ในหัวคิดอะไรไม่รู้เต็มไปหมด! เช็คด่วนๆ 5 ข้อ บ่งบอกว่าเธอเป็น 'โรควิตกกังวล' เข้าให้แล้ว
ช่วงนี้รู้สึกอาการของตัวเองผิดปกติไปเป็นอย่างมาก นี่เราเป็นอะไรหรือเปล่าหนอ ถามคนอื่นก็เกรงใจอีก งั้นลองมาเช็ค 5 ข้อที่ช่วยบ่งบอกว่าตัวเองเป็น ' โรควิตกกังวล ' หน่อยดีกว่า
เผยแพร่: 23 ก.ค. 2561 11:18 น.
Views: 5,800
รหัสบทความ: 51454
" อะไรกันนี่ ในหัวเหมือนมีอะไรอยู่เต็มไปหมดเลย! "
ไฮสาวชิส ช่วงนี้มีใครเริ่มมีอาการตามที่เราบ่นไว้ข้างต้นหรือเปล่าคะ ไม่ก็อาจจะมีอาการอย่างอื่นแทนที่นับได้ว่าผิดปกติ... ไม่มีเหรอ โชคดีจังเลยค่ะ แต่เดี๋ยว... บางคนมีอาการแปลกๆ เหรอ งั้นลองมาเช็คกับเราหน่อยดีไหมคะ ว่าตัวเองเป็น
โรควิตกกังวล
หรือไม่
สนใจไหม? งั้นหยิบกระดาษกับปากกามา แล้วตามไปเช็คๆ กันโลดเลยค่า! ... ลืมบอกไปว่าโรควิตกกังวลคืออะไร งั้นมาเริ่มจากความหมายก่อนละกันเนอะ
++โรควิตกกังวลคืออะไร++
What is... โรควิตกกังวล
พูดรวมๆ ก็เป็นอาการของคนที่ย้ำคิดย้ำทำนั่นแหละ ซึ่งมันมีทั้งข้อดีและข้อเสียต่อเราเลยนะคะ เริ่มจากข้อดีก่อน มันทำให้เราเตรียมตัวได้ดีกว่าคนอื่นค่ะ เรียกได้ว่ามีไฟไหม้ ฉันพร้อมดับ เกิดน้ำท่วม ฉันมีเรือพายกันเลยทีเดียว ส่วนข้อเสียน่ะเหรอ... อาจจะทำให้เรารู้สึกแย่ตลอดเวลา ไม่อยากเข้าสังคม ไม่กล้าแสดงความเห็น อย่างไรก็ดี ข้อเสียจะรุนแรงตามระดับอาการที่เราเป็นค่ะ
แล้วมันเกิดจากอะไรได้บ้าง?
ปู่ย่า น้าอา พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ร่ายมาให้ฟังขนาดนี้ สาวชิสพอเดาออกแล้วใช่ไหมคะ ว่ามันเป็นโรคที่สามารถติดต่อผ่านกรรมพันธุ์ได้ด้วยแล้วอีกหนึ่งปัจจัย นั่นก็คือสภาพแวดล้อมค่ะ
อธิบายให้รู้จักโรคนี้อย่างคร่าวๆ แล้ว งั้นก็มาตรวจเช็คอาการกันเลยเนอะ
1. ไม่อยากทำอะไรเลย
" ฉันสบายดี "
ปากพูดไปอย่างนั้น ตรงข้ามกับจิตใจอย่างสิ้นเชิงเลย พยายามทำกิจกรรมเดิมๆ ในชีวิตของตัวเองผ่านพ้นไปอย่างอยากลำบาก ทั้งที่ความจริงอยากจะหลบหนีออกไปตรงนั้นสุดขาดใจ หรือมันหมดความรู้สึกที่อยากจะมีส่วนร่วมไปนานแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้เธอๆ ทั้งหลายยังอยู่ตรงนั้นได้ มันก็มีแค่ " ความจำใจ " เท่านั้น
2. โลกใบนี้ไม่ได้สวยงาม
" ทุกสิ่งทุกอย่างมันจะต้องดีขึ้น... ไม่อะ มันมีแต่แย่ลง "
ไม่ว่าในชีวิตจะเจอเรื่องเลวร้ายแบบไหนผ่านเข้ามา กำลังใจคือสิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้เราฝ่าฟันพายุลูกใหญ่ แล้วก็จะได้พบกับฟ้าหลังฝนในที่สุด ที่กล่าวมาทั้งหมด เขาเรียกว่าเป็นการคิดบวกค่ะ แต่ถ้าสาวชิสเป็นโรควิตกกังวลกันอยู่ ความคิดจะตรงข้ามไปเลย มองโลกใบนี้ว่ามีแต่เรื่องโหดร้ายเต็มไปหมด จากเรื่องแย่ๆ ที่เจออยู่แล้ว ความจริงเป็นไงไม่รู้ ส่วนความคิด มันลงเหวไปเรียบร้อย
3. มันยังไม่ดีพอ
" ทำไม... ทำไมกันนะ ฉันถึงยังทำมันออกมาได้ไม่ดีพอ? "
งานที่ได้รับมอบหมายมาจากหัวหน้า เธอสามารถทำมันได้สำเร็จตามคำสั่งโดยสมบูรณ์ไปแล้ว ทว่าในด้านจิตใจกลับไม่ยอมคิดแบบนั้นตามด้วยนี่สิ มันกลับมองว่างานที่เราทำออกมายังไม่ดีพอ ต่อให้พยายามแก้ไข ปรับปรุงมากขนาดไหน เธอก็ยังรู้สึกไม่พอใจกับมันอยู่ดี มันเลยกลายเป็นว่า
ตัวเองกำลังรู้สึกเสียเวลาเปล่า?
นี่แหละอาการของคนเป็นโรควิตกกังวลชัดๆ เลย
4. หมดแรงง่ายกว่าปกติ
" เหนื่อยเหลือเกิน ไม่อยากลุกออกจากเตียงเลย "
ร่างกายหนักอึ้ง ไม่สามารถขยับตัวลุกออกจากเตียงได้เลย ราวกับมีใครหรืออะไรมาคอยถ่วงเอาไว้ ทั้งๆ ที่เมื่อวานก็เข้านอนเร็วแล้วนะ ถึงอย่างนั้นก็ต้องพาตัวเองออกไปเจอโลกภายนอกอยู่ดี จงตื่นตระหนกไว้! หากเธอเกิดอาการแบบนี้ขึ้น เพราะมีโอกาสเป็นโรควิตกกังวลมากกว่าความเหนื่อยล้าสะสมแล้วน่ะสิ แต่บอกผิวๆ แค่นั้น คงยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดสินะ...
งั้นเพิ่มให้อีกเรื่อง สาเหตุที่รู้สึกเหนื่อยกับวันใหม่เป็นพิเศษ เพราะช่วงกลางคืนเรานอนไม่หลับค่ะ ในหัวมีแต่เรื่องอะไรไม่รู้เต็มไปหมด คิดแล้วคิดอีก มันเลยกลายเป็นว่าร่างกายไม่ได้พักผ่อนนั่นเอง พูดมาขนาดคงเห็นภาพชัดขึ้นแล้วเนอะ
5. กังวลเกี่ยวกับความคิดของคนรอบตัวต่อตนเอง
" คนอื่นๆ เขาจะคิดกับฉันยังไงนะ"
เธอคนนั้นคิดอะไรอยู่ในหัวน่ะ แล้วนายคนนั้นมองฉันเป็นยังไง สารพัดความคิดเลยที่ต้องคอยระวังตัวอยู่ตลอด เพราะกลัวว่าตัวเองจะเผลอไปทำอะไรไม่ดีเข้า แล้วทำให้คนอื่นเกลียดตัวเองเข้า หรือไม่ก็ดันเก็บคำพูดที่ผ่านมานานมากแล้ว คิดถึงอยู่ตลอด ทั้งๆ ที่เรื่องจบไปแล้ว เธอก็ควรปล่อยผ่าน แต่ก็ไม่สามารถสลัดไปจากความคิดได้เลย
อืม... เป็นอยู่ไม่กี่ข้อแฮะ แล้วสาวชิสล่ะ ผลออกมาเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าไม่โดนข้อไหนเลย ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ ส่วนใครที่โดนไปบ้างข้อ มองโลกแง่ดีกันหน่อย นั่นหมายถึงเราแค่เป็นคนละเอียดละอ่อน ไม่ได้เป็นโรคร้ายอะไร
แต่ถ้าโดนครบทุกข้อ... แนะนำว่าควรไปรักษาตัว ปรึกษาแพทย์เป็นการด่วนเลยค่ะ! ก่อนที่อาการจะหนักเกินแก้ไข
ส่วนวันนี้เราขอลาไปก่อน แล้วกลับมาพบกันใหม่คราวหน้านะคะ บ๊ายบาย