เชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงเคยได้ยินชื่อของอบเชยกันมาก่อนไม่มากก็น้อย แต่เราอาจจะไม่คิดว่าประโยชน์ของอบเชยหรือที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า cinnamon นั้นมีมากกว่าที่คิด และวันนี้เรามีข้อมูลดีๆ มาฝากสาวๆ กันแล้วค่ะ


1.เป็นสารต้านเชื้อแบคทีเรีย,ป้องกันเชื้อราและไวรัส

รูปภาพ:http://www.spec-net.com.au/press/0811/images/coc170811_img01.jpg

หากใครที่เป็นไข้หวัด น้อยคนนักที่จะคิดถึงอบเชยกัน แต่ว่า Dr. Nada Milosavljevic แพทย์ที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้กล่าวว่า อบเชยได้รับการศึกษาแล้วว่าสามารถยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อราได้ นอกจากนี้สารที่อยู่ในอบเชยซึ่งมีชื่อว่า cinnamaldehyde ก็ยังเป็นส่วนประกอบหลักในการต้านเชื้อโรคต่างๆ โดยสรรพคุณต้านไวรัสของอบเชยคือการที่ทำให้ไวรัสไม่สามารถเข้าสู่เซลล์ได้  เพราะฉะนั้นใครป่วยรีบหาเมนูที่ผสมอบเชยกินด่วนๆ เลยค่ะ


2.ช่วยลดการอักเสบ

รูปภาพ:https://media.allure.com/photos/585c0da26e92de8d3ad26562/master/pass/headache.jpg

หากสาวๆ พบว่าตัวเองกำลังป่วยด้วยอาการปวดหัว ปวดข้อ และอาการอักเสบต่างๆ ถึงเวลาที่จะหันไปหาอบเชยอย่างจริงจังแล้วค่ะ โดยหนึ่งในส่วนประกอบที่สำคัญของอบเชยก็คือ cinnamyl alcohol จะช่วยในการปลดปล่อยฮีสตามีน โดยได้รับการพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการหลาย ๆ ห้องว่ามีผลในด้านการต้านการอักเสบ  Dr. Milosavljevic กล่าวไว้


3.ลดอาการปวดประจำเดือน

รูปภาพ:http://img4.thelist.com/img/gallery/the-unexpected-health-benefits-of-cinnamon/it-may-help-during-that-time-of-the-month-1495827845.jpg

การที่เราทานอบเชยในช่วงวันนั้นของเดือนจะทำให้อาการปวดประจำเดือนลดลง ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าลดอาการตกเลือดในช่วงที่มีประจำเดือน แถมยังลดการปวดอีกด้วย สาวๆ ที่ต้องทานยาแก้ปวดประจำเดือนแรงๆ เป็นประจำทุกเดือนควรเปลี่ยนมาทานอบเชยดีกว่าค่ะ เนื่องจากว่าอบเชยไม่ทำให้เกิดโทษต่อร่างกายนั่นเอง


4.กระตุ้นการทำงานของสมองได้

รูปภาพ:https://greatist.com/sites/default/files/self-help-lessons.jpg

อบเชยสามารถกระตุ้นการทำงานของสมองได้ โดยเฉพาะคนที่มีประวัติป่วยเป็นโรคอัลไซม์เมอร์ และโรคพาร์กินสัน โดยหน้าที่ของอบเชยในการบำรุงสมองได้แก่การกระตุ้นโปรตีนที่ช่วยในการป้องกันเซลล์สมองจากการกลายพันธ์ สรุปก็คือ การทานอบเชยทำให้สมองแข็งแรงกว่าเดิมนั่นเองค่ะ นอกจากจะกระตุ้นประสาทแล้วยังทำให้ความเครียดของเราลดลงด้วยค่ะ


5.ลดระดับน้ำตาลในเลือด

รูปภาพ:http://sweets.seriouseats.com/images/2014/01/20110426-cinnamon-bun-homemade-primary.jpg

เราอาจจะคิดว่าอบเชยคือของหวานชนิดหนึ่ง เพราะว่าเจ้าอบเชยมักจะถูกใส่ในพายแอปเปิ้ล ชินนามอนโรล มัฟฟิน แต่แท้จริงแล้ว อบเชยไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล และไม่ได้มีส่วนให้ความหวาน  แต่ทว่าอบเชยสามารถใช้ในการรักษาเสถียรภาพและลดระดับน้ำตาลในเลือด เพราะเหตุนี้เองการทานอบเชยจึงจำเป็นต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยประโยชน์ของอบเชยก็คือจะไปช่วยในการปิดกั้นเอนไซม์บางชนิดที่เรียกว่าอะลานีน และเจ้าอะลานีนนี้เองที่จะดูดกลูโคสเข้าไปในเลือด หากว่าสาวๆ เพิ่งรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง อบเชยจะช่วยลดปริมาณน้ำตาลที่จะเข้าสู่กระแสเลือดของเรา


6.รักษาสุขภาพในช่องปาก

รูปภาพ:http://feelgooddentalsouthgate.com/wp-content/uploads/2016/06/best-south-gate-dentist-feel-good-dental-634x384.jpg

หากเอ่ยถึงสมุนไพรที่ทำหน้าที่รักษาสุขภาพช่องปาก เรามักจะนึกถึงใบสะระแหน่ แต่จริงๆ แล้ว อบเชยก็สามารถดูแลสุขภาพช่องปากของเราได้เช่นกัน โดยจากการวิจัยน้ำมันกานพลูและอบเชย จะพบว่าอบเชยมีประโยชน์ในด้านการขจัดแบคทีเรียในช่องปาก และลดกลิ่นปากได้แบบเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีใดๆ


7.มีสารต้านอนุมูลอิสระ

รูปภาพ:http://img4.thelist.com/img/gallery/the-unexpected-health-benefits-of-cinnamon/its-packed-with-antioxidants-1495827845.jpg

การทานอาหารที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระคือสิ่งจำเป็น โดยจากการวิจัยสารต้านอนุมูลอิสระในเครื่องเทศ ก็พบว่าอบเชยนี่เองที่มีสารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุด


จะเห็นได้ว่าการที่เรารับประทานอบเชยบ่อยๆ นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายมากเลยค่ะ คนไทยเราอาจไม่คุ้นชินกับการทานเครื่องเทศนัก แต่เราสามารถนำมาประยุกต์ในการทานร่วมกับอาหารอื่นๆ ได้ เช่นโรยบนกาแฟ หรือว่าทานคู่กับขนมปัง ขนมหวานทุกครั้งก็ได้ค่ะ รับรองได้ว่าสุขภาพดีขึ้นแน่นอน