มีใครกำลังตั้ง

ปณิธานใหม่ให้ตัวเองเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพและรูปร่าง

อยู่อ๊ะเปล่า? ไม่ว่าจะเป็นความตั้งใจที่จะ

ทำตัวเองให้แข็งแรงขึ้น

หรือ

ตั้งใจจะปั้นหุ่นใหม่ให้ได้ภายในปีนี้

แต่ก็ยังเริ่มไม่ได้ซักทีเพราะ

ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง


จะออกกำลังกายที่บ้านดีมั้ย

คลิปใน Youtube ก็เยอะแยะ ไม่ต้องเปลืองเงิน

หรือจะไปเข้าฟิตเนส

แลกกับค่าสมาชิก แต่มีเทรนเนอร์คอยให้คำแนะนำดีล่ะ

อย่าปล่อยให้ปัญหานี้มาเป็นตัวขัดขวางการเริ่มต้นของเรา

ถ้าหากใครยังตัดสินใจไม่ได้

ลองดู 5 ข้อนี้ แล้วพิจารณาไปทีละข้อ

เลยจ้า


1 # ดูเรื่องเวลาก่อนเลย

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/4a/b5/6a/4ab56af0afcd73a1ee09a8ae297f1074.jpg

สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดที่ต้องคำนึงถึงในการออกกำลังกายก็คือ เรื่องเวลาถ้าหากเวลาที่ใช้ไปนั้นสะดวกกับเรา ก็จะสามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง และนำมาสู่การออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพถ้าหากว่าคุณมีไลฟ์สไตล์ที่ค่อนข้างเร่งรีบหรือเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แนะนำว่าการออกกำลังกายที่บ้านน่าจะเข้ากับกิจวัตรประจำวันเราได้ดีที่สุด

ในการออกกำลังกายที่บ้านเราไม่ต้องรอว่าเมื่อไหร่ฟิตเนสจะปิดหรือจะเปิดทำให้สามารถออกกำลังกายในเวลาเช้ามืดได้โดยไม่ลำบากและไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางด้วยแต่ถ้าหากคุณมีไลฟ์สไตล์ที่ค่อนข้างชัดเจน เลิกงานก็เป๊ะๆ เวลาเดิมทุกวันไม่มีงานแทรก งานเลทใดๆก็สามารถไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสได้เลยค่ะ


2 # อะไรผลักดันเราได้ดีกว่า

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/94/8c/e0/948ce010899182dc4ffa1e11403acf77.jpg

การออกกำลังกาย

ถ้าเรารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องฝืน เราก็จะรู้สึกเหนื่อย

เมื่อเรารู้สึกเหนื่อย เราก็จะไม่สามารถทำได้นาน

ปัญหาหลักของการล้มเลิกกลางคันก็คือ ไม่มีแรงผลักดันนี่แหละ

ฉะนั้น การเลือกว่าจะออกกำลังกายที่ไหนดี ก็สำคัญต่อแรงผลักดันของเราเช่นกัน

ถ้าหากคุณไปฟิตเนสแล้วรู้สึกสนุก

ที่ได้พบเจอกับคนที่รักสุขภาพเหมือนกัน

ได้ไปออกกำลังกายกับคนเยอะๆ

ได้พูดได้คุย มีคลาสหลายๆ คลาสให้เรียน

ไปฟิตเนสก็น่าจะดีกว่า

ในขณะเดียวกัน

ถ้าหากคุณเป็นคนที่ค่อนข้างขี้อาย

หรือรู้สึกว่า

ถ้ามีคนอื่นอยู่ด้วยจะไม่สามารถทำท่าออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่

ในกรณีนี้

การออกกำลังกายที่บ้านก็เหมาะกับคุณ


3 # ออกกำลังที่ไหน ฟุ้งซ่านน้อยกว่ากัน

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/6e/7a/bd/6e7abd6e16cba077ae6db029454ab9e6.jpg

ต่อเนื่องจากข้อเมื่อกี้นี้

ถ้าหากเราออกกำลังกายที่บ้าน

เราจะรู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากกว่า

มีอิสระมากกว่า

และแน่นอนว่า

เราจะหยุดเมื่อไหร่ก็ได้ที่เราอยากหยุด

ถ้าเป็นแบบนี้ ถ้าจู่ๆ เราออกกำลังกายไปเรื่อยๆ แล้วเกิดฉุกคิดขึ้นมาได้ว่ามีงานค้างอยู่ แล้วก็เลยหยุดออกกำลังกายซะเลย

แบบนี้ก็ถือว่ารับมือกับความฟุ้งซ่านได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

ถ้่าหากคุณเป็นคนแบบที่บอกไปด้านบน

คุณก็ควรจะไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส

เพราะในฟิตเนสจะมีแต่คนออกกำลังกายเต็มไปหมด ยากที่จะฟุ้งซ่าน

แถมเมื่อเราก้าวเท้าออกมาแล้ว ก็ยากที่จะหยุดกลางคัน

ไหนๆ มาแล้วก็ต้องเอาให้ครบชั่วโมงซักหน่อยอะไรแบบนี้

ย่างน้อยก็ได้วันละ 1 ชั่วโมงแน่นอน


4 # เงินน่ะมีมั้ย ?

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/45/f8/56/45f856562d700d4dc0b4af9f6b13772e.jpg

เรื่องนี้ไม่พูดถึงไมได้เงิน ปัจจัยหลักในการตัดสินว่าจะไปเข้าฟิตเนสอุปกรณ์พร้อม หรือจะออกกำลังกายที่บ้านสบายๆ ไม่ต้องเสียเงินดี ?ถ้าหากคุณไม่อยากเสียเงินเป็นหมื่นเพื่อค่าสมาชิกก็สามารถออกกำลังกายเองที่บ้านได้แต่ถ้าคุณมีทุน ก็ไม่ลำบากที่จะไปเข้าฟิตเนสถ้าไม่ติดเรื่องเวลาหรือเรื่องอื่นน่ะนะนอกจากนี้ การที่เราเสียเงินไปแล้ว ก็จะกลายเป็นแรงผลักดันอีกทางที่จะพาตัวเองมาเข้าฟิตเนสออกกำลังกายได้ด้วย


5 # ลองซักตั้งซี่!

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/cf/20/17/cf201701d6d8b219767967f5e2c7f760.jpg

ตามตำราเขาว่าถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ถึงแม้ว่าหลังจากพินิจพิจารณาจาก 4 ข้อข้างบน จนตัดสินใจได้แล้วว่าจะออกกำลังกายที่ไหนดีแต่ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องยึดติดแค่วิธีนั้นวิธีเดียวเสมอไปจะให้ดีเราควรลองทั้ง 2 แบบบางทีที่เราคิดว่าออกกำลังที่ฟิตเนสดีแล้ว พอลองทำดูเองที่บ้านอาจจะชอบกว่าก็ได้นะ ส่วนคนไหนที่ลองออกกำลังกายที่บ้านแล้วก็ไม่เสียหายอะไรที่จะไปทดลองออกกำลังกายที่ฟิตเนสเพราะปกติทุกๆ ฟิตเนส จะมีให้ทดลองเล่นฟรีอยู่แล้ว ถ้าลองแล้วชอบก็โอเคเล้ย


ทั้งนี้ ไม่ว่าที่เราเลือกจะเป็นที่บ้าน ที่ฟิตเนส หรือที่ไหนก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การทำให้เป็นนิสัยเราคงไม่สามารถทำให้เคยชินได้ภายในวัน 2 วันเขาว่ากันว่าอะไรก็ตามที่เราสามารถทำต่อเนื่องได้ถึง 21 วัน จะทำให้เราสามารถทำต่อไปได้เรื่อยๆจนกลายเป็นธรรมชาติของเราเองฉะนั้นสิ่งที่ต้องเน้นย้ำอีกครั้งก็คือ ความต่อเนื่องและวินัยในการออกกำลังกายถ้าอยากออกกำลังให้ได้อย่างต่อเนื่องลองดูวิธีออกกำลังกายให้สนุกได้ที่บทความด้านล่างนี้เลยค่ะ