1. SistaCafe
  2. 6 สัญญาณ ที่บอกว่า 'ลดความอ้วน' มากเกินไป


เมื่อสาวซิสต้าเผลอกินตามใจปากรัวๆ จนต้องร้องไห้หนักมาก ทางออกเดียวที่เหลืออยู่ก็คือการไดเอทน่ะสิ!

งดขนม ของมัน ของทอด อะไรที่ใส่น้ำตาลงดให้หมด กินข้าววันละมื้อ เข้าฟิตเนสทั้งวี่ทั้งวันจนน้ำหนักลดฮวบฮาบ หุ่นเพรียวลงเป็นที่น่าพอใจ

แต่เดี๋ยวก่อน! ทำไมรู้สึกมึนงง นอนไม่หลับ หัวเบลอๆ คิดอะไรไม่ออกเลย เป็นเพราะอะไรกันแน่นะ!?!?


คำเฉลยง่ายๆ ของปัญหานี้คือ

" เธอหักโหมมากเกินไป "

นั่นเอง!

การลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารอย่างหนัก ออกกำลังกายจนเหงื่อชุ่ม เรี่ยวแรงจะเดินยังไม่มีก็ยังไม่ยอมเลิกนั้น ไม่ได้ช่วยให้ผอมในระยะยาว ในทางกลับกัน ทำให้เสียสุขภาพจนต้องเข้าโรงพยาบาลรัวๆ อีกด้วย


อ่านบทความ

" 6 สัญญาณของการไดเอทหนักมาก "

ที่

หากไม่รีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ระวังจะได้ไปนอนร้องไห้หนักมากกับสายน้ำเกลือ!

ไปอ่านกันได้เลยค่ะ


1. ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรงเลย

การที่ร่างกายของเธอรู้สึกอ่อนล้า เปลี้ยเพลียแรง สมองเบลออยู่ตลอดเวลา เป็นสัญญาณที่บอกว่าระดับพลังงานของเธอในร่างกายกำลังถึงจุดวิกฤติ! ถ้าเปรียบเทียบร่างกายกับรถยนต์ ก็เป็นรถที่ขีดน้ำมันกำลังถึงขีดแดงแล้วล่ะค่ะ


เพราะร่างกายขาดเชื้อเพลิง ( อาหาร ) ทำให้รู้สึกเหนื่อยอยู่ตลอดเวลา ตามหลักโภชนาการแล้ว ผู้หญิงต้องการพลังงาน 1200 - 1400 แคลอรี่เพื่อทำให้ระบบเผาผลาญ ( เมตาบอลิซึ่ม ) และระบบอื่นๆ ในร่างกายทำงานเป็นปกติ แต่หากเป็นกลุ่มคนที่ออกกำลังกายหนักอาจต้องใช้เยอะกว่านั้น นักกีฬาบางคนต้องการพลังงานวันละ 2000-3000 แคลอรี่เลยทีเดียว


ถ้าเธอรู้สึกหิวจัด แปลว่าร่างกายของเธอต้องการสารอาหารด่วนจี๋! หยุดคิดเรื่องความอ้วนแล้วหาอาหารมีประโยชน์ พลังงานไม่เยอะเกินไป กินให้อิ่มท้องดีกว่าค่ะ


2. ในสมองคิดแต่เรื่อง " อาหารที่จะกิน " ตลอดเวลา

ถ้าในวันหนึ่งๆ ในสมองของเธอไม่สามารถตั้งสมาธิกับอะไรได้เลยนอกจาก " ของกิน " คิดแต่ว่าวันนี้กินอะไรเข้าไปบ้าง กินไปกี่แคลอรี่แล้ว มื้อต่อไปจะกินอะไรดี เหลือโควต้าอีกเท่าไหร่ บวกลบคูณหารในความคิดตลอดเวลาโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องคิดเลข แปลว่าสุขภาพของเธอกำลังน่าเป็นห่วงแล้วล่ะ


การไดเอทหรือลดน้ำหนักควรเป็นเรื่องของ " วิถีชีวิต " ที่ทำได้ไปตลอดในระยะยาว ไม่ควรทำอย่างหักโหมเพื่อหวังผลในระยะสั้น เพราะท้ายที่สุดแล้วน้ำหนักจะเด้งคืนมารัวๆ เนื่องจากเป็นวิถีที่ไม่ยั่งยืนนั่นเอง ค่อยๆ ปรับชนิดอาหารให้มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพื่อให้ร่างกายคุ้นชินน่าจะดีกว่านะ


3. อดอาหารหมู่ใดหมู่หนึ่ง ( หรือหลายหมู่รวมกัน )

การอดอาหาร ไม่ว่าหมู่ใดก็ไม่ใช่เรื่องดีทั้งนั้น! สาวๆ ส่วนใหญ่มักนิยมอด " คาร์โบไฮเดรต " หรือแป้งทุกชนิดเพราะเชื่อ ( มโน ) ไปเองว่าการอดแป้งทำให้ผอมลง วิธีนี้อาจทำให้น้ำหนักลดลงฮวบฮาบในช่วงสั้นๆ แต่ผลลัพธ์ระยะยาวคือ ร่างกายขาดสารอาหารอย่างรุนแรงและมีสิทธิ์ที่จะเกิดภาวะ " โยโย่เอฟเฟกต์ " หรือน้ำหนักเพิ่มมาสองเท่าเลยล่ะ!


ทางแก้ก็ง่ายๆ ไม่จำเป็นต้องอดอาหารแบบ 100% แต่ให้กินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเพื่อเสริมสร้างพลังงาน หรือวิตามินบีเพื่อทำให้อารมณ์คงที่ ไม่หงุดหงิดไปทั่ว ถ้าเธอกินแต่อาหารหมู่ใดหมู่หนึ่งเป็นระยะเวลานานต่อเนื่อง สุขภาพจะทรุดโทรมลงเรื่อยๆ เบื่อ หมดอาลัยตายอยากในชีวิต และอาจส่งผลกระทบกับสุขภาพจิตด้วยค่ะ

4. นอนหลับไม่สนิท

ระบบในร่างกายมักทำงานสัมพันธ์กันทั้งหมด! ถ้าเธอมีปัญหากับอาหารการกิน ระบบร่างกาย ฮอร์โมน สารต่างๆ ผิดปกติ มันจะส่งผลถึงพฤติกรรมการนอนหลับของเธอด้วย! สาวๆ หลายคนมักคิดว่าใช้วิธี " เอาน้ำลูบท้อง " ทั้งที่กระเพาะส่งเสียงคร่ำครวญอยากมีอาหารตกถึงท้อง แล้วเข้านอนทั้งที่ไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน วิธีนี้อาจสำเร็จในช่วงแรกๆ แต่ในที่สุดเราจะเห็นเธอหยิบของจากตู้เย็นรัวๆ ช่วงดึก เพราะทนหิวไม่ไหวน่ะสิ!



การอดอาหารอาจทำให้ผอมได้ในช่วงสั้นๆ แต่ทำให้ขาดสารอาหารที่ทำให้เธอนอนหลับสนิท ในที่สุดเธออาจได้หุ่นผอมแห้ง แต่ตาลึกโหล ประสาทหลอนเพราะนอนไม่พอสะสมก็เป็นได้ อยากเป็นซอมบี้ก็ลองดูค่ะ เตือนแล้วนะ!



5. ไม่ไปกินเลี้ยง พบปะสังสรรค์กับเพื่อนเพราะ " กลัวอ้วน "

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม! การที่เอาแต่ปฏิเสธนัดคนนั้นคนนี้ เพราะกลัวในกลุ่มจะชวนกันไปกินบุฟเฟ่ต์ ร้านอาหารต่างๆ แล้วทำให้เธออดใจไม่อยู่ ตัดปัญหาด้วยการไม่ไปดีกว่า กลัวอ้วน อยากบอกว่าเธอคิดผิดมหันต์!



การลดน้ำหนักที่แท้จริงคือการ " ควบคุมอาหาร " ไม่ว่าเธอจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม เช่น ในบ้าน ที่ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ หรือปาร์ตี้ที่มีแต่ของมึนเมาก็ตาม หากเธอศึกษาชนิดของอาหาร ส่วนประกอบและสารอาหาร เธอจะสามารถกินอาหารพลังงานต่ำได้สบายๆ ท่ามกลางงานเลี้ยงสังสรรค์ เช่น เลือกกินแต่ผักและเนื้อปลา เนื้อไก่ไม่ติดมัน ดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำหวาน เป็นต้น



6. อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ตลอดเวลา ควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้

ใครๆ ก็รู้ว่าอาการ " โมโหหิว " เกิดขึ้นได้กับทุกคน! แต่หากหิวแล้วไม่ยอมเติมสารอาหารเข้าไปหล่อเลี้ยงร่างกายล่ะก็ ความหงุดหงิด โมโหง่ายหรือที่เรียกว่า " เหวี่ยง " จะเริ่มรุนแรงมากขึ้น เพราะการอดอาหารทำให้สารเคมีในสมองเกิดความเสียหาย เธอจะเริ่มเป็นโรคซึมเศร้า วิตกกังวล เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เหมือนรถไฟเหาะกันเลยทีเดียว ที่น่ากลัวคือ เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ด้วย!



เมื่อถึงจุดสิ้นสุด ร่างกายก็จะเกิดอาการ " ตบะแตก " คราวนี้แหละช้างฉุดก็หยุดไม่อยู่! จากน้ำหนักเดิมที่ลดลงไป ( ซึ่งเป็นน้ำและกล้ามเนื้อแทบทั้งสิ้น ) จะพุ่งขึ้นกลับมาเท่าเดิม หรืออาจมากกว่าเดิม โอย อย่าเสี่ยงเลยค่ะ!



==============================



การทำเรื่องใดๆ ให้ประสบความสำเร็จ ทุกอย่างล้วนต้องอาศัยเวลา การไดเอทก็เช่นกัน! ถ้าเธออดอาหารเพื่อให้ผอมลงฮวบฮาบในเวลาสั้นๆ สิ่งที่เธอจะได้รับกลับมาคือร่างกายผอมแห้งที่ย้วยไปด้วยไขมัน สมองเบลอ พูดจาไม่รู้เรื่อง สายตาเหม่อลอยเพราะสมองขาดสารอาหาร และในที่สุดร่างกายจะโหยหาที่จะกลับไปสู่จุดเดิม นั่นคือกลับไปกิน! น้ำหนักเด้งขึ้นเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิมแน่นอนค่ะ



หลักการผอมอย่างสุขภาพดีมีแค่สองข้อใหญ่ๆ คือ " ควบคุมอาหาร " และ " ออกกำลังกาย " แม้จะไม่ได้ผลปุบปับในทันที ต้องอาศัยเวลาและมีวินัยอย่างต่อเนื่อง ลดของหวาน มัน ทอด ( ลองคิดว่า เราสะสมไขมันจนอ้วนมานาน จะเผาผลาญออกก็ต้องใช้เวลาเท่ากันนั่นแหละ ) แต่ได้ผลยั่งยืนในระยะยาว ไม่กลับมาอ้วนอีกแน่นอนค่ะ



เป็นกำลังใจให้สาวซิสต้าทุกคน ผอมสวยอย่างมีสุขภาพดีนะคะ *_________*



==============================




บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้