Haul!! New Product จาก innisfree Black Tea Youth Enhancing Ampoule รีเซ็ตผิวอันเหนื่อยล้า จากวันที่แสนยาวนาน

สวัสดีปีใหม่ค่าทุกคน !!! จริงๆมันก็เลยวันปีใหม่มา10วันนิดๆ ละ แต่ก็ยังถือเป็นครึ่งเดือนแรกของต้นปีอยู่ ถือว่าไม่ช้าไปมากสักเท่าไหร่ อิๆ สำหรับการกลับมาหาทุกคนครั้งนี้แน่นอนว่าต้องมี ของเล่น สำหรับผิวหน้ามาป้ายยาทุกคนอย่างแน่นอน !! ขึ้น พ.ศ. ใหม่ทั้งที จะเอา สกินแคร์เก่าๆ มาแนะนำก็คงไม่ว้าว วันนี้เลยจัดสินค้าใหม่The New Product จาก innisfreeมาบอกเล่าสู่กันฟังกัน

ที่พูดนั้นก็คือinnisfree Black Tea Youth Enhancing Ampouleซึ่งชื่อของเค้าก็บ่งบอกตัวเองอยู่แล้วว่าเป็น สกินแคร์ที่สกัดมาจากชาดำ ซึ่งตัวนี้จะช่วยชะลอวัย ช่วยรีเซ็ตผิว จาก 5 สัญญาณผิวที่ดูเหนื่อยล้า ขาดการพักผ่อน ทั้งพวก ความแห้งกร้าน,หมองคล้ำ,สภาพผิวโดยรวมดูโทรม,ผิวไม่เรียบเนียน และผิวไวต่อความรู้สึก แพ้ง่ายและต่อต้านอนุมูลอิสระด้วยเทคโนโลยีของ Reset Concentrateซึ่งตัวนี้แป็นเทคโยโลยีลับเฉพาะของแบรนด์เท่านั้น จะช่วยรีเซ็ตผิวของเราตามคอนเซปของแบรนด์ ได้อย่างรวดเร็วและอินนิสฟรีจะดึงประสิทธิภาพ และคุณประโยชน์สูงสุดอย่างละเอียดและยังรักษา กรรมวิธีและสารสกัดแบบธรรมชาติ

หลายคนคงสงสัยกันว่าทำไมถึงต้องเป็น Black Tea?

ด้วยความที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านชาเขียวอยู่แล้ว อินนิสฟรีนั้นได้ค้นคว้าและวิจัยอย่างหลากหลายมากๆ ในกระบวนขั้นตอนการหมักชาเขียว และใช้การสังเกตการณ์ถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างมีประสิทธภาพ  ทั้งกระบวนการหมัก และระยะเวลาการหมัก และเหตุผลที่ทำให้ใช้ Black Tea เพราะชาดำนั้นมีประสิทธิภาพสูงมากและแตกต่างจากสายพันธุ์อื่น ทำให้ผู้ใช้จริงนั้นได้สินค้าที่ดีและมีประโยชน์อย่างแท้จริง

ลืมชมไปถึงความสวยงามของขวด และกล่องที่เค้าบรรจุภัณฑ์มา แอบมีความ minimal สีน่ารักมาก แน่นอนอยู่แล้วว่าแบรนด์นี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยสักอย่าง พูดตามตรงก็คือที่บ้านมีสินค้า innisfree หลายประเภทมากเรียกได้ว่าเราคือลูกค้าตัวยงของแบรนด์เลยก็ว่าได้ เลยไว้ใจมากที่จะกล้าใช้ และขวดนี้บรรจุรวม 30 ml. ในราคา 1,xxx บาท

กลุ่มเป้าหมายที่เราคิดว่าเหมาะสม สำหรับสินค้าตัวนี้เราว่ามันเหมาะสำหรับคนที่มีอายุประมาณนึงเช่น 25-39 ปีเป็นวัยที่หน้าเริ่มเหี่ยว เริ่มมีรอยย่น และตีนกามากยิ่งขึ้น เลยจะต้องดูแลรักษาตัวเองเป็นพิเศษ หรือคนที่มีไลฟส์สไตล์เป็นคนที่ชอบทำกิจกรรม เช่น ออกกำลังกาย งานอดิเรก หรือเป็นคนสังคมต้องมีงานสังสรรค์บ่อยๆ รวมไปถึงสาวๆหนุ่มๆ ออฟฟิศที่ ทำงานดึกตื่นเช้า มีเวลานอนน้อย ผิวรู้สึกเหนื่อยล้า ได้รับการพักผ่อนไม่เต็มที่ ขาดชีวิตชีวา เหมาะแก่การที่จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าและชะลอวัย

ความสะดวกสบายในการใช้ของขวดนี้ต้องให้เลยสำหรับหัว ดร็อปเปอร์ ที่เหมือนกับปรอทวัดไข้อิๆ คือโบชอบใช้สกินแคร์ที่มีความใช้ง่าย ไม่ต้องเลอะมือหรือยากลำบากในการเปิดขวด รวมไปถึงการเป็นหัวดร็อปเปอร์นั้นจะช่วยประหยัดในการใช้แอมพูลมากยิ่งกว่า ขวดที่เป็นในรูปแบบตัก หรือเหยาะ และที่แปลกใหม่ไปกว่านั้นคือเค้าไม่ได้ทำออกมาในรูปแบบของเนื้อเซรั่ม แต่กลับทำออกมาเป็นเนื้อแบบแอมพูล ซึ่งเนื้อสินค้าของแอมพูล เค้าจะมีความเข้มข้นมากยิ่งกว่าเซรั่มปกติทั่วไป

วิธีการใช้เพียงแค่ 1 ครั้งก่อนเข้านอน จะสามารถรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงจากเทคโนโลยี Reset Concentrate ได้ทันที มันจะช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างรวดเร็วมากๆ จาก 5 สัญญาณความเหนื่อยล้าของผิวหน้า

นอกจากนี้ในสินค้า เค้าจะมี Night Defense Formula เป็นการทำงาน

ขั้นตอนที่1ของโซเดียม ไฮยาลูรอเนต & เซราไมด์ ที่จะช่วยมอบความชุ่มชื้นแบบทันที

ขั้นตอนที่2Glyceryl Polymethacrylate มอบความชุ่มชื้นและช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นตลอดคืน

ขั้นตอนที่3เลซิติน ที่ผ่านการเติมด้วยไฮโดรเจน จะช่วยสร้างเกราะป้องกันผิวเพื่อรักษาความชุ่มชื้นยาวนานตลอดทั้งวัน

ผลลัพธ์หลังการใช้งาน 1 Week

บอกได้เลยว่าผิวหน้าเห็นความแตกต่างตั้งแต่ครั้งแรก แต่อาจจะไม่ชัดมากขนาดนั้นแต่เมื่อพอใช้ไปเรื่อยๆจนครบอาทิตย์ โบรู้สึกว่าผิวหน้าได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ หน้าดูมีความกระจ่างใสและสดชื่นมากขึ้น ดูไม่เหนื่อยล้า จากปกติโบต้องตื่นมาทำงานแต่เช้าทุกวัน เลิกบางวันก็เย็นบางวันก็ดึก วันไหนออกกองถ่าย เลิกตี2-3 แต่ต้องตื่นเช้าซะงั้น คือพอได้ใช้จริงๆดูแบบไม่ใช้ผลิตภัณฑ์อื่นรวมรู้สึกหน้าเฟรชขึ้นดี เวลาแต่งหน้าในตอนเช้ารู้สึกแต่งหน้าติด ตลอดทั้งวันอีกด้วย

เป็นไงกันบ้างคะกับสินค้าใหม่ตัวนี้จาก innisfree ของเรา โบพยายามคัดสรรหาข้อมูลแบบครบถ้วนมาให้ทุกคนที่กำลังสนใจอยู่ได้อ่าน และทำความรู้จักกับตัวนี้มากยิ่งขึ้นที่สุด หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์สำหรับทุกคนที่สนใจในสกินแคร์ตัวใหม่จาก innisfree กันอยู่ ซึ่งผลการทดลองใช้นี้ก็ขึ้นอยู่กับผิวหน้าของแต่ละคนด้วย บางคนอาจจะเห็นผลมาก หรือเห็นผลน้อยก็แล้วแต่ว่าหน้าเราจะเข้ากับแอมพูลตัวนี้ได้มากขนาดไหน ซึ่งสำหรับโบโบ ให้ตัวนี้ 8/10 เนื่องจากว่าลองใช้ได้ไม่นาน อาจจะยังไม่เห็นผลในระยะยาวว่าจะดีกับผิวหน้ามากน้อยแค่ไหน ไว้ถ้าโบได้ทดลองใช้ครบ 3 เดือนจะกลับมาทำรีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันอีกรอบ เรียกว่าเป็นการอัพเดทให้ดูกันเนอะ

สำหรับวันนี้ต้องขอตัวไปก่อนแล้วนะคะ แล้วเจอกันใหม่กับสินค้าปังๆตัวอื่นๆ บาย