ยังรอกันอยู่ไหมหรือลืมกันไปแล้วเพื่อนจ๋า ( นึกว่าจะมาปีหน้าแล้วอ่ะแกร้ ฮ่าๆ ) กลับมาต่อแล้วจ้ากับ

รีวิวเที่ยวมาเลเซียฉบับรูปปังแต่จ่ายตังนิสสเดียว

หลังจากปล่อย Ep. 1 ไปนานม้ากกกก วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ

มาต่อกับอีก 3 เมืองที่เหลืออย่าง กัวลาลัมเปอร์ , มะละกา และปุตราจายา

คราวที่แล้วเราจบกันด้วยการพาเพื่อนๆ เที่ยวที่ปีนัง ก็ถึงเวลาที่เราจะพาพวกเธอเข้าสู้เมืองหลวงของประเทศนี้สักที แต่เราไม่ได้ไปแบบลำบากเหมือนต่อมาปีนังแล้วนะ

รอบนี้บินในประเทศแบบสวยๆ เพราะตั๋วเครื่องบินราคาถูกมากไม่กี่ร้อยเอง( แต่แนะนำว่าให้จองล่วงหน้านานหน่อยนะคะ )

เราเลือกใช้บริการ Malindo Air สายการบินราคาดีและเครื่องก็ใหญ่นั่งสบายดีด้วยค่ะ บินประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงเมืองหลวงอย่างกัวลาลัมเปอร์แล้ว ว่าแล้วก็ตามเราไปเที่ยวต่อกันเล้ย!

รูปภาพ:https://cache.gmo2.sistacafe.com/images/uploads/content_image/image/792801/1541145275-1.jpg

► KUALA LUMPUR " กัวลาลัมเปอร์ " ◄

การเดินทางเข้าเมือง

เราบินตรงจากสนามบินปีนังมาลังยังกัวลาฯ ที่สนามบิน KLIA1 วิธีการเข้าเมืองของที่นี่ก็มีหลากหลายค่ะ ทั้ง

รถไฟเข้าเมืองอย่าง KLIA TRANSIT , รถ Taxi หรือ Grab


แต่ที่ถูกสุดและเราแนะนำก็คือรถบัสโดยราคาจะอยู่ที่ 10 ริงกิต ( ประมาญ 80 บาท ) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเข้าสู่กลางเมืองในย่าน KL Sentral

เลยทีเดียวค่ะ

การเดินทางภายในกัวลาฯ

การเดินทางในกัวลาฯ ก็ค่อนข้างสะดวกสบายเลยค่ะ

เพราะเขามีรถไฟฟ้าที่ครอบคลุมหลายจุด

แต่รถไฟฟ้าของที่นี่มีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น

รถไฟฟ้ารางเบา, รถไฟฟ้าชานเมือง , รถไฟระหว่างเมือง , รถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยาน , รถไฟฟ้ารางเดี่ยว และ MRT

โดยจะมีจุดเชื่อมใช้งานกันทั่วทั้งเมืองตามแผนผังนี้เลยค่ะ

รูปภาพ:https://blog.bangkokair.com/wp-content/uploads/2018/03/Map-Carpark_large.jpg

( Lake Symphony ตึกแฝดปิโตรนาส )

รูปภาพ:

เนื่องจากเราออกจาปีนังช่วงเย็นๆ และไปถึงกัวลาฯ ช่วงค่ำ ที่แรกของเราก็คือแลนด์มาร์คของมาเลเซียอย่าง

" ตึกแฝดปีโตรนาส "เพราะทุก 20.00


จะมี

การแสดง Lake Symphony น้ำพุประกอบแสงสีบริเวณสวนสาธารณด้านหลังตึก

ก็ไปนั่งจับจองหามุมถ่ายรูปกันได้ตามชอบใจเลยจ้า ส่วนตัวเราคิดว่าเป็นโวช์ที่สวยงามดีค่ะ แต่ยังไม่ตื่นตาตื่นใจเท่าโชว์

Wonder Full – Light & Water Spectacular ที่

ตึก Marina Bay Sands ของสิงคโปร์ แต่ถ้ามีโอกาสไปแล้วก็ไม่ควรพลาดชมเช่นกันค่ะ

หลังจากการแสดงจบเราก็เดินเล่นแถวๆ นั้นก่อนจะเข้าที่พัก ต้องบอกว่าบ้านเมืองเขาเจริญก้าวหน้าไม่ต่างจากเมืองหลวงใหญ่ๆ หลายๆ ประเทศ และดูจะก้าวไกลไปกว่าความเจริญของบ้านเราแล้วด้วยค่ะ

ค่าเข้าชม :

-

เวลาการแสดง :

20.00 ทุกวัน

การเดินทาง :

สถานี KLCC เดินเชื่อมเข้าไปยังด้านในห้างซูเรีย (SURIA) แล้วเดินทะลุออกไปด้านหลังของห้างจะเจอสวนสาธารณะ

( Night market Jalan Alo )

รูปภาพ:

ที่พักของเราในเมืองนี้อยู่ที่

ย่าน bukit bintang

ค่ะ ถือว่าเป็นย่านท่องเที่ยวสำคัญเต็มไปด้วยห้างใหญ่ๆ หลายแห่ง รวมไปถึงถนนคนเดินที่เปิดค่อนข้างดึก หลังจากเราเก็บกระเป๋าเรียบร้อยก็ออมาเดินเล่นหาของกินกันที่

" night market Jalan Alor "

แหล่งรวบรวมสตรีทฟู้ดส์ของมาเลเซีย ของกินเยอะมากๆ ทั้งคาวหวาน มีทั้งแบบเทคโฮม หรือนั่งกินชิลล์ให้อารมณ์เหมือนถนนข้าวสารบ้านเราเลยค่ะ


รูปภาพ:รูปภาพ:

ค่าเข้าชม :

-

เวลาเปิด :

เปิด 24 ชม.

การเดินทาง :

สถานี AirAsia bukit bintang

( ย่าน Sultan Abdul Samad Building )

รูปภาพ:

สำหรับใครที่ชอบเดินชมเมือง ถ่ายรูปสถาปัตยกรรมสวยๆ แนะนำว่าอย่าพลาดมาเดินเล่นที่ย่านนี้เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น

อาคารสุลต่านอับดุลซามัค (Sultan Abdul Samad Building) , มัสยิดจาเม็ก , เซ็นทรัล มาร์เก็ต (Central market) และ

ไชน่า ทาวน์


ตึกรามบ้านช่องแถวนี้เป็นสถาปัตยกรรมอิสลามสวยๆ เต็มไปหมด แถมจุดนี้ยังมีส่วนของเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านอาหารฮิปส์ๆ เพียบ!

( แนะนำว่าให้เดินก่อน 16.00 นะคะเพราะมัสยิดจะปิดเวลานั้น ส่วนคาเฟ่จะปิดช่วง 18.00 ค่ะ )

รูปภาพ:

อย่างที่บอกไปว่าใน

ย่านนี้เต็มไปด้วยร้านน่านั่งและคาเฟ่ฮิปส์ๆ เยอะมาก

ในแบบที่เดินยาวๆ ก็ถึงกันได้หมด โดยส่วนมากจะอยู่ในย่าน

ไชน่าทาวน์

ค่ะ แต่เนื่องจากเวลาเราไม่พอจึงไปได้แค่ร้านเดียว

งานนี้เลยขอเอา Map กับร้าน recommend มาฝากสาวๆ ด้วยจะ เผื่อใครวางแพลนจะตามรอยเราไป ยังไงฝากตามไปเก็บคาเฟ่เผื่อเราด้วยน่าาา

รูปภาพ:รูปภาพ:https://f.ptcdn.info/700/057/000/p92g8k3a2isCEI6oQMq-o.jpg

ค่าเข้าชม :

-

เวลาเปิด :

เปิด 24 ชม. มัสยิดปิด 16.00 น. / คาเฟ่ส่วนใหญ่ปิด 18.00 น.

การเดินทาง :

สถานี Masjid Jamek


► Melaka " มะละกา "◄

มะละกา

เป็นอีกเมืองโบราณของมาเลเซียที่ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกเช่นเดียวกับจอร์จทาวน์ที่ปีนัง เป็นอีกเมืองที่ควรแวะไปมากๆ เดินเล่นถ่ายรูปชิลล์ๆ ก็คือดีงาม

♡ การเดินทาง ♡

จากกัวลาฯ มีรถบัสวิ่งตรงไปถึงมะละกาเลยค่ะ ราคาจะอยู่ที่ 10-12 ริงกิต ( ประมาณ 100 บาท ) ใช้ระยะเวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง

โดยต้องไปขึ้นรถที่

TBS terminal bersepadu

อารมณ์หมอชิตบ้านเราค่ะ มีรถบัสหลายๆ เจ้า การเดินทางไปที่ TBS ก็ง่ายเพราะมีรถไฟฟ้าผ่าน โดย

เที่ยวแรกของบัสไปมะละกาจะอยู่ที่ 7.00 น

เมื่อไปถึงท่ารถที่มะละกาหรือ Melaka Sentral แล้ว จะมีรถบัสเข้าเมืองมะละกาแต่ถ้าไปหลายคนแนะนำ Grab เช่นเดิม

ไม่แพงรวดเร็วสบายกว่าเยอะ

เที่ยวมะละกาสามารถเดินเที่ยวได้รอบๆ เมืองเลย และไปเที่ยววันเดียวกลับได้ค่ะ สำหรับใครที่ไม่ค้างแนะนำว่าให้ไปขึ้นบัสรอบเช้าจะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆ

รูปภาพ:

( Dutch square )

รูปภาพ:

จุดแรกที่เป็นไฮไลท์ของเมืองนี้ก็คือ

Dutch square


หรือโบส์ถแดง

ตรงนี้เองค่ะ

ในอดีตมะละกาเคยเป็นเมืองท่าสำคัญที่เจริญมากๆ และตกเป็นเมืองขึ้นของโปรตุเกส, เนเธอร์แลนด์ และอังกฤษ ตึกรามบ้านช่องในเมืองนี้จึงมีสถาปัตยกรรมที่ผสมผสาน

ระหว่างหลายๆ ประเทศซึ่งเป็นอะไรที่ดีงามมากๆ

เราชอบมะละกามากๆ เพราะเมืองนี้น่ารัก มุมถ่ายรูปเพียบ แถมยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสีสัน ภาพวาดที่ดูแล้วสดชื่น อ่อ ความดี้ดีอีกอย่างของที่นี่ก็คือเขาเป็นเมืองที่มีคลองเล็กๆ ผ่ากลาง มองเรือชมเมืองแล่นผ่าน เป็นเมืองโบราณที่น่ารักจริงๆ

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

( ของกินที่มะละกา : Gi Kiat Huay )

รูปภาพ:

( ของกินที่มะละกา : the daily fix )

รูปภาพ:


► Putrajaya " ปูตราจายา "◄

ปูตราจายา


เป็นเมืองสร้างใหม่ของมาเลเซียค่ะ

เนื่องจากความหนาแน่นในเมืองหลวงอย่างกัวลาลัมเปอร์ จึงมีการสร้างเมืองนี้ขึ้นมา เมืองนี้คือ

ทุกอย่างดูใหม่ ดูสวย เป็นระเบียบมากๆ

เหมือนเมืองที่หลุดออกมาจากโลกอนาคตเลยก็ว่าได้

การวางผังเมืองถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็นสัดส่วนชัดเจน ย่านที่อยู่อาศัย , ย่านราชการ แต่ที่ดีกว่าก็คือพื้นที่สีเขียวของเมืองที่พื้นที่มากที่สุดในผังเมืองเลยค่ะ

♡ การเดินทาง ♡

การเดินทางมาเที่ยวเมือง ปูตราจายา ก็มาได้จากกัวลาฯ เช่นกัน ง่ายๆ โดยการนั่ง

Klia transit หรือรถไฟเชื่อมสนามบิน

มาถึงเลย แนะนำว่าให้เที่ยวเมืองนี้วันกลับ เพราะเราสามารถนั่ง Klia transit ไปยังสนามบินต่อได้เลย

( ถ้าแวะเที่ยวปูตราจายาค่ารถ Klia transit จะถูกกว่าการนั่งตรงจากกัวลาฯ ไปสนามบิน )ส่วนการเดินทางในเมืองแนะนำว่าใช้ Grab ดีสุดค่ะ เพราะบัสมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทาง ตามสถานที่ท่องเที่ยวคือบัสราคาต่อคนแพงกว่า

Grab อีกนะขอบอก

รูปภาพ:รูปภาพ:


( มัสยิดสีชมพู " Masjid Putra " )

รูปภาพ:

การมา

เที่ยวปูตราจายาคือการมาเที่ยวชมเมืองและสถาปัตยกรรม

ค่ะ สถานที่ที่โด่งดังมากๆ ก็คือ

มัสยิดสีชมพูหรือ Masjid Putra

จะมีเวลาเปิดเป็นรอบๆ ให้เข้ามาชมความสวยงามด้านใน และวิวเมืองที่สวยตะลึง ไฮไลท์ก็คือการได้ใส่ผ้าคลุมแบบสาวอิสลามในชุดสีชมพูถ่ายรูปสวยๆ นี้แหล่ะค่ะ

( แอบกระซิบว่าเที่ยวที่นี้จะมีพื้นที่ห้ามเข้า และต้องสงบนิดหนึ่งนะคะ เพราะเป็นสถานที่ทางศาสนาต้องระวังให้ถูกกาลเทศะด้วยจ้า )

รูปภาพ:รูปภาพ:

ค่าเข้าชม :

-

เวลาเปิด :

เปิดให้เข้าชมเป็นรอบ ได้แก่ 9.00 -12.30 , 14.00 – 16.00, 17.30 - 18.00

( มัสยิดสีเงิน " Iron Mosque " )

รูปภาพ:

มัสยิดอีกที่ที่ไม่ควรพลาดไปเช่นกันถ้าไปถึงปูจราจายาก็คือ

มัสยิดสีเงิน หรือ Iron Mosque

ความโดดเด่นก็ตามชื่อ

เพราะมัสยิดเขาทำจากเหล็กเกือบทั้งหมด

แถมยังอยู่บริเวณชั้นดาดฟ้าเหมือนลอยฟ้าได้เลยค่ะ มาที่นี่ก็ถ่ายภาพสวยไม่ต่างจากมัสยิดสีชมพู ส่วนผ้าคลุมจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้มดีงามไม่ต่างกัน

รูปภาพ:

____________________________________________

5 วันในมาเลเซียของเราในที่สุดก็จบลงแล้ววว! การเดินทางครั้งนี้ทำให้เราเปลี่ยนมุมมองต่อประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆ เราไปเลย ใครจะคิดว่ามาเลเซียจะเป็นเมืองที่เจริญก้าวหน้าและตื่นตาตื่นใจได้ขนาดนี้เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เที่ยวคุ้มมากๆ เดินทางง่ายแถมค่าใช้จ่ายยังถูกราได้ทั้งพบเจอทั้งความสวยงามของบ้านเมืองเก่า และความตระการตาของเมืองใหญ่ถ้ามีโอกาสก็อยากให้เพื่อนๆ ชาวซิสตามเราไปเที่ยวกันดูนะคะ

ทริปนี้ต้องขอโบกมือลากันไปก่อน จะไม่ปล่อยให้หายคิดถึงนานเพราะทริปหน้าจะมาในไม่ช้านี้ ฮี่ฮ่า

สุดท้ายก็ยังขอบคุณใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ และด้วยความหวังดีอยากฝากไว้ว่าพวกเธอจ๋าออกไปเที่ยวกันเถอะ!!

ヽ(^Д^)ノヽ(^Д^)ノ