รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/81/42/08/81420897aea960b1ba3e0d8e812d2629.gif

สวัสดีค่าา สาวๆSistaCafeคนแพ้' นม 'ทุกคน #ร้องไห้แปป T^Tกินนมทีไรท้องเสีย ท้องอืด ปวดท้องเหมือนจะตายทุกที ไหนใครเคยเจออาการแบบนี้บ้าง? แม้ว่าจะไม่ใช่โรคร้ายแรง บางคนไม่เคยสังเกตด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็น แต่เชื่อว่าสาวซิสมากมายที่ประสบปัญหา' แพ้น้ำตาลแลคโตส ( Lactose Intolerance ) 'ซึ่งอธิบายง่ายๆ คือร่างกายย่อยน้ำตาลแลคโตสจากนมวัวไม่ได้อย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งรวมถึงชีส โยเกิร์ต ไอติม หรืออาหาร/ขนมหวานต่างๆ ที่มี ' นมวัว ' เป็นส่วนประกอบทุกชนิดนั่นเอง。゚・ (>﹏<) ・゚。

อาการของสาวๆ แต่ละคน จะหนักหรือเบาก็ขึ้นอยู่กับว่ารับ ' แลคโตส ' หรือนมวัวเข้าร่างกายไปเยอะแค่ไหน และแต่ละคนก็มีความเซนซิทิฟหรือ' ลิมิต 'ในการรับแลคโตสต่างกันบางคนดื่มแค่ครึ่งขวดก็วิ่งหาห้องน้ำแล้ว แต่บางคนต้องดื่มเป็นลิตรๆ ถึงจะเริ่มมีอาการ หรือบางคนถ้าไม่ดื่มเป็นแกลลอนก็แทบไม่มีผล ( แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่แพ้ )แม้ว่าอาการแพ้แลคโตสจะเกิดขึ้นได้ทั่วไป ไม่ถึงกับต้องหามส่งไอซียู แต่ถ้าเธอมี' 7 สัญญาณว่าเธอแพ้น้ำตาลแลคโตส ที่ไม่ควรมองข้าม 'เธอจะได้เลี่ยงผลิตภัณฑ์นมวัวในวันที่ต้องการความสบายท้อง คล่องตัวยังไงล่ะ! จะมีอาการแบบไหนให้สังเกตบ้างเราไปดูกันเลยค่ะ

1. ท้องอืด แก๊สเกินในกระเพาะอาหาร

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/b0a5d6b942324f2be3b9a619141f1d65.jpg

หากกินอาหาร/ขนมหวานที่ผสมนมวัวเกินพิกัดตอนใส่ชุดรัดรูปหรือกางเกงยีนส์ติดกระดุมสุดฟิต และหลังกินเสร็จภายใน 30 นาที-2 ชั่วโมง รู้สึกอึดอัดท้อง พุงยื่นจนต้องคลายกระดุมแล้วล่ะก็ มีแนวโน้มสูงว่าเธอจะแพ้แลคโตสค่ะ

ซึ่งต้องบอกไว้ก่อนว่า ในบางรายถึงท้องอืด ก็ไม่แน่ว่าจะแพ้นมวัวเสมอไป เพราะบางคนอาจมีภูมิแพ้อาหารชนิดอื่นๆ ที่ทำให้อึดอัดท้องได้ เช่น แพ้กลูเต็นในแป้งสาลี หรือกินเร็วเกินไปกระเพาะย่อยไม่ทัน เป็นต้น

แต่สำหรับสาวๆ บางคนที่เซนซิทิฟกับนมวัวมาก ก็อาจมีอาการท้องอืด ท้องบวมรุนแรง! เพราะถ้าร่างกายของเธอดูดซึมแลคโตสบกพร่อง แลคโตสในอาหารนั้นๆ จะไหลเข้าสู่ลำไส้ทันที แทนที่จะย่อยและดูดซึมในร่างกาย


ซึ่งในลำไส้คนทั่วไปจะมีแบคทีเรียอยู่แล้ว แลคโตสที่ไม่ได้ย่อยจะจับรวมกับแบคทีเรียในนั้น และเกิดสิ่งไม่พึงประสงค์ออกมา นั่นคือแก๊สส่วนเกิน! ใครกินไอติม กินเค้กแล้วท้องอืดแปลกๆ ให้สงสัยตัวเองไว้ก่อนเลย

2. เป็นตะคริวที่ท้อง ( stomach cramps )

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/27258cdc842ec63c012e11f350ae6de8.jpg

อีกสัญญาณที่คาบเกี่ยวระหว่าง กินอาหารเร็วเกินจนกระเพาะไม่ย่อย กับแพ้แลคโตสในนมวัวคือ ' เป็นตะคริวที่ท้อง ' หรือมีอาการปวดบิด ปวดเกร็งบริเวณกล้ามเนื้อท้องน้อย นั่งตัวงอเหมือนอยู่ในช่วงมีประจำเดือน


จะเริ่มมีอาการหลังกินประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง และอาจใช้เวลานานกว่าตะคริวจะคลายตัว ถ้าเธอดื่มนม กินชีส กินโยเกิร์ตปกติทีไร ต้องลงไปนอนกุมท้องร้องโอดโอยตลอด ก็เป็นไปได้ว่ากระเพาะย่อยแลคโคสไม่ได้เหมือนคนทั่วไปค่ะ

สาเหตุก็เป็นเพราะว่า แลคโตสที่ยังไม่ย่อยจะยังอาศัยอยู่ในลำไส้ ซึ่งแบคทีเรียเจ้าถิ่นในลำไส้ของเราๆ จะมาทักทาย และจับแลคโตสนั้นไปย่อยเหมือนคำอธิบายในข้อแรกนั่นเอง

เบาหน่อยก็แค่ท้องอืด ท้องเฟ้อ แต่ถ้าเจอของแรงเข้าไป ตะคริวท้องมาเยือนแน่นอน ซึ่งถ้าเกิดขึ้นเธอจะแทบทำอะไรไม่ได้ไปพักนึงเลย ซึ่งเธอคงไม่อยากมีอาการนี้ในวันไปเที่ยว ไปเดต หรือมีอีเวนต์สำคัญแน่ๆ ดังนั้นเลี่ยงนมวัวไว้ก่อนจะดีกว่า

3. จุกเสียด อาหารไม่ย่อย

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/7ea3ccc353de21ee57f8f9a26c882367.jpg

ข้อนี้ สาวๆ ทีม #กรดไหลย้อน บอกเลยว่าโชค ( ร้าย ) สองชั้น ถ้าเธอมีพฤติกรรมการกินผิดปกติ ชอบกินแล้วนอน กินดึก กินของรสจัดจนหน้าอกแสบร้อน จุกเสียดท้อง อาหารไม่ย่อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ภูมิแพ้แลคโตสในนมจะยิ่งไป ' เร่ง ' ให้อาการหนักขึ้นกว่าเดิม!


แม้จะไม่ใช่อาการที่พบเจอได้บ่อยนัก แต่ถ้าใครดื่มนม กินชีส กินคุกกี้ทีไร ชอบมีอาการจุกที่คอ เหมือนอาหารที่กินไปไม่ถูกดูดซึมใดๆ อย่างแรกที่ควรทำไม่ใช่ดื่มนมเพิ่ม แต่ควรเลี่ยงหรือเลิกกินไปเลย รับรองว่ารู้สึกดีขึ้นชัวร์!

เป็นเพราะนมวัวทั่วๆ ไปจะมีส่วนประกอบของ ' ไขมัน ' สูง และมีคุณสมบัติคลายกล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหาร ( ซึ่งทำให้กรดไหลย้อนกลับไปข้างบนได้ง่ายขึ้น! ) การกินผลิตภัณฑ์นมมากๆ จึงเหมือนกระตุ้นให้กรดในกระเพาะพุ่งขึ้นลำคอปรื๊ดๆ ยังไงยังงั้นอีกทั้งยังมีงานวิจัยหลายตัวที่เห็นความสัมพันธ์กันระหว่างการแพ้นมวัวและกรดไหลย้อน ดังนั้นถ้าไม่อยากรู้สึกแสบเปรี้ยวที่คอ ก็เพลาๆ นมที่กินหน่อยเด้อ ขอเตือน!

4. ท้องเสีย

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/b99b8fe7fc1e4d37a8012dac34cb74a8.jpg

อาการนี้ก็นับว่าพบเจอได้บ่อย สำหรับคนที่แพ้น้ำตาลแลคโตสในนมวัว นั่นคือใจโหยหาห้องน้ำ วิ่งหาโถส้วมทุกครั้งที่กินอาหาร/ขนมหวานที่ผสมนมทุกชนิด เรียกว่าเป็นยาถ่ายชั้นยอดก็ว่าได้!


บางคนแค่กินแบบปรุงด้วยนมเล็กน้อย อาจจะยังปกติ แต่ถ้ากินนมวัวเป็นขวดๆ หรือโยเกิร์ตทั้งถ้วยเมื่อไหร่ล่ะก็... หมดไส้หมดพุง! เบาหน่อยก็ถ่ายรอบเดียว แต่คนแพ้หนักๆ วิ่งเข้าออกส้วมทั้งวันก็มี ถ้าไม่กินยาหยุดถ่ายก็อาจสลบอยู่หน้าห้องน้ำเลยแหละ #หมดแรง TT

' ท้องเสีย ' คือสัญญาณว่ากระเพาะของเธอไม่สามารถย่อยแลคโตสจากนมได้ และยังบ่งบอกว่าเธอกินผลิตภัณฑ์จากนมวัวเยอะเกินไปแล้ว! เพราะในหมู่คนแพ้แลคโตสโดยปกติ ถ้ากินน้อยจะมีแค่อาการท้องอืด แก๊สเกินแต่ถ้ากินรัวๆ กินแหลกเกินพิกัด ก็อาจนำไปสู่การท้องเสียขั้นรุนแรง จนถึงขั้นแอดมิตนอนโรงพยาบาลเลยทีเดียว ถ้าไม่อยากอยู่ดีๆ ต้องเช็กอินห้องพักผู้ป่วย ก็สังเกตตัวเองดีๆ กันนะคะ

5. คลื่นไส้วิงเวียน อยากอาเจียน

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/500bc2c2432ee5a29e002e588ff748ed.jpg

ถ้าว่ากันจริงๆ ก็ยังไม่มีเหตุผลหรืองานวิจัยรองรับชัดเจนว่า ทำไมคนที่แพ้แลคโตสในนมบางคน ร่างกายแสดงออกด้วยการ ' วิงเวียน คลื่นไส้ อยากอ้วก ' แต่คนที่แพ้นมวัวมากมายก็อาจเกิดอาการนี้ได้!


ผู้เชี่ยวชาญบางคนตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นเพราะแบคทีเรียในลำไส้เจริญเติบโตมากเกินไป กดดันให้ลำไส้ต้องพยายามย่อยแลคโตสอย่างสุดฤทธิ์ เพื่อเอาแบคทีเรียเหล่านั้นออก แต่เมื่อไม่ใช่กลไกทางธรรมชาติ จึงทำให้เกิดผลข้างเคียงคืออยากอาเจียนนั่นเอง

งานวิจัยในปี 2015 ตีพิมพ์ในจุลสาร Nutrients ค้นพบว่ามีความสัมพันธ์กันระหว่างการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียในลำไส้เล็ก และจำนวนของอาการแพ้แลคโตสในผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวน ( IBS )ซึ่งผู้เขียนงานวิจัยนี้อ้างว่า การที่เชื้อแบคทีเรียเพิ่มจำนวนผิดปกติ คือสาเหตุที่ทำให้คนแพ้แลคโตสในนมไม่สบายท้อง และนำไปสู่อาการคลื่นเจียนได้ถ้าเธอเป็นคนหนึ่งที่ดื่มนมแล้วอยากขย้อนนมออกมาทั้งที่นมขวดนั้นยังไม่หมดอายุ อาจเพราะเธอ ' แพ้ ' มันก็ได้ค่ะ

6. ท้องผูก

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/875cdfca04d8d36ed8444478e924952f.jpg

ในขณะที่สาวๆ มากมายท้องเสียเพราะดื่มนม ก็มีบางคนที่เกิดอาการขั้วตรงข้ามอย่าง ' ท้องผูก ' วันที่ควรจะขับถ่ายกลับไม่ถ่าย บางคนไม่ถ่ายหลายวันจนท้องป่อง อึดอัด ไม่สบายพุงเข้าไปอีก

แม้จะพบได้ไม่บ่อยนัก แต่ต้นเหตุก็เกิดจาก ' ระบบขับถ่ายทำงานผิดปกติ ' เพราะแลคโตสเข้าไปรบกวนความสมดุลของลำไส้เหมือนกันค่ะ

มีงานวิจัยที่ค่อนข้างเก่าแล้ว ตีพิมพ์ในจุลสาร Alimentary Pharmacology and Therapeutics ( เภสัชวิทยา ทางเดินอาหารและการบำบัด ) นักวิจัยพบว่าการย่อยและดูดซึมที่ไม่สมบูรณ์ของแลคโคส จะเกิดการรบกวนขั้นตอนย่อยที่เรียกว่า' การเคลื่อนไหวของลำไส้เพื่อนำไปย่อย ( gut motility ) '


ถ้าขั้นตอนนี้ถูกเร่งให้เร็วขึ้น ก็จะท้องเสียอย่างที่รู้กัน แต่ถ้าขั้นตอนนี้ถูกเบรกให้ช้าลง ก็จะท้องผูกแทน ซึ่งมาจากการสกัดกั้นของแก๊สเกินในลำไส้นั่นเอง

7. อุจจาระมีไขมันปนอยู่เยอะ มีลักษณะมันๆ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/8c8dfcadf8cbf0c94ca07eeffe256fe5.jpg

หัวข้อนี้อ่านจบแล้วอาจรู้สึกอี๋แหวะไปบ้าง แต่มันคืออาการจริงๆ ที่ชาวแพ้แลคโตสในนมวัวต้องเคยเจอ!


หากวันไหนเธอกินขนมหวานที่มีนมวัวเยอะมากๆ เช่น ทัวร์คาเฟ่ขนม 5 ร้าน 7 ร้านกับเพื่อนๆ หรือตะลุยกินบุฟเฟ่ต์เค้กตามโรงแรม ตอนเข้าห้องน้ำถ่ายหนัก ลองสังเกตลักษณะอุจจาระดูว่าเป็นอย่างไร อย่าไปมองว่าน่าเกลียดหรือขยะแขยง เพราะในทางสุขภาพ สีและรูปร่างของอุนจิเรานี่แหละ บอกได้ว่าเราเฮลที หรือมีโรคแอบแฝงอยู่หรือไม่

ถ้าน้องอุนจิมีลักษณะเลื่อมมัน สีออกส้มๆ หรือมีคราบมันลอยอยู่รอบๆ แปลว่าลำไส้และระบบขับถ่ายของเธอผิดปกติแล้ว! เพราะนั่นคือสัญญาณของ malabsorption หรือลำไส้เล็กดูดซึมอาหารได้ไม่สมบูรณ์ สำหรับคนแพ้แลคโตสนั้นก็หมายถึงว่า ร่างกายไม่ย่อยน้ำตาลในนมไปใช้เป็นพลังงาน แต่ทิ้งค้างไว้ในลำไส้แทน

ถ้าตกค้างเยอะ แลคโตสเหล่านั้นก็จะไปปิดกั้นสารอาหารอื่นๆ ไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย นานเข้าเธออาจขาดสารอาหารหรือเกลือแร่ที่จำเป็นโดยไม่รู้ตัว! จากนี้ไป ควรสังเกตอุจจาระทุกครั้งที่ขับถ่าย หากมีลักษณะหรือสีที่ผิดไปจากเดิม จะได้รู้ตัวและไปปรึกษาหมอได้ทันเวลานะคะ ^^

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/db/31/6a/db316ad853b1b27e6a81b18b7c3a6021.gif

--------------------------------------------

ทั้ง 7 สัญญาณเตือนวี้หว่อๆ ของคนแพ้นม ( วัว ) ทั้งหมดก็จะมีประมาณนี้!สาวๆ บางคนอาจเข้าใจว่าจะต้องปวดท้อง ท้องอืดหรือท้องเสียอย่างเดียว แต่ในบางเคสก็อาจจะเจออาการท้องผูก คลื่นไส้วิงเวียน หรือมีลักษณะอุจจาระที่ผิดปกติไปจากเดิมได้เช่นกัน ซึ่งสาเหตุก็อย่างที่บอกว่าร่างกายไม่สามารถนำแลคโตสไปย่อยหรือดูดซึมได้เหมือนร่างกายปกติ ซึ่งบอกเลยว่าสาวไทยเป็นกันเยอะกว่าที่คิด!ช่วงหลังๆ จึงมีนม โยเกิร์ต หรือไอติมที่สกัดจากพืชหรือ plant-based วางขายมากขึ้น เช่น นมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ นมพิสตาชิโอ เป็นต้น ซึ่งรสชาติก็ไม่ได้น้อยหน้านมวัวต้นตำรับแต่อย่างใด เผลอๆ บางคนอาจจะบอกอร่อยกว่าด้วยซ้ำ >//<

ใครที่อ่านบทความนี้จบแล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีอาการเสี่ยง หรือคลับคล้ายคลับคลาว่าจะแพ้ ก็ลองเปลี่ยนไปดื่มนม plant-based ในปริมาณเดียวกัน แล้วสังเกตตัวเองว่าอาการแพ้นั้นหายไปหรือไม่? ถ้าใช่ก็แน่ใจได้เลยว่าเธอเป็นชาวเผ่า Lactose Intolerance!แต่ทั้งนี้ถ้าไม่มีอาการแพ้รุนแรง และวันไหนอยากปล่อยตัวปล่อยใจกับขนมอร่อยๆ จากนมวัว ก็ไม่ต้องรู้สึกผิดมาก แค่ต้องยอมรับผลข้างเคียงว่าท้องไส้ของเธออาจจะ ' ไม่โอเค ' ในภายหลัง ยังไงกินอาหารที่สบายท้องกว่าก็รู้สึกดีกว่าแหละเนอะ (* ̄▽ ̄)b สำหรับวันนี้เราก็ขอตัวลาซิสๆ ไปก่อน พบกันใหม่คราวหน้า บ๊ายบายค่าา