ฮัลโหลสาวซิสสส
มาดูแลผิวด้วยกันเร็วค่าาา ถ้าพูดเรื่องการดูแลผิวหลายคนน่าจะถึงการลงสกินแคร์บำรุง
แต่ซิสรู้มั้ยเอ่ยว่าขั้นตอนสำคัญอีกขั้นตอนหนึ่งสำหรับการดูแลผิว นั่นก็คือขั้นตอนการ" คลีนผิวหน้า "
นั่นเอง เพราะในทุกวันใบหน้าของเราต้องรับศึกหนักมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง ครีมกันแดด แม้กระทั่งฝุ่นควันมลภาวะต่าง ๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าพังได้
การคลีนผิวหน้าให้สะอาดหมดจดเลยจำเป็นมาก ๆ ด้วยเหมือนกัน
และสำหรับเพื่อน ๆ ที่ยังงง ๆ กับขั้นตอนคลีนผิวหน้า หรืออยากได้ทริคคลีนหน้าแบบดีต่อผิวมากที่สุด
เราขน
ขั้นตอน " คลีนหน้าแบบจัดเต็ม " มาให้ซิสที่อยากล้างหน้าที่ลงลึกสะอาดหมดจด และ " ขั้นตอนฉบับย่อ " สำหรับซิสสาย Lazy ชิลล์ ๆ มาด้วย
จะเป็นยังไง ไปคลีนหน้าแบบสะอาดดีต่อผิวในบทความนี้พร้อมกันเลย
•✦•✦•✦•✦•✦•✦•
ขั้นตอนการคลีนหน้าฉบับจัดเต็ม
1. เช็ดรอบดวงตาด้วย Eye Remover
ด้วยความที่ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ เอ้ยไม่ใช่ ดวงตาเป็นส่วนอ่อนโยนบอบบาง ต้องดูแลเป็นพิเศษ หรือบางคนอาจจะแต่งหนักบล็อกตาเต็ม บริเวณรอบเปลือกตาเลยเป็นอีกบริเวณหนึ่งที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางรายล้อม ทั้งอายแชโดว์ อายไลนเนอร์ ไหนจะมาสคาร่า เลยต้อง
ใช้ Eye Remover ที่อ่อนโยนต่อดวงตา เช็ดล้างเครื่องสำอางให้สะอาด ด้วยการเท Eye Remover ลงสำลีให้ชุ่ม และโปะตรงเปลือกตาทิ้งไว้สักพัก แล้วค่อย ๆ เช็ด
เครื่องสำอางออกจนหมด
2. ใช้คอตตอนบัดเช็ดโคนขนตา
วิธีคลีนหน้าต่อมาหลังจากทำความสะอาดรอบ ๆ เปลือกตาเสร็จแล้ว อย่างที่บอกเอาไว้ว่าในขณะที่เราจะแต่งหน้าจัดเต็ม รอบ ๆ ดวงตาโดยเฉพาะโคนขนของเราอาจจะเจอศึกหนักทั้งอายไลเนอร์และอินไลเนอร์ที่สำลีไม่สามารถเช็ดได้หมด เลยต้อง
ใช้คอตตอนบัดจุ่ม Eye Remover ให้ชุ่มเล็กน้อย แล้วเช็ดโคนขนตาตัวแต่หัวตาออกไปด้านข้าง เพื่อทำความสะอาดแบบลงลึก
ให้เครื่องสำอางและสิ่งสกปรกที่ติดค้างหลุดออกให้รอบดวงตาสะอาดหมดจด
3. เช็ดริมฝีปากด้วย Lips Remover
ในส่วนของริมฝีปากก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่บอบบางพอ ๆ กับดวงตาเลยค่ะซิส เป็นส่วนที่ควรเจอกับสารเคมีมากเกินไป บางทีอาจจะหลุดเข้าปากหรือทำให้ผิวหนังตรงริมฝีปากแพ้หรือแตกเป็นริ้วรอยได้ เลยต้อง
ใช้ Lips Remover เทลงบนสำลีให้ชุ่มโปะไว้สักพัก แล้วค่อย ๆ เช็ดออก จุดนี้ต้องเบามือนิดนะคะซิส อย่าเผลอลงน้ำหนักถูริมฝีปากแรง ๆ อาจจะทำให้ริมฝีปากเหี่ยวได้นะ
จากนั้นก็เช็ดเบา ๆ ปาดปากไปเรื่อย ๆ จนลิปสติกหลุดออกจนหมดเลยค่า
4. เช็ดผิวหน้าด้วย Cleansing Oil
วิธีคลีนหน้าขั้นตอนต่อมา เป็นขั้นตอนของการทำความสะอาดผิวหน้ากันบ้าง สำหรับขั้นตอนคลีนหน้าสูตรจัดเต็ม เราจะคลีนหน้าแบบดับเบิ้ล 2 ครั้ง
ครั้งแรกคลีนด้วย Cleansing Oil ก่อน เลือก Cleansing Oil ที่เหมาะกับสภาพผิว เทลงบนสำลีให้ชุ่มแล้วเช็ดให้ทั่วผิวหน้า ไล่ลงมาตั้งแต่หน้าผาก จมูก คาง และแก้ม
และเพื่อความสะอาดหมดจด
ควรเช็ดอย่างต่ำประมาณ 3 รอบ
หรือจนกว่าสำลีสะอาดไม่มีสิ่งแปลกปลอมติดออกมาด้วยค่า
5. ล้างหน้าด้วย Cleansing Foam
ขั้นตอนล้างหน้ารอบที่ 2 พอล้างหน้าด้วย Cleansing Oil เสร็จแล้ว
ต่อด้วย Cleansing Foam เพิ่มความสะอาดแบบหมดจดก็จัดไปเลย 2 รอบจุก ๆ
ในรอบแรกทำความสะอาดใบหน้าถูฟองวนไป และ
ใช้นิ้วมือลูบหน้าล้างน้ำสะอาดแบบปกติ ส่วนในรอบที่สองลองไม่ใช่มือถู ให้เอาหน้าผ่านน้ำสะอาดอย่างเดียวหรือสัมผัสหน้าให้น้อยที่สุด เ
พื่อป้องกันไม่ให้หน้าช้ำและเกิดริ้วรอยได้ง่ายค่า
ว่าไปหลายครั้งก็สับสนนะ ด้วยความที่ชื่อเรียกคล้ายกัน แต่หน้าที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง!
https://sistacafe.com/summaries/90128
6. เช็ดโทนเนอร์หลังล้างหน้า
วิธีคลีนหน้าขั้นตอนปิดท้าย หลังจากล้างหน้าด้วย Cleansing Foam สำหรับโฟมล้างหน้าบางตัวอาจจะทำให้หน้ามีความตึง ๆ อยู่บ้าง
โทนเนอร์จะเป็นตัวช่วยปรับสมดุลของผิว ลดความตึงลงและเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า และเพื่อให้โทนเนอร์ซึมเข้าสู่ผิวได้มากขึ้น
ลองลงโทนเนอร์บนสำลีให้ชุ่มที่สุด ไม่ให้ผิวสำลีเสียดสีกับผิวหน้า และเช็ดหน้าในตอนที่ผิวหน้ายังเปียกหมาด ๆ เช็ดไล่ลำดับจากหน้าผาก จมูก คาง และแก้ม
ไปจนบริเวณรอบหน้าก็เสร็จขั้นตอนคลีนหน้าแบบจัดเต็มแล้วค่า
ขั้นตอนคลีนหน้าฉบับย่อ
ถึงในบางทีเราจะไม่ได้แต่งหน้า เปลือยหน้าสดเลยก็ตาม แต่สภาพอากาศเดี๋ยวนี้จัดหนักไปด้วย
ฝุ่นควัน มลภาวะมากมาย ไหนจะต้องปิดแมสก์อีก ซึ่งเจ้าสิ่งเหล่านี้นี่แหละค่ะซิส ที่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวหน้ามากมาย
อย่างสิวอุดตัน รูขุมขนกว้างชัดเจน
วิธีบำรุงรักษาผิวหน้าเนียนใสดูสุภาพดี ขั้นตอนแรกต้องล้างหน้าให้สะอาดเท่านั้น ซึ่งในวันชิลล์ ๆ อาจจะไม่ต้องล้างหน้าจัดเต็มก็ได้ เราเลย
ลดชั้นตอนล้างหน้าฉบับย่อมาให่สำหรับซิสสาย Lazy หรือซิสที่ไม่ค่อยแต่งหน้ามาฝากด้วย
ถึงจะมีขั้นตอนน้อยแต่ดีต่อผิวเหมือนกันค่า
1. ใช้ Cleansing Oil เช็ดทำความสะอาดใบหน้า
ใช้นิ้วมือนวดคลีนซิ่งออยล์ให้ทั่วหน้า หลังจากนั้น
เอามือไปล้างน้ำให้เปียก แล้วกลับมาล้างหน้านวดหน้าต่ออีก ทำให้ให้ออยล์เปลี่ยนเป็นน้ำนม
เพื่อให้ดูดสิ่งสกปรกได้มากยิ่งขึ้นค่า
2. ล้างหน้าด้วยโฟมล้างให้สะอาด
ควรเลือกโฟมล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว เพื่อไม่ให้เกิดอาการแพ้ และโฟมล้างหน้าไม่ดึงความชุ่มชื้นออกจากผิวมากเกินไป
สำหรับซิสผิวมัน ควรเลือกคลีนซิ่งแบบโฟม ส่วนผิวผสมหรือผิวแห้งจะเหมาะกับคลีนซิ่งแบบเจลค่า
3. ปรับสภาพผิวด้วยโทนเนอร์
จบที่ล้างหน้าอย่างเดียวไม่พอ อย่างที่บอกไปว่าโทนเนอร์คือตัวปรับสภาพผิวหลังล้างหน้า ถึงจะเป็นฉบับย่อแต่ก็ยังจำเป็นสุด ๆ เราจะ
ใช้โทนเนอร์เป็นตัวเชื่อมผิวกับครีมบำรุง เมื่อโทนเนอร์ปรับผิวชุ่มชื้นขึ้น ครีมบำรุงต่าง ๆ ก็จะสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ดีมากขึ้นด้วยค่า
การคลีนหน้าก็ต้องทำให้ถูกต้อง ลองเช็ค 7 พฤติกรรมเกี่ยวกับความงามที่หลายคนละเลย จนทำให้ 'ผิวหน้าพัง'
https://sistacafe.com/summaries/89498
•✦•✦•✦•✦•✦•✦•
จบไปแล้วกับ
วิธีคลีนผิวหน้าทั้ง 2 แบบฉบับจัดเต็ม VS ฉบับย่อ
ขั้นตอนน้อยที่เราเอามาฝากซิสในบทความนี้ค่า ขั้นตอนแบบไหนที่เหมาะกับซิสก็จัดไปตามสะดวกได้เลยค่า
เพราะไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนฉบับเต็มหรือฉบับย่อก็ดีต่อผิวเหมือนกันทั้งคู่เลย
ว่าแล้วก็ขอไปเตรียมตัวคลีนผิวบ้างแล้วดีกว่า
ส่วนซิสที่ยังไม่เจอโฟมตัวเด็ดในการคลีนผิว ลองตามไปส่องโฟมล้างหน้าตัวเด็ดช่วยบำรุงจากเกาหลีที่บทความด้านล่างได้เลย
วันนี้ขอตัวลาไปล้างหน้าก่อนแล้ว บายค่าซิสส
รวม 7 cleansing oil ที่มีส่วนผสมจากออยล์ธรรมชาติ
https://sistacafe.com/summaries/89289
cr. ขั้นตอนเช็ดเครื่องสำอางแบบละเอียด ไม่ให้เป็นสิว
https://www.wongnai.com/articles/how-to-remove-make-up
cr. 5 ขั้นตอนเช็ด "เครื่องสำอาง" แบบไร้สิวอุดตัน
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/1536591
cr. 3 วิธีคลีนผิว ทำความสะอาดถูกวิธี ผิวดีชัวร์
https://www.facebook.com/watch/?v=4492322710797481