โลกโซเชียลเป็นพื้นที่สาธารณะอย่างหนึ่งที่เรามีโอกาสจะเจอทั้งคนดีและคนไม่ดีเข้าหาเรา แม้ว่าเราจะมีเจตนาดีในการโพสต์อะไรออกไป มันก็ต้องมีเรื่องในแง่ลบเข้าหาเราบ้างล่ะ การตั้งค่าโพสต์หรือคิดก่อนโพสต์ก็ช่วยได้ระดับหนึ่งในการคัดกรองคุณภาพประชากรเข้าหาเรา แต่ไม่ทุกครั้งเสมอไป เพราะเราไม่สามารถเดาใจใครได้เลย คนที่เห็นว่าดี วันดีคืนดีเขาอาจนึกบ้ามายั่วยุเราเล่นก็เป็นไปได้
ในเมื่อควบคุมคนอื่นไม่ได้ เราก็ต้องมีวิธีการตอบโต้ที่ชาญฉลาดกันสักหน่อยสำหรับผู้หวังดีแต่แอบแฝงประสงค์ร้าย ( รึเปล่านะ? )ฝึกเอาไว้ค่ะ เผื่อในอนาคตได้ไปทำงานที่ต้องใช้ทักษะการสื่อสาร เราจะได้มีความเป็นมืออาชีพ
หมายเหตุบทความนี้เราไม่อนุญาตให้นำไปคัดลอกลงเว็บไซต์อื่นนะคะ หากต้องการเผยแพร่ ทำได้อย่างเดียวคือกดปุ่มแชร์ค่ะ :)
#1 อย่าหยาบคายตอบ แม้คนอื่นจะหยาบคายกับเราก่อน
เลือกใช้วิธีรุนแรงก็ไม่ต่างอะไรกับไฟไหม้ฟาง เรื่องที่น่าจะจบไปแต่แรกลุกลามไปใหญ่ไม่รู้จักจบสิ้น ถ้าจำเป็นต้องคุย ควรใจเย็นและคุยด้วยอย่างสุภาพที่สุด เพื่อเป็นการเซฟตัวเองให้มีภาพลักษณ์ที่ดีกว่า
#2 อย่าลากเพื่อนมาช่วยรุม ( ด่า )
ต่อให้เพื่อนเรารักมากจนอยากจะปกป้อง ก็ไม่ควรปล่อยให้เพื่อนเข้ามารุมอีกฝ่ายให้ยับ ไม่เช่นนั้น ประเด็นที่ควรจะจบแค่คน 2 คน มันจะกลายเป็นวงกว้างกว่าเดิม ซับซ้อนกว่าเดิมไม่รู้จักจบสิ้น ( การเปิดโอกาสให้เพื่อนเข้ามาช่วย บางทีก็ไม่ต่างกับเด็กที่ไม่โต ต้องพึ่งคนอื่น แทนที่จะพึ่งตัวเอง )
#3 อย่าเบี่ยงประเด็น ถ้าเขามีข้อสงสัยและต้องการคำตอบ
คนอื่นมีสิทธิเห็นต่างได้ มีคำถามได้ เพราะคนเราต่างก็มีความคิดไม่เหมือนกันทั้งนั้น ดังนั้น ถ้ามีคนสงสัยและกล้าถามกับเรา และเราก็ต้องการที่จะตอบ จงให้คำตอบที่ตรงประเด็น อย่าลากไปเรื่องอื่น หรือ' แถ 'เมื่อตอบไม่ได้ มันจะกลายเป็นดราม่าซ้ำซ้อนที่คนอื่นมองเราว่าช่างไม่มีวุฒิภาวะในการแก้ปัญหาเอาซะเลย เขาถามเรื่องนก ก็ชี้ไปเรื่องไม้ เขาถามเรื่องงาน ก็ด่าถึงเรื่องพ่อแม่ ฯลฯ
#4 จงขอบคุณเมื่อคนอื่นคัดค้านและชี้แจงความจริงอีกด้าน
โลกโซเชียลส่วนหนึ่งที่วุ่นวายไม่จบไม่สิ้นกัน ก็เพราะตรรกะพังๆ ที่ว่าคนที่มาค้านเป็นพวกอิจฉา ทำอย่างคนอื่นไม่ได้ล่ะสิ !ปรับทัศนคติใหม่ ใจเย็น มองเห็นความเป็นกลางเข้าไว้นะคะการที่คนอื่นแสดงความคิดเห็นที่ต่างจากเรา คัดค้านในแนวคิดเรา ใช่ว่าเขาจะตั้งป้อมเป็นศัตรูกับเราเสมอไป และตัวเราแล้วก็อาจจะโพสต์อะไรที่ผิดพลาดไปจริงๆ ด้วย ดังนั้น สิ่งที่เราควรทำมากที่สุดคือ ขอบคุณที่เขาคัดค้าน และ/หรือ รับฟังคำชี้แจงจากเขาด้วย ( ถ้าสงบไม่เป็น อย่าแถ อย่าตอบโต้ด้วยวิธีรุนแรง มิฉะนั้นจะโดนขุดโดนแฉให้เสียหน้ากว่าเดิม )
#5 ถ้าคิดจะประกาศศึก หลักฐานต้องแน่นพอมั่นใจได้
ถ้าโดนคุกคามจนรู้สึกว่าทนไม่ได้ ไม่รู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อย่าตอบโต้โดยมีแค่คำกล่าวลอยๆ โพสต์กระทบกันไปมา ควรมีหลักฐานที่แน่นหนาพอจะเอาผิดได้ ( ควรทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย อย่าเอาแต่ความสะใจเข้าว่า )
#6 เพิกเฉยไปเลยกับคนที่เราไม่โอเคจริงๆ
ผู้หญิงเรามันต้องมีเซนส์กันบ้างว่า คนไหนที่ไม่โอเคมากๆ เช่น เรียกร้องความสนใจเกินไป, ตื๊อเกินไป, ชอบเข้ามายั่วแหย่เล่นๆ เพื่อจะให้เราแสดงอาการไม่พอใจ
สำหรับเคสนี้ ถ้าไม่อยากเก็บไว้ให้เป็นเสี้ยนตำใจเล่น ควรกำจัดทิ้งด้วยวิธีเบาะๆ อย่างการเพิกเฉย ไม่สนใจ ไม่กดไลค์ ทำให้เขาเหมือนเป็นอากาศธาตุ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ค่อยบล็อคกันไปเลย เพื่อจะได้ไม่มาเซย์ไฮกันอีก
#7 จบคือจบ ไม่รื้อฟื้นหรือกล่าวลอยๆ อีก
เมื่อเกิดเหตุอะไรขึ้น สมองคนเรามักจะจำโดยอัตโนมัติ ยิ่งให้ความสำคัญมากๆ ก็ยิ่งตอกย้ำให้จำอยู่เรื่อยๆดังนั้น ไม่ว่าจะเจอคนแย่ๆ แบบไหนก็ตามแล้วมันจบไปแล้ว สิ่งที่เราควรทำคือ ไม่พูดถึง ไม่นึกถึง ไม่อาฆาตอย่าไปโพสต์ลอยๆ ด่าใครเล่นอีก รกหน้าวอลล์ รกความจำในสมองเราเปล่าๆ เอาสมองและใจเราไปจำเรื่องดีๆ เรื่องใหม่ๆ ดีกว่า
บทความที่เกี่ยวข้อง
7 ประเภทสาวโซเชียล ที่ผู้ชายไม่อยากได้เป็นแฟน
https://sistacafe.com/summaries/3471
11 การแสดงออกทางโซเชียล ที่ทำให้เราดูเป็นผู้หญิง 'ไม่ฉลาด'
https://sistacafe.com/summaries/7537
7 วิธีหลีกเลี่ยงดราม่าบนโซเชียล ไม่ให้เกิดกับเรา!!
https://sistacafe.com/summaries/3450