ตอนนี้อุปกรณ์ที่เรียกได้ว่าแทบจะเป็นอวัยวะที่ 33 ของเราคงไม่พ้นโทรศัพท์มือถือหรือ smartphone ที่ทุกคนหรือแทบจะทุกช่วงวัยต้องมีอย่างน้อยคนละหนึ่งเครื่อง นอกจากโทรศัพท์มือถือก็ยังรวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเช่น แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก และคอมพิวเตอร์ เป็นต้น ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ก็ถือเป็นหนึ่งสิ่งที่ทำให้เราเลือกหยิบใช้เป็นประจำทุกวันไม่เว้นแม้กระทั่งช่วงก่อนนอนซึ่งช่วงเวลาก่อนนอนนั้นสิ่งที่ควรทำเพื่อให้การนอนหลับของเรานั้นพักผ่อนได้เต็มที่ โดยอีกทางเลือกหนึ่งคือการเว้นจากสื่อบันเทิงหรือจอสีฟ้าจากอุปกรณ์สัก 1-2 ชั่วโมงก่อนนอนนั่นเองแต่การจะเลือกทำแบบนี้เห็นที่จะยากเหลือเกินเพราะด้วยอาจจะหลายเหตุผลของแต่ละคนไม่เหมือนกันทั้งเรื่องการงาน หรือการติดซีรีส์สักเรื่อง หรือเหตุผลอื่นๆ เพราะในอุปกรณ์อย่างโทรศัพท์ของเรานั้นเป็นศูนย์รวมทุกอย่างให้กับเรา แน่นอนว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนนอนไม่ใช่ปัญหามากเท่าไร เมื่อเทียบกับคนที่ปิดไฟเล่นมือถือเสริมกับการทำจนเป็นกิจวัตรประจำวันก่อนนอนทุกครั้ง ซึ่งบอกเลยว่าใครที่กำลังทำพฤติกรรมแบบนี้อย่างต่อเนื่องต้องหยุด! และมาดูถึงข้อเสียของการปิดไฟเล่นมือถือและมาดูวิธีแก้ไขขอบตาดำหลังจากที่เราสังเกตเห็นได้ชัดเจน
ข้อเสียของการ ปิดไฟเล่นมือถือ อันตรายกว่าที่คิด !
แสงสีฟ้า หรือ Blue Lightที่ทุกคนได้ยินมาบ่อยๆ ซึ่งแสงสีนี้นั้นมีข้อที่แตกต่างจากรังสี UV ที่เกิดจากแสงอาทิตย์คือ UVA, UVB และ UVC จะถูกโอโซนของโลกเป็นตัวป้องกันไว้อยู่ก่อนแล้ว แต่ก็มีส่วนของ UVA และ UVB ที่จะสามารถทะลุเข้ามาในโลกของเราได้ แต่โอกาสที่จะเข้ามาเพื่อไปทำลายจอประสาทตานั้นมีโอกาสน้อยมากเนื่องจากรังสี UVA และ UVB จะดูดกลืนแสงไว้ 99% และตกไปยังจอประสาทตาเพียง 1% เพียงเท่านั้น ซึ่งไม่มีรังสีเหล่านี้ออกมาจากคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือแน่นอนส่วนแสงสีฟ้าคือแสงที่มีความยาวคลื่นสั้นอยู่ที่ 380-500 นาโนเมตร มีการกระจายตัวของแสงสีได้มากจึงทำให้มีอาการปวดตา เสี่ยงต่อการแสบตา ตาแห้ง น้ำตาไหล ปวดกระบอกตา ปวดศรีษะ สายตาไม่ชัด พร่ามัวได้ แต่แสงสีฟ้านั้นไม่ได้มีโทษเพียงแต่เท่านั้นเพราะประโยชน์ของแสงนี้ก็คือมีส่วนช่วยกระตุ้นให้ร่างกายมีการตื่นตัว แต่เมื่อใช้แสงสีนี้อาจมีผลกระทบต่อการนอนและการตื่นของร่างกายได้เหมือนกัน โดยแสงสีฟ้าสามารถพบได้ทั่วไปจากแสงอาทิตย์ จากหลอดไฟ แต่ส่วนมากพบได้ที่คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ แต่แสงสีฟ้าไม่ได้ทำให้ผู้ที่ใช้ตาบอดแต่อย่างใด เพียงแต่ทำให้ผู้ใช้ไม่สบายตาเมื่อใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานๆ ติดต่อกันหรือในที่มืดๆ นั่นเอง
ปัญหาและโรคเมื่อเล่นมือถือในที่มืด
ข้อเสียของการใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อกันเป็นเวลานานอาจเสี่ยงทำให้เป็นโรคเทคโนโลยีซินโดรม เพราะการมองไปที่หน้าจอตลอดเวลาทำให้ม่านตาขยายใหญ่ มากกว่าปกติ โดยเฉพาะยิ่งถ้าใครที่ปิดไฟเล่นก่อนนอนบ่อยๆ จนกลายมาเป็นโรคเทคโนโลยีซินโดรมเข้าไปแล้ว ปัญหาสุขภาพตาอาจมีการลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่จนกลายเป็นต้อหินในที่สุดซึ่งโรคต้อหินนั้นเป็นกลุ่มโรคที่มีการเสื่อมของประสาทตาส่งผลให้เกิดการสูญเสียการมองเห็นและเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะตาบอดที่เกิดขึ้นทั่วโลก ปัจจัยเสี่ยงสำคัญของต้อหินคือความดันตาที่สูงจนทำให้เกิดเกิดการทำลายประสาทตาตามมา เนื่องจากโรคต้อหินไม่มีอาการเตือนในระยะแรก การสูญเสียการมองเห็นจะเริ่มที่ขอบนอกของลานสายตาคือการมองเห็นจากด้านข้างส่วนตรงกลางภาพยังเห็นชัดชัดเจน แต่เมื่อหากไม่ได้รับการรักษาการมองเห็นภาพจะมีการแคบลงเรื่อยๆ โดยที่ผู้ป่วยไม่รู้ตัว ซึ่งในส่วนการรักษาจะมีตั้งแต่การใช้ยา การใช้เลเซอร์ และการผ่าตัดเป็นต้น
4 วิธีรักษาใต้ตาดำ ให้กลับมาดูสดใส
1. พักผ่อนให้เพียงพอเข้านอนตั้งแต่ 4-5 ทุ่ม หรือช่วงที่มีการหลั่งของโกรทฮอร์โมนพร้อมทั้งนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งในช่วงเวลาที่เรานอนหลับตอนกลางคืนนั้นจะเป็นช่วงเวลาแห่งการซ่อมแซมของร่างกายอีกทั้งดวงตาก็ได้รับการซ่อมแซมด้วยเช่นกัน เรียกว่าควรนอนหลับอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงในทุกๆ คืนจะดีที่สุด2. หลีกเลี่ยงสารสัมผัสโดยการหลีกเลี่ยงนั้นคือการหลีกเลี่ยงแสงแดด สารต่างๆ ที่จะทำให้สามารถทำให้เกิดการแพ้รอบดวงตา ซึ่งอาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งทำให้เกิดใต้ตาคล้ำ3. หยุดพฤติกรรมทำร้ายดวงตาพฤติกรรมที่ไม่ควรทำคือการขยี้ตาบ่อยๆ จนไปทำลายเส้นเลือดบริเวณผิวรอบดวงตาซึ่งอาจเป็นผลทำให้รอบดวงตาคล้ำขึ้น รวมไปถึงการเลิกสูบบุหรี่ด้วย4. ใช้อายครีมเพื่อฟื้นการบำรุงซึ่งการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อบำรุงผิวรอบดวงตานั้นถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหนึ่งเพื่อช่วยในการลดเลือนริ้วรอยและบรรเทาปัญหาใต้ตาคล้ำได้ดีมากยิ่งขึ้น
5 วิธีลดใต้ตาดำ ด้วยธรรมชาติ
1. ประคบด้วยแอปเปิลเป็นการนำแอปเปิลสดมา 2 ชิ้นเพื่อมาวางบนเปลือกตาประมาณ 15 นาที ซึ่งสามารถทำวิธีนี้ได้ทุกๆ วัน แถมยังเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนหลังทำอีกด้วย2. ประคบด้วยไข่ต้มนำไข่ต้มสุกปลอกเปลือกออกขณะที่ยังร้อนอยู่ โดยใช้ผ้าสะอาดนำไปห่อไข่แล้วนำมานวดบริเวณรอบดวงตา เพื่อช่วยให้เพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้ดีขอบตาดำครั้งก็จะค่อยๆ จางหายไป3. ประคบด้วยแตงกวาเป็นวิธียอดสุดฮิตทุกยุคสมัย ซึ่งคือการนำแตงกวามาหั่นเป็นแว่นๆ แล้วนำแช่เย็นไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นนำวางบนเปลือกตาทั้งสองข้างทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแค่นี้ก็ช่วยให้ขอบตาดูเปล่งปลั่งขึ้นมาได้4. ประคบด้วยถุงชาซึ่งใครที่ดื่มชาอยู่เป็นประจำให้ลองนำถุงชาที่ชงแล้วมาแช่ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที จากนั้นนำมาวางทับบนเปลือกตาทั้งสองข้างทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วนำถุงชาออก แค่นี้ก็สามารถช่วยผ่อนคลาย ลดใต้ตาดำคล้ำได้ ซึ่งใครที่แพ้ง่ายนั้นวิธีนี้นั้นเหมาะสมกับผิวสุดๆ5. ประคบด้วยน้ำแข็งวิธีนี้นั้นให้ใช้ผ้าขาวบางห่อน้ำแข็งแล้วนำมาวางทับบนเปลือกตาทั้งสองข้างทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แนะนำว่าควรทำในช่วงตอนเช้าเพราะความเย็นจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวรอบดวงตาและยังทำให้รู้สึกเฟรชมากขึ้นอีกด้วย
ป้ายยา ! อายครีมลดใต้ตาคล้ำ ราคาสบายกระเป๋า
อายครีมตัวดังจาก TikTok แบรนด์ Luna Jelly Eye Care
อายครีมตัวดังที่กำลังเป็นกระแสสุดๆ ในแพลตฟอร์มอย่าง tiktok ที่มีผู้ใช้ออกมารีวิวถึงผลลัพธ์กันอย่างล้นหลาม เพราะตัว Luna Jelly Eye Care สามารถเติมความสดใสให้กับรอบดวงตา ซึ่งตัวผลิตภัณฑ์ก็ออกแบบมาเป็นแบบหัวนวดแบบสัมผัสเย็นสะดวกต่อการใช้งานสำหรับผู้ใช้สุดๆ ทั้งด้วยเนื้อครีมมีความเข้มข้นซึมซับได้ไว ทั้งอุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติเพื่อช่วยลดความหมองคล้ำ การบวมจากการนอนดึก นอกจากนี้ยังกระตุ้นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตานั่นเองราคา : 239 บาทพิกัด : ออนไลน์ทั่วไป
อายครีมลดใต้ตาคล้ำ Plantnery Cica Centella Ceramide Eye Cream
แบรนด์ที่ทุกคนเห็นกันบ่อยๆ โดยเฉพาะใครที่เล่นแพลตฟอร์มอย่าง tiktok แบรนด์นี้ถือว่ากำลังมาแรงสุดๆ ซึ่งหนึ่งในตัวที่ที่มีผู้ใช้กันเยอะและออกมารีวิวนั้น ก็คืออายครีมหรือครีมทารอบดวงตาซึ่งเป็นอายครีมที่สามารถแก้รอยคล้ำของรอบดวงตา ถุงใต้ตาที่มีความหย่อนคล้อยด้วยสารสกัดจากใบบัวบกและเซราไมด์ถึง 5 ชนิด นอกจากนี้ยังเป็นสูตรที่มีความอ่อนโยนเหมาะกับผู้ใช้หลากหลายปัญหาอีกด้วยราคา : 249 บาทพิกัด : ออนไลน์ทั่วไป
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
สรุป
ผลเสียของการปิดไฟเล่นมือถือนั้นเรียกได้ว่าเกือบจะรุนแรงมากๆเสี่ยงเกิดโรคต้อหินได้โดยไม่รู้ตัวหากทำเป็นกิจวัตรประจำวันติดต่อกันเป็นเวลานานๆถึงแม้ว่าบางคนจะไม่ได้ทำเป็นประจำติดต่อกันทุกวัน แต่ถ้าเมื่อไหร่หรือวันไหนที่ได้ทำแล้วจะเห็นผลเสียของการเล่นในที่มืดอย่างชัดเจนเลยคือ มีอาการแสบตา น้ำตาไหลบ่อย ตาแห้ง ปวดกระบอกตา สายตาไม่ชัด มีความพร่ามัวนั่นเอง ซึ่งทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการเล่นในที่มืดจะดีที่สุด และเลือกที่จะนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อไม่เป็นการฝืนร่างกายและทำให้ร่างการหรือกระบอกตาของเราล้าดีที่สุด นอกจากนี้ผลกระทบจากการเล่นมือถือในที่มืดนอกจากที่บอกนั้นแล้วก็ยังมีเรื่องของใต้ตาดำคล้ำที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากการเล่นมือถือที่เพลินจนดึกเลยทำให้ส่งผลให้ใต้ตาคล้ำลงอย่างชัดเจนนั่นเอง
ขอบคุณรูปภาพจาก : Freepik
