เชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงเคยได้ยินชื่อของอบเชยกันมาก่อนไม่มากก็น้อย แต่เราอาจจะไม่คิดว่าประโยชน์ของอบเชยหรือที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า cinnamon นั้นมีมากกว่าที่คิด และวันนี้เรามีข้อมูลดีๆ มาฝากสาวๆ กันแล้วค่ะ
1.เป็นสารต้านเชื้อแบคทีเรีย,ป้องกันเชื้อราและไวรัส
หากใครที่เป็นไข้หวัด น้อยคนนักที่จะคิดถึงอบเชยกัน แต่ว่า Dr. Nada Milosavljevic แพทย์ที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้กล่าวว่า อบเชยได้รับการศึกษาแล้วว่าสามารถยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อราได้ นอกจากนี้สารที่อยู่ในอบเชยซึ่งมีชื่อว่า cinnamaldehyde ก็ยังเป็นส่วนประกอบหลักในการต้านเชื้อโรคต่างๆ โดยสรรพคุณต้านไวรัสของอบเชยคือการที่ทำให้ไวรัสไม่สามารถเข้าสู่เซลล์ได้ เพราะฉะนั้นใครป่วยรีบหาเมนูที่ผสมอบเชยกินด่วนๆ เลยค่ะ
2.ช่วยลดการอักเสบ
หากสาวๆ พบว่าตัวเองกำลังป่วยด้วยอาการปวดหัว ปวดข้อ และอาการอักเสบต่างๆ ถึงเวลาที่จะหันไปหาอบเชยอย่างจริงจังแล้วค่ะ โดยหนึ่งในส่วนประกอบที่สำคัญของอบเชยก็คือ cinnamyl alcohol จะช่วยในการปลดปล่อยฮีสตามีน โดยได้รับการพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการหลาย ๆ ห้องว่ามีผลในด้านการต้านการอักเสบ Dr. Milosavljevic กล่าวไว้
3.ลดอาการปวดประจำเดือน
การที่เราทานอบเชยในช่วงวันนั้นของเดือนจะทำให้อาการปวดประจำเดือนลดลง ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าลดอาการตกเลือดในช่วงที่มีประจำเดือน แถมยังลดการปวดอีกด้วย สาวๆ ที่ต้องทานยาแก้ปวดประจำเดือนแรงๆ เป็นประจำทุกเดือนควรเปลี่ยนมาทานอบเชยดีกว่าค่ะ เนื่องจากว่าอบเชยไม่ทำให้เกิดโทษต่อร่างกายนั่นเอง
4.กระตุ้นการทำงานของสมองได้
อบเชยสามารถกระตุ้นการทำงานของสมองได้ โดยเฉพาะคนที่มีประวัติป่วยเป็นโรคอัลไซม์เมอร์ และโรคพาร์กินสัน โดยหน้าที่ของอบเชยในการบำรุงสมองได้แก่การกระตุ้นโปรตีนที่ช่วยในการป้องกันเซลล์สมองจากการกลายพันธ์ สรุปก็คือ การทานอบเชยทำให้สมองแข็งแรงกว่าเดิมนั่นเองค่ะ นอกจากจะกระตุ้นประสาทแล้วยังทำให้ความเครียดของเราลดลงด้วยค่ะ
5.ลดระดับน้ำตาลในเลือด
เราอาจจะคิดว่าอบเชยคือของหวานชนิดหนึ่ง เพราะว่าเจ้าอบเชยมักจะถูกใส่ในพายแอปเปิ้ล ชินนามอนโรล มัฟฟิน แต่แท้จริงแล้ว อบเชยไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล และไม่ได้มีส่วนให้ความหวาน แต่ทว่าอบเชยสามารถใช้ในการรักษาเสถียรภาพและลดระดับน้ำตาลในเลือด เพราะเหตุนี้เองการทานอบเชยจึงจำเป็นต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยประโยชน์ของอบเชยก็คือจะไปช่วยในการปิดกั้นเอนไซม์บางชนิดที่เรียกว่าอะลานีน และเจ้าอะลานีนนี้เองที่จะดูดกลูโคสเข้าไปในเลือด หากว่าสาวๆ เพิ่งรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง อบเชยจะช่วยลดปริมาณน้ำตาลที่จะเข้าสู่กระแสเลือดของเรา
6.รักษาสุขภาพในช่องปาก
หากเอ่ยถึงสมุนไพรที่ทำหน้าที่รักษาสุขภาพช่องปาก เรามักจะนึกถึงใบสะระแหน่ แต่จริงๆ แล้ว อบเชยก็สามารถดูแลสุขภาพช่องปากของเราได้เช่นกัน โดยจากการวิจัยน้ำมันกานพลูและอบเชย จะพบว่าอบเชยมีประโยชน์ในด้านการขจัดแบคทีเรียในช่องปาก และลดกลิ่นปากได้แบบเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีใดๆ
7.มีสารต้านอนุมูลอิสระ
การทานอาหารที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระคือสิ่งจำเป็น โดยจากการวิจัยสารต้านอนุมูลอิสระในเครื่องเทศ ก็พบว่าอบเชยนี่เองที่มีสารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุด
จะเห็นได้ว่าการที่เรารับประทานอบเชยบ่อยๆ นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายมากเลยค่ะ คนไทยเราอาจไม่คุ้นชินกับการทานเครื่องเทศนัก แต่เราสามารถนำมาประยุกต์ในการทานร่วมกับอาหารอื่นๆ ได้ เช่นโรยบนกาแฟ หรือว่าทานคู่กับขนมปัง ขนมหวานทุกครั้งก็ได้ค่ะ รับรองได้ว่าสุขภาพดีขึ้นแน่นอน