6 สิ่งที่ควรรู้ เมื่อเพื่อนสนิท 'มีแฟน'
การที่เพื่อนเปลี่ยนสถานะ ไม่ได้แปลว่าเพื่อนจะเปลี่ยนไปหรอกนะเธอจ๋า
เผยแพร่: 22 พ.ย. 2558 09:00 น.
Views: 21,350
รหัสบทความ: 4648
มิตรภาพของผู้หญิงมักเหนียวแน่นกว่าผู้ชายเสมอ อาจจะเพราะผู้หญิงเราโดยธรรมชาติเป็นเพศที่อ่อนไหวง่าย ต้องการคนที่เข้าใจกันอยู่ด้วยกันตลอด เราจึงมักจะเห็นเพื่อนกันไปส่งกันเข้าห้องน้ำ เพื่อนสาวกันจับกลุ่มกันเม้าท์แม้กระทั่งเรื่องไร้สาระ อะไรก็ตามที่เป็นเรื่องรื่นเริงบันเทิงใจ ถ้าเกิดเป็นหญิง ก็ต้องมีเพื่อนหญิงไว้ซัพพอร์ทกันเยอะๆ นี่แหละดี
แต่.. ถ้าวันหนึ่ง เพื่อนเราไปมีแฟน ดูเหมือนว่าเธอจะมีเวลาให้เพื่อนน้อยลง ทำอะไรด้วยกันน้อยลงใช่มั้ย ?เคยคิดรึเปล่าว่าเพื่อนเราเปลี่ยนไปจริงๆ หรือเราคิดมากไปเอง ?
มาฟังความในใจของคนมีแฟน นี่คือสิ่งที่พวกเธออยากบอก แต่ก็ไม่กล้าบอกกันตรงๆ
#1 เมื่อฉันมีแฟน ไม่ได้แปลว่าฉันไม่สนใจเพื่อนนะ
การที่ฉันมีแฟน นั่นก็หมายความว่า ฉันมีอีกชีวิตเข้ามาในชีวิตฉัน หรือจะให้อธิบายไปอีกก็คือ' ฉันมีอีกคนที่ต้องแบ่งเวลาและความสนใจให้ 'นอกเหนือจากครอบครัว เพื่อน และความสัมพันธ์อื่นๆ
ฉันยังรักพวกเธออยู่นะ เพียงแต่เมื่อมีอีกคนเข้ามา ฉันก็ต้องเฉลี่ยความสำคัญให้ทั่วถึงเท่านั้นเอง ฉันรู้ดีว่าเพื่อนกับแฟนมันแทนกันไม่ได้หรอก แต่เธอก็น่าจะเข้าใจฉันด้วยนะว่า ฉันมีร่างเดียว ... ขอเวลาส่วนตัวกันนิดนึงจ้ะเพื่อนสาว : )
#2 อย่าให้ฉันเลือกระหว่าง ' เพื่อน ' กับ ' แฟน '
เมื่อใดก็ตามที่เธอยื่นคำขาดว่าจะเลือกใคร ระหว่างเพื่อนกับแฟน? เลือกได้อย่างเดียวเท่านั้น! นอกจากจะเป็นการดูถูกตัวเธอเองว่าตัวเธอยังมีความคิดเป็นเด็กๆ มันยังเป็นการดูถูกฉันด้วยว่า' ฉันไม่รู้จักลำดับความสำคัญของแต่ละความสัมพันธ์เอาเสียเลย '
เธอจ๋า ฉันยังย้ำอีกทีนะว่าความสัมพันธ์แบบเพื่อน และความสัมพันธ์แบบแฟน มันก็สำคัญคนละสไตล์กัน ทดแทนกันไม่ได้ อย่าเอาเหตุผลว่าเพราะเธอมาก่อนแฟน เธอจึงมีสิทธิมากกว่าแฟน การรู้จักกันนาน บางครั้งไม่ได้แปลว่ารู้จักกันดี และความรักมันก็เป็นเรื่องของคนสองคนนะเธอ
ถ้ายังรักฉันจริง ให้โอกาสฉันได้เรียนรู้ความรักด้วยตัวเองเถอะนะ ฉันขอบใจมากในความหวังดีของเธอหลายอย่าง ไว้ถ้าฉันไม่ไหว เดี๋ยวฉันจะขอความช่วยเหลือจากเธอเองน่ะ : ))
#3 การที่ฉันเล่าให้เธอฟัง มันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะเธอ
ไม่ว่าฉันจะชื่นชม หรือทุกข์ระทมเป็นอย่างมากแล้วมาเล่าให้เธอฟัง ฉันก็แค่อยากได้พื้นที่ที่อบอุ่น ไว้ใจได้ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ' ฉันไว้ใจเธอนะว่าเธอจะไม่บอกใคร ฉันถึงกล้าเปิดปากเล่าให้เธอฟัง 'อย่าให้ฉันรู้สึกเสียใจด้วยการที่เธอนำไปเล่าต่ออย่างสนุกปากเลยนะเธอ เรื่องความรักมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซีเรียสมาก ฉันไม่ได้ต้องการจะเป็นขี้ปากใคร และเรื่องส่วนตัวของฉันก็ไม่ใช่เรื่องสนุกของคนอื่นด้วยนะเธอ
#4 อย่าเกรงใจที่จะขอความช่วยเหลือฉัน เมื่อฉันมีแฟนแล้ว
ไม่ใช่ทุกคนที่มีแฟนแล้วจะติดแฟนมาก ฉันก็ยังเป็นฉันคนเดิมที่ยังรักในทุกความสัมพันธ์ ถ้าเธอเดือดร้อนเมื่อไหร่ ฉันยังเป็นเพื่อนเธอที่ขอความช่วยเหลือได้นะ แฟนฉันเข้าใจดีอยู่แล้ว ( แต่สะดวกแค่ไหนฉันจะประเมินเองอีกที ) อย่าเหินห่างกันเพียงแค่เข้าใจไปเองว่าฉันมีแฟนแล้วจะไม่แคร์เพื่อนเลยนะ
#5 อย่าเอาฉันไปเทียบกับคนอื่น
ความรักของฉันก็เป็นแบบของฉัน ความรักของคนอื่นก็เป็นแบบคนอื่น ถึงแม้ว่าทุกคนจะมีสิทธิรัก มีสิทธิจะมีแฟน แต่ก็ไม่ได้แปลว่ารายละเอียดของแต่ละคู่จะเหมือนกันหมดหรอกเธอ อย่าเพิ่งด่วนตัดสินเลยเพื่อนรัก ว่าฉันจะต้องเป็นแบบคู่ไหน ลงเอยยังไง สิ่งที่คนอื่นชอบ คู่ฉันเองอาจไม่ได้ชอบ สิ่งที่คนอื่นเป็น คู่ฉันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดไปหมดหรอก
#6 ไว้เธอมีความรัก เธอจะเข้าใจเอง
ขอบใจมากเพื่อนรักที่เธออุตส่าห์รับฟังฉันทุกเรื่อง เธอไม่ต้องเชื่อฉันก็ได้ในตอนนี้ ฉันเข้าใจดีว่าความคิดคนเรามันยากที่จะบังคับกันได้ ไว้เธอมีความรักเธอจะเข้าใจเองเพื่อนรัก
ถ้าตอนนี้เธอกำลังอิจฉาฉัน ... อย่าอิจฉาฉันเลย คนมีแฟนใช่จะวิเศษอะไรมากมันก็มีบ้างที่เหงา และบางทีความรักมันก็ทรมานเอาเรื่องเชียวนะ ใช่ว่าจะมีแต่ด้านที่สวยงามเสมอไป
ถ้าตอนนี้เธอกลัวความรัก กลัวว่าจะไม่มีใครเข้ามา ... ทำตัวตามสบายเถอะเธอเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องวิ่งไล่ตามใคร ไม่ต้องดิ้นรนอะไรมาก ไว้ถึงเวลา เดี๋ยวเธอก็มีแฟนเองแหละ หรือถ้าที่สุดแล้วเธอก็ยังโสด ... ไม่เป็นไรนะ ฉันยังเป็นเพื่อนเธอตลอดไปเหงาเมื่อไหร่ก็โทรมาสิ เดี๋ยวพาไปแฮงค์เอ้าท์กัน !! ^^
และนี่ก็เป็นความในใจของคนมีแฟน ที่อยากบอกเพื่อน ใครที่เพื่อนไปมีแฟนแล้วมีเวลาน้อยลงก็อย่าเพิ่งน้อยใจไปนะคะ เราควรยินดีที่เพื่อนมีความรัก ได้เจอคนดีๆ มีความสุข ยังไงซะ มิตรภาพก็ตัดกันไม่ขาดหรอก เชื่อสิ :)
