้ำหอมที่ช่วยเพิ่มความหอมฟุ้งให้ตัวเราได้ค่ะ

แต่เพื่อนๆ ที่เป็นคนผิวแพ้ง่ายและอยากจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่อ่อนโยนต่อผิวใต้วงแขน ก็แนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สารส้มจะดีกว่า อย่างDEOKLEAR Mineral Deodorant - Classic Pureก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกำจัดแบคทีเรียและระงับกลิ่นกายตลอดวัน มีความอ่อนโยนต่อผิวใต้วงแขน เพราะเป็นผลิตภัณฑ์จากสารส้มธรรมชาติ ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและการเจือสีสังเคราะห์จึงหยิบมาใช้ทาบริเวณผิวใต้วงแขนได้ทุกวันแบบไม่ตีกับกลิ่นน้ำหอมที่ใช้ ที่สำคัญผลิตภัณฑ์ตัวนี้ยังแห้งสบาย ไม่เหนอะหนะ และไม่ทิ้งคราบเหลืองไว้บนเสื้อตัวโปรดเหมือนกับโรลออนทั่วไปด้วยค่ะ

➃ สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาดและระบายอากาศได้ดี

ตามมาดูวิธีช่วยระงับกลิ่นตัวที่ทำตามง่ายมากๆ ข้อต่อไปอย่างการสวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาดบ้างดีกว่า ใครเป็นคนที่ขี้เกียจซักผ้า ชอบหยิบชุดเดิมที่ใส่แล้วกลับมาใส่ซ้ำหลายวัน นี่ก็เป็นอาจเป็นตัวการที่ทำให้กลิ่นตัวแรงยิ่งขึ้น เพราะชีวิตประจำวันในแต่ละวันเราต้องทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย อาจมีเหงื่อ สิ่งสกปรก และแบคทีเรียหมักหมมอยู่บนเสื้อผ้าจึงควรขยันซักผ้าบ่อยๆ และใส่เสื้อผ้าที่สะอาดอยู่เสมอที่สำคัญก็ต้องไม่ลืมเลือกใส่เสื้อผ้าที่ช่วยระบายอากาศและเหงื่อได้ดีด้วยค่ะ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าไหม ผ้าลินิน ฯลฯ

➄ หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีกลิ่นแรง

และวิธีระงับกลิ่นกายข้อสุดท้ายก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปรับพฤติกรรมการกินค่ะ นั่นก็เพราะว่าอาหารบางชนิดอาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดกลิ่นตัวได้ไม่ว่าจะเป็นอาหารรสจัด หรืออาหารที่มีกลิ่นแรงเช่น กระเทียม หัวหอม ผงกระหรี่ เครื่องเทศต่างๆ ฯลฯ เพราะเวลาที่เรากินอาหารเหล่านี้เข้าไปมากๆ ก็อาจซึมออกมาทางรูขุมขนจนทำให้เหงื่อมีกลิ่นและกลิ่นตัวแรงได้ ดังนั้น ถ้าลองสังเกตแล้วพบว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่กินอาหารเหล่านี้แล้วกลิ่นตัวแรงขึ้น ก็ควรหลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณการกินให้น้อยลงค่ะ

・・・・・・

คราวนี้ชาวซิสก็คงได้คำตอบแล้วนะว่า“ กลิ่นตัว ”ที่คอยกวนใจและทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ มันมีสาเหตุเกิดจากอะไรได้บ้างแล้วถ้าอยากจะกำจัดกลิ่นตัวให้หายไป ก็ต้องขยันรักษาความสะอาดของร่างกายด้วยการอาบน้ำและดูแลผิวใต้วงแขนอย่างสม่ำเสมอ สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด หลีกเลี่ยงอาหารกลิ่นแรง รวมทั้งเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายมาเป็นตัวช่วยลดเหงื่อและดับกลิ่นใครทำตามที่เราแนะนำไปได้ครบทุกข้อ ก็จะช่วยลดปัญหากลิ่นตัวและเรียกคืนความมั่นใจกลับมาได้แน่นอนค่าา ♥

Cr. กลิ่นตัว เรื่องใหญ่ใกล้ตัวhttps://bit.ly/3FB4dp1

Cr. กลิ่นตัวคืออะไรและจัดการได้อย่างไรhttps://bit.ly/3hcfUcj