1. SistaCafe
  2. พฤติกรรมการกิน ‘แก้อาการปวดหัว’

อาการปวดหัว มาเยือนเราได้อย่างไม่คาดคิด แถมมากี่ครั้งก็ส่งผลกระทบต่อชีวิตการเรียนและการทำงาน บางคนแก้ปัญหาด้วยการกินยา แต่การกินยาบ่อยๆ ในปริมาณที่มากก็ส่งผลเสียต่อไตมาปรับปรุงพฤติกรรมการกินของเราก่อนจะดีกว่าไหมคะ บางทีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ของเราอาจส่งผลดีต่ออาการปวดหัวได้



1. กินน้ำให้มากขึ้น

ร่างกายของมนุษย์ประกอบด้วยน้ำเป็นส่วนหลัก โดยน้ำมีหน้าที่สำคัญในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย และทำหน้าที่ให้ข้อต่อของเราทำงานได้มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นโช้คอัพของสมองและไขสันหลังของเราอีกด้วย หากไม่ได้ดื่มน้ำให้เพียงพอ ในที่สุดคุณจะพบว่าเกิดอาการปวดหัวได้ สำหรับผู้หญิงควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตรต่อวัน แต่อาจจะมีบางคนที่ไม่ชอบกินน้ำ เพราะคิดว่าการกินน้ำ มันน่าเบื่อแถมรสชาติก็จืด การดื่มสมูทตี้ก็เป็นตัวช่วยที่ดีให้คุณได้รับน้ำเพียงพอในแต่ละวัน



2. ข้ามมื้ออาหาร

การไม่ได้กินอาหารมากพอก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ปวดหัวได้เช่นกัน การข้ามมื้ออาหารมื้อใดมื้อหนึ่งอาจจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว  เมื่อน้ำตาลในเลือดต่ำก็ทำให้รางกายปล่อยฮอร์โมนเพื่อชดเชยระดับน้่ำตาลในเลือด แต่ทว่าทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น จนปวดหัว



3. จิบกาแฟ

ใครที่ปกติแล้วติดกาแฟในตอนเช้าแล้วลดในบางวัน ถือว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ปวดหัวได้แน่นอนเลยค่ะ เนื่องจากว่าคาเฟอีนจะสามารถลดการปลดปล่อยฮิสตามีนในเลือดของคุณได้และลดอาการปวดหัวได้นั่นเอง


4. อย่ากินกาแฟมากเกินไป

สาวๆ เริ่มงงหรือเปล่าคะ ข้อสามบอกว่าให้จิบกาแฟ ข้อสี่บอกว่าไม่ควรกินมากไป เข้าใจไม่ผิดหรอกค่ะ การกินอะไรมากเกินไปแทนที่จะส่งผลดีต่อร่างกายก็กลับกลายเป็นผลเสียได้จริงๆ นะเนี่ย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกาแฟ ยิ่งใครชอบกินกาแฟตอนบ่ายแก่ๆ ด้วยแล้วล่ะก็ แทนที่จะทำให้ร่างกายสดชื่นและสดใสก็กลับกลายเป็นว่าคุณจะนอนไม่หลับในตอนกลางคืน เมื่อตื่นเช้ามา นอนไม่พอก็ปวดหัวอีกครั้ง



5. ดื่มชาคาโมมายล์

สำหรับใครที่ปวดหัวในระหว่างวัน แต่บังเอิญว่าตนเองไม่ชอบกินกาแฟ ลองดูชาคาโมมายล์ดีกว่าไหมคะ เพราะว่าชาคาโมมายล์มีฤทธิ์ช่วยในการผ่อนคลายความเครียด บรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน และยังมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ


6. กินแร่ธาตุแมกนีเซียม

แมกนีเซียมจะช่วยป้องกันการสะสมของเกล็ดเลือด ซึ่งไม่มีเกล็ดเลือดสะสม ก็จะไม่มีเลือดที่บวมและเป็นลิ่มเลือดเล็ก ๆ ซึ่งพวกลิ่มเลือดเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการกระตุกของหลอดเลือดและส่งผลให้อาการปวดหัวได้ ซึ่งสำหรับคนที่อยากหาอาหารที่อุดมไปด้วยแมกนีเซียมได้แก่ ผักคะน้า ผักโขม เมล็ดถั่ว



7. เลี่ยงผงชูรส

ผงชูรสเป็นพิษต่อสมองและทำให้เกิดความผิดปกติทางไฟฟ้าในสมองอันเป็นต้นเหตุของกระบวนการไมเกรน ซึ่งหากว่าสาวๆ ต้องมีภารกิจไปกินอาหารนอกบ้านก็ต้องมองหาร้านที่ไม่ใส่ผงชูรส หรือกำชับกับทางร้านว่าอย่าใส่ผงชูรส เพราะบางทีการกินผงชูรสมากไปจะส่งผลร้ายต่อสมองของเรา



เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับคนที่กำลังปวดหัวกันอยู่ ลองทำตามวิธีแก้ดังที่เรานำมาฝากในวันนี้ รับรองได้ว่าอาการปวดหัวจะหายไปแน่นอน แต่หากแก้ตามวิธีเหล่านี้ยังไม่หาย ก็คงต้องปรึกษาแพทย์แล้วค่ะ อย่าปล่อยให้อาการปวดหัวเล็กๆ ทวีเป็นเรื่องใหญ่ได้นะคะ



ด้วยรักและเป็นห่วงจาก SistaCafeค่ะ


เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้

🔮 ดูดวงกับ SistaCafe ผ่าน Line Official !
รูปภาพสำหรับป๊อปอัพลอย:1