เชื่อว่าสาวๆ ทุกคนคงอยากมีใบหน้าที่เกลี้ยงเกล้าหน้าใสไร้สิวกันทุกคน แม้จะดูแลผิวหน้าดีแค่ไหน แต่สิวเจ้ากรรมก็ยังจะขึ้นแล้วขึ้นอีก แถมบางทีขึ้นมาแล้วก็หายยากเสียจริง!! วันนี้เราเลยรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ

ไอเทมสุดเจ๋งที่จะมาปราบเจ้าสิวตัวดีให้หายไปอย่างสิ้นซาก

มาฝากสาวๆ ชาวซิสต้าคาเฟ่กัน พร้อมแล้วไปดูเลยดีกว่าว่ามีไอเทมตัวไหนหน้าสนใจบ้างน้า

รูปภาพ:http://www.globalfashionreport.com/inline/fashion/th/a854e794f609ee4313ff9f2786fd4699.jpg

1. Differin

รูปภาพ:http://f.ptcdn.info/982/022/000/1409637127-Diff111-o.jpg

Differin

เป็นกลุ่มยาประเภทละลายสิวอุดตัน สิวอักเสบ ในระยะที่เป็นน้อยถึงปานกลาง  มีงานวิจัยรองรับถึงผลการใช้ไว้ค่อนข้างดี แต่มักมีปัญหาตามมาหลังการใช้ในเรื่องเรื่องผิวแห้งลอก และมีงานวิจัยเรื่องการรอยดำจากสิวน้อย ถ้าหากใครต้องการจะใช้ลดรอยดำจากสิวไม่แนะนำ เพราะจะไม่ค่อยได้ผลในเรื่องนี้

สรุป

ถ้าหากใช้เพื่อลดการอักเสบและการอุดตันของสิวตัวนี้ถือว่าโอเคเลยทีเดียว แต่อาจจะไม่ได้ช่วยในเรื่องการลดรอยจากสิวมากนัก คงต้องหาตัวอื่นมาใช้ควบคู่กัน และสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่ายแห้งง่ายใช้ไปนานๆ อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้


2. Skinoren cream

รูปภาพ:http://o.lnwfile.com/b1zrh3.jpg

Skinoren cream

ยาละลายอุดตันสิวซึ่งชื่อจริง คือ Azelaic acid เป็นยาที่ออกฤทธิ์ได้หลากหลายทั้งช่วยลดปัญหาสิวอักเสบอุดตัน และปัญหารอยดำแดงหลังสิวหาย ข้อเสียของยาตัวนี้คือ มีความเป็นกรดค่อนข้างสูง แต่ออกฤทธิ์ดี

สรุป

สำหรับคนมีเป็นสิวประปรายแล้วทิ้งรอยดำไว้เยอะๆ ตัวนี้ค่อนข้างจะออกฤทธิ์ในการ

ช่วยลดรอยจากสิวได้ดีเลยทีเดียว ใครที่ใช้พวก Retin-A หรือ Benzac แล้วสิวไม่ยุบไม่หาย ลองหันมาใช้ตัวนี้ดูนะคะ แต่ก็ต้องควบคุมปริมาณการใช้ด้วย เพราะค่อนข้างมีความเป็นกรดสูง ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะผิวบางลงทำให้แพ้ง่ายได้ค่า

++Retin-A++

รูปภาพ:http://f.ptcdn.info/982/022/000/1409637232-Retin1-o.jpg

Retin-A

เป็นยารักษาสิวที่มีมาเนิ่นนาน และเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนรักษาสิว เรียกได้ว่าเป็นไอเทมฮอตฮิตของคนเป็นสิวก็ว่าได้ Retin-A ช่วยทำให้สิวอักเสบแห้งลงได้ และช่วยรักษาพวกสิวอุดตัดสิวผดได้ค่อนข้างดี แถมยังลดรอยดำจากสิวได้ดีมากด้วย แต่หากใช้ไปนานๆ ก็จะทำให้หน้าลอก หน้าแห้งได้

สรุป

เรื่องของการรักษาสิว Retin-A ค่อนข้างออกฤทธิ์ได้ดี ช่วยให้สิวอักเสบแห้ง และช่วยลดการอุดตันของสิว ลดรอยดำได้ดี แต่ต้องควบคุมปริมาณการใช้เพราะหากใช้ในปริมาณที่มากเกินไป หรือใช้ติดต่อกันนานจะทำให้ผิวหน้าแห้ง ลอก ไวต่อแสง อย่างเห็นได้ชัด เพราะตัวยาค่อนข้างแรง

3. Clinda m

รูปภาพ:http://g.lnwfile.com/r76iz0.jpg

Clinda m

เป็นยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อสิว จัดอยู่ในกลุ่มยาฆ่าเชื้อ มีทั้งรูปแบบ ' เจล ' และ ' น้ำ ' บางคนใช้แบบเจลแล้วออกฤทธิ์ดีกว่า บางคนใช้แบบน้ำแล้วออกฤทธิ์ดีกว่า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าแต่ละคนนะคะ Clinda m เป็นยาแต้มสิวที่ออกฤทธิ์กับสิวอักเสบได้ดี โอกาสที่จะทำให้เกิดการระคายเคืองค่อนข้างน้อยกว่ายาตัวอื่น

สรุป

ใครที่เป็นสิวอักเสบลองใช้เจ้า Clinda m ในการฆาเชื้อสิวดูนะคะ อาจจะใช้ระยะเวลาในการเห็นผลค่อนข้างนาน เพราะฤทธิ์ยาไม่แรงเท่าพวก Retin หรือ

Benzac โอกาสเกิดการระคายเคืองมีน้อยกว่า

4. Benzac AC

รูปภาพ:http://f.ptcdn.info/983/022/000/1409637483-Benzac1-o.jpg

Benzac AC

เป็นยาที่ทำหน้าที่ฆ่าเชื้อโรค P.Acne ซึ่งเป็นสาเหตุของสิวอักเสบ อีกหนึ่งคุณสมบัติของมันก็คือ ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว และช่วยให้หัวสิวหลุดออกจากตุ่มสิว Benzac AC มีระดับความเข้มข้นตั้งแต่

2.5 % และ 5 % (ในต่างประเทศมีถึง 10 %) ระดับความเข้มข้นยิ่งมากก็ยิ่งออกฤทธิ์แรง หากเริ่มใช้ก็ขอแนะนำให้เริ่มใช้ตั้งแต่ 2.5 % ก่อน แต่การใช้เจ้ายารักษาสิวตัวนี้ก็ค่อนข้างจะมีผลทำให้ผิวหน้าแห้งได้ง่าย เพราะใน Benzac มี

Benzoyl peroxide ซึ่ง

มีประสิทธิภายในการละลายและฟอกเอาไขมันที่ผิวหน้าออกไป ทำให้หน้าแห้งนั่นเอง

สรุป

Benzac AC ช่วยลดสิวอักเสบ สิวหัวหนอง ได้ดี จำนวนสิวลดลงอย่างเห็นได้ชัด แรกๆของการใช้มันจะทำให้สิวอุดตันขับออกมาไว อาจจะดูว่าทำไมสิวเห่อขึ้นมามาก แต่หลังๆ จะค่อยๆ ยุบ บางคนใช้ Benzac AC ควบคู่กับ Retin-A ก็ทำให้ได้ผลไวขึ้น แต่หากหน้าแพ้ง่าย หน้าบอบบางไม่แนะนำเพราะอาจจะทำให้หน้าพังไปมากกว่าเดิม ตัวนี้ไม่ช่วยในการลดรอยดำจากสิวแต่อย่างใดค่ะ

5. Physiogel cream

รูปภาพ:http://ecx.images-amazon.com/images/I/51aR%2BtV%2BjDL.jpg

physiogel cream

กลุ่มมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ( ครีมให้ความชุ่มชื้น ) มอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นสิ่งที่สาวๆ ทุกคนควรทา เพราะหากผิวหน้าแห้งขาดความชุ่มชื้นมากๆ ก็มีผลให้สิวเห่อขึ้นมาได้ ยี่ห้อนี้มีส่วนประกอบค่อนข้างดี มีความอ่อนโยนต่อผิวมาก เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผู้มีปัญหาผิวโดยเฉพาะ เนื้อครีมค่อนข้างมันเหนอะพอสมควร อาจเหมาะกับคนไขมันบนหน้าน้อยหรือทาเฉพาะกลางคืนเป็นไนท์ครีม

สรุป

ผู้มีปัญหาสิวควรใช้เจ้า Physiogel cream ควบคู่กับยารักษาสิวตัวอื่นๆ คู่กัน จะช่วยให้สิวยุบเร็วขึ้น เพราะยารักษาสิวส่วนมากจะออกฤทธิ์ทำให้ผิวหน้าเราบาง ลอก แห้งง่ายขึ้น จึงควรใช้ Physiogel cream ควบคู่ไปด้วยเพื่อบำรุงให้ผิวกลับมาแข็งแรงขึ้น แถมเจ้าตัวนี้ยังช่วยให้ผิวหน้าเราชุ่มชื้นขึ้นได้ในเวลาไม่นานอีกด้วย

6. La Roche-Posay Effaclar Duo

รูปภาพ:http://www.everydaykong.com/wp-content/uploads/2014/09/DSCF1156-1024x682.jpg

La Roche-Posay Effaclar Duo

แบรนด์ลาโรช-โพเซย์วางตัวเองว่าเป็นผลิตภัณฑ์เวชสำอาง คือ มีความอ่อนโยนต่อผิวมากกว่าผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ( เลยทำให้ราคาค่อนข้างสูง พอๆกับ Physiogel )  La Roche-Posay มี Niacinamide ( Vitamin B3 ) เป็นสารออกฤทธิ์อันดับแรกๆ ที่ช่วยป้องกันการเกิดรอยดำจากสิว มีคุณสมบัติรองๆ ลงมาคือช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วด้วย

สรุป

La Roche-Posay: Effaclar Duo เป็นสกินแคร์ที่สามารถป้องกันการเกิดรอยดำได้ ป้องกันการเกิดสิวได้บ้างเล็กน้อย มีสารช่วยผลัดเซลล์ผิวได้อ่อนๆ ( เดาว่าอ่อนมากๆ ) ซึ่งจะมาช่วยป้องกันสิวอุดตันได้เล็กน้อย เหมาะกับผู้มีปัญหาผิวแพ้ง่าย เพราะผลิตภัณฑ์มีความอ่อนโยนต่อผิว ( แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละคนด้วยนะคะ )

7. Clinique Anti-Blemish Solutions Clinical Clearing Gel

รูปภาพ:http://f.ptcdn.info/000/023/000/1409666422-Cli1-o.jpg

Clinique Anti-Blemish Solutions Clinical Clearing Gel

จะมีเนื้อเป็นเจลใสๆ เป็นเจลรักษาสิวที่ให้ผลลัพธ์ค่อนข้างเร็ว ( ราคาก็ค่อนข้างสูงมาก ) ช่วยลดโอกาสการเกิดสิวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต มีส่วนผสมของ 4-in-1 Clearing Complex ที่จะช่วยรับมือและลดโอกาสการเกิดสิว และยังมีตัวที่ช่วยเสริมการขจัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่เสื่อมสภาพพร้อมทั้งยังช่วยควบคุมความมัน แต่มีแอลกอฮอล์สูง ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่ายเอามากๆ

สรุป


Clinique


Anti-Blemish Solutions Clinical Clearing Gel ช่วยให้สิวอุดตันหายได้ สิวอักเสบยุบลงอย่างเห็นได้ชัดจริง สิวแห้งลง แต่หน้าก็แห้งตาม ใช้แล้วหน้าลอกเป็นขุยๆได้ ยิ่งหน้าแห้งง่ายอยู่แล้วยิ่งลอกเยอะขึ้น ดังนั้นควรหาพวกครีม หรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้ความชุ่มชื้นมาช่วย

8. Enzoxid

รูปภาพ:http://f.ptcdn.info/000/023/000/1409666422-Cli1-o.jpg

Enzoxid 2.5

เป็นกลุ่มยาฆ่าเชื้อสิวอีกตัว ชื่อจริง คือ Benzoyl peroxide ( BP ) หรืออีกหนึ่งยี่ห้อที่หลายๆคนคุ้นเคยคือ benzac ( สรุปง่ายๆคือ กลุ่มยาตัวเดียวกับ benzac นั่นเอง ) ออกฤทธิ์ไม่ต่างจาก benzac มากนัก ช่วยลดการอักเสบของสิว

สรุป

เป็นยารักษาสิวอีกตัวที่ออกฤทธิ์พอๆกับ Benzac หากใครใช้ Benzac แล้วเกิดอาการแพ้ไม่ขอแนะนำตัวนี้เพราะอาจเกิดอาการแพ้ได้ไม่ต่างกัน สำหรับคนที่ไม่แพ้ ตัวนี้ก็ช่วยลดการอักเสบของสิวได้ค่ะ

9. Bioderma mark up removing solution

รูปภาพ:http://f.ptcdn.info/000/023/000/1409666422-Cli1-o.jpg

ไม่ใช่ยารักษาสิวแต่อย่างใด แต่จะขอแนะนำสำหรับคนที่มีปัญหาสิว แล้วจำเป็นต้องแต่งหน้า ให้ใช้เจ้า

Bioderma mark up removing solution

เช็ดเครื่องสำอางออกก่อนจะล้างหน้าและดูแลผิวหน้าตามปกติ เจ้า Bioderma ไม่มีส่วนผสมของกลุ่มน้ำมันซึ่งมักมีโอกาสกระตุ้นสิวได้ง่าย ก็จะเป็นอีกตัวช่วยที่จะช่วยดูแลผิวหน้าของสาวๆ นั่นเอง

จบไปแล้วกับการแนะนำไอเทมสุดฮอตฮิตสำหรับผู้มีปัญหาสิว ใครกำลังมีปัญหาสิวอยู่ก็ลองไปสอยมาใช้ดูกันนะคะ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ตัวไหนมาใช้ควรศึกษาข้อมูลของเจ้าผลิตภัณฑ์ตัวนั้นๆ ให้มั่นใจก่อนน้าา


บทความที่เกี่ยวข้อง