เมื่อความสงสัยในความคิดของตัวเองผิดแปลกไป อะไรที่ทำให้เรารู้สึกแบบนั้น? เรากำลังถูกสร้างความเข้าใจผิดโดยคนรอบข้างอยู่หรือเปล่า? หรือเราเป็นคนผิดในเรื่องนี้จริงๆ แบบนั้นแล้วอย่าลืมสังเกตคนรอบข้างด้วยว่าเขามีพฤติกรรมยังไง ปฎิบัติกับเราแบบไหน เพราะGaslightingอาจเกิดขึ้นได้ในทุกความสัมพันธ์ของเรา

✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿

ทำความรู้จักกับ Gaslighting คืออะไร ?

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/d8/f6/f8/d8f6f8f51c33c4b36f2a0f922c9c45b9.jpg

รูปแบบหนึ่งของการควบคุมจิตใจ (phychological manipulation)คือ การปั่นหัวให้อีกคนรู้สึกสับสนกับการรับรู้และความเป็นจริงที่ผิดแปลกไป เพื่อนำมาใช้ในการควบคุมหรือบงการอีกฝ่ายให้เดินตามเกมของตัวเอง นอกจากนี้คือการปลูกฝังของความแคลงใจ ความสงสัย และความไม่เชื่อมั่นใจตัวเองซึ่งสามารถพบได้ทุกรูปแบบความสัมพันธ์อย่างครอบครัว คนรัก เพื่อน เพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้าลูกน้องที่ใช้ความรุนแรงทางด้านจิตใจในการบงการ—------------------------------------โดยGaslightingแตกต่างจากการบงการทั่วไปเลยคือจะมีพฤติกรรมที่มีการปั่นหัวการพยายามยัดสิ่งที่ผิดให้กับเราโดยการโกหกซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่มีเหตุผลในการโกหกอะไรทำเพื่อแค่ให้ตัวเองรู้สึกว่ามีอำนาจในตนจนสามารถคุมอีกฝ่ายได้ถ้าหากเป็นพฤติกรรมการควบคุมโดยทั่วไปก็คล้ายเหมือนกันคือการโกหก แต่เป็นการโกหกเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า หรือเพื่อประจบประแจงอีกฝ่ายเท่านั้นเป็นต้น

เช็กสัญญาณเตือนว่าเรากำลังเจอความสัมพันธ์แบบนี้หรือเปล่า ?

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/43/a5/d6/43a5d644c110f8401ec111ace2d66a64.jpg

เป็นฝ่ายที่ต้องเอ่ยคำขอโทษออกมาก่อนตลอดเวลา แม้ว่าสิ่งนั้นคุณจะไม่ได้ทำผิดก่อนแต่กลับรู้สึกว่าเป็นความผิดของเราเองเชื่อว่าตนเองไม่สามารถทำถูกใจใครคนอื่นได้ เพราะรู้สึกว่าทำอะไรก็ผิดไปหมดรู้สึกกังวลใจอยู่ตลอดเวลา กลัวทำให้คนอื่นไม่ชอบตัวเองสูญเสียความมั่นใจในตัวเองสูญเสียความเป็นตัวตนไม่กล้าตัดสินใจ และมักที่ตั้งคำถามในความคิดและการตัดสินใจแต่ละครั้งเสมอ เพื่อคอยย้ำกับตัวเองรู้สึกโดดเดี่ยวไร้กำลัง รู้สึกว่าตนมีความแปลกแยกผิดหวังในตัวเองซ้ำๆ และยังกลัวว่าคนอื่นจะผิดหวังในตัวเองด้วย

สถานการณ์แบบไหนที่เสี่ยงต่อการโดนปั่นหัว ?

สถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการโดน Gaslighting 1. ความหวังดีจากครอบครัว

รูปภาพ:

"ที่บังคับก็เพราะว่ารักลูกไง"เคยได้ยินประโยคนี้จากคนในครอบครัวกันบ้างรึป่าวคะ แน่นอนว่าความหวังดีที่ได้รับจากคนรอบตัวนั้นนับว่าเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ความหวังดีนั้นทำให้เรารู้สึกกดดันในตัวเอง ต้องฝืนทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ โดยที่ผู้พูดอาจจะรู้หรือไม่รู้ตัวก็ถือว่าเป็นสัญญาณของการโดน Gaslighting รูปแบบหนึ่งหากรู้สึกว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ซิสขอแนะนำให้รีบคุยกับคนในครอบครัวก่อนที่จะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้สึกไม่ดีจนเกินไปจนนำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่ขึ้นในภายหลังได้ค่ะ

สถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการโดนปั่นหัว 2. การหยอกล้อกันระหว่างเพื่อน

รูปภาพ:

"เราก็แค่พูดเล่นเอง คิดมากไปได้"เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินประโยคนี้จากเพื่อนหรือคนใกล้ตัวกันมาบ้างไม่น้อย ด้วยคำหยอกล้อที่อาจทำให้เรารู้สึกไม่ดี แต่เมื่อมีประโยคต่อท้ายมาว่า "เราแค่พูดเล่น" ก็อาจทำให้เราเกิดคามรู้สึกกับตัวเองได้ว่าหรือจริง ๆ แล้วเป็นเราเองที่คิดมากจนเกินไป สถานการณ์แบบนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งในรูปแบบของการโดน Gaslightingแล้วเหมือนกันค่ะ เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าคำพูดของอีกฝ่ายทำให้เรารู้สึกไม่ดี โดยเฉพาะสถานการณ์ที่เพื่อนสนิทของเราเป็นคนพูดเอง แนะนำให้รีบบอกความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองไปเลยว่ารู้สึกดีหรือไม่ดีอย่างไร เพราะถ้าคนนั้นเป็นเพื่อนแท้ของเราจริงเขาจะพร้อมปรับปรุงและไม่ทำสิ่งที่กระทบจิตใจเราอีกแน่นอนค่ะซิส

สถานการณ์เสี่ยงต่อการถูก Gaslighting 3. การนอกใจในความสัมพันธ์แบบคนรัก

รูปภาพ:

ความสัมพันธ์ในรูปแบบคนรักถือเป็นความสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยงต่อการโดน Gaslighting สูง โดยเฉพาะบางคู่ที่มีปัญหาในเรื่องของการนอกใจ ก็อาจจะได้ยินคำพูดที่ว่า"ก็เพราะเป็นแบบนี้ไง ถึงต้องมีคนอื่น"จนทำให้ฝ่ายที่โดนนอกใจเบนเข็มความผิดหันมาหาตัวเองด้วยความคิดที่ว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิดแทน จนเกิดการด้อยค่าหรือตั้งคำถามกับตัวเองในแง่ของการมองว่าตัวเองนั้นอาจจะไม่ดีพอจนทำไม่สามารถทำให้คนรักนั้นอยู่กับเราแค่คนเดียวได้เมื่อไหร่ที่เกิดความคิดแบบนี้แล้วถือเป็นสัญญาณเตือนขั้นรุนแรงในความสัมพันธ์แล้ว ถอยกลับมาตั้งหลักแบบด่วน ๆ ในตอนที่ยังรักตัวเองอยู่นะคะ เทคแคร์ค่ะซิส

สถานการณ์เสี่ยงต่อการถูกปั่นหัว 4. ความคาดหวังจากที่ทำงาน

รูปภาพ:

การถูก Gaslighting ในที่ทำงานมีความเสี่ยงสูงที่อาจทำให้เราตั้งคำถามกับคุณค่าในตัวเองว่าเรามีความสามารถเพียงพอไหม เรายังทำได้ไม่ดีพอหรือเปล่า จนท้ายที่สุดก็อาจนำไปสู่การด้อยค่าในตัวเองได้ในสถานการณ์แบบนี้เราอาจเห็นได้จากคำพูดหรือการกระทำจากหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูจะไม่ถูกใจพวกเขาเลย ทำอะไรก็ผิดไปซะหมดในบางส่วนที่เราได้ทบทวนตัวเองแล้วว่าอาจจะยังสามารถพัฒนาได้มากกว่านี้ก็ถือให้เป็นการแก้ไขปรับปรุงตัวไป แต่ถ้าการปรับตัวของเราดูท่าว่าจะทำยังไงก็ยังไม่ถูกใจเขาสักที ก็ให้ปักธงไว้เลยว่าตัวเองกำลังโดน Gaslighting อยู่แน่นอนค่ะ ถ้ายังไหวก็ไปต่อ แต่ถ้าไม่ไหวก็ต้องออกมารักษาใจของตัวเองกันด้วยนะคะ เมื่อเราอยู่ถูกที่เราจะมีคุณค่าเองค่ะซิส

วิธีรับมือเมื่อต้องเผชิญกับการถูกปั่นหัว ?

วิธีรับมือกับ Gaslighting ที่ 1. เว้นระยะห่าง

รูปภาพ:

ถอยห่างจากความรู้สึกที่สงสัยในตัวเองที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ให้ การที่เราจะสามารถก้าวผ่านความรู้สึกแบบนั้นได้คือการที่เราค่อยๆ หายใจเข้าลึกๆ เพื่อให้สมองของเรารู้สึกผ่อนคลายและมีเวลาในการทบทวนความคิด กับสิ่งที่เผชิญมาอย่างมีสติครบถ้วน

วิธีรับมือกับความสัมพันธ์ที่ถูกปั่นหัว ที่ 2. เก็บหลักฐาน

รูปภาพ:

ด้วย Gaslighting มักจะทำให้คุณมีความสงสัยกับตัวเองและมักตั้งคำถามกับตัวเอง การเก็บหลักฐานจากเรื่องราวต่างๆ ที่เข้ามาจะช่วยให้เรามีสติในการไตร่ตรองว่าสถานการณ์ตรงหน้านั้นไม่เพียงเป็ฯความผิดของเราอยู่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น

วิธีรับมือกับกับความสัมพันธ์แบบ Gaslighting ที่ 3. ใช้มุมมองของบุคคลที่ 3

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/d4/4a/fe/d44afe5cedaa02fdcfabd9cd473112dc.jpg

มุมมองของคนที่อยู่นอกเหตุกาณ์จะช่วยให้เรามองเห็นเรื่องราวที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่โดนบีบบังคับทางอารมณ์ ย่อมทำให้เรานั้นรู้สึกไปไหนไม่รอบแน่นอน และยังไม่สามารถประมวลผลเรื่องราวได้ดีเท่าที่ควร

วิธีรับมือกับการถูกปั่นหัว ที่ 4. ถอยห่างจากความสัมพันธ์

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/8a/d5/16/8ad5163ff17a196674d4747a79420a92.jpg

การเผชิญความสัมพันธ์แบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำให้ตัวเราสูญเสียความเป็นตัวตนทีละเล็กทีละน้อยเรื่อยๆ ดังนั้นแล้วการจบความสัมพันธ์ให้เร็วที่สุดจึงเป็นเรื่องที่ดีและรีบควรทำ เพื่อหลีกพ้นและจบการทำร้ายจิตใจขึ้นมาอีก และเซฟใจตัวเองมากๆ นั่นเอง

ผลกระทบจากการถูกปั่นหัวในความสัมพันธ์

รูปภาพ:

ผลกระทบที่ฝ่ายได้รับนั้นจะเป็นการมักถูกมองให้เชื่อหรือยอมตนตาม อย่างเช่นหากเรารู้สึกกำลังเศร้าแต่อีกฝ่ายที่เป็น Gaslighting บอกกับเราว่าเศร้าทำไม ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยดังนั้นจึงกลายเป็นว่าความรู้สึกของเราเกิดด้านลบกับตัวเองทำให้ตัวเองรู้สึกว่าเราผิดที่เราเศร้า งั้นต่อไปเราห้ามเศร้านั่นจึงส่งผลกระทบทางด้านความคิด ความรู้สึก และอารมณ์ทางลบได้ เพราะความคิดและความรู้สึกไม่ได้ถูกยอมรับและจัดการอย่างเหมาะสมเท่าที่ควร

✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿

เมื่อเราอยู่ในความสัมพันธ์ที่เรียกได้ว่าเกือบ Toxic มากๆ การที่เรานำตัวของเราเองออกมาจากความสัมพันธ์นั้นให้เร็วที่สุดจะเป็นเรื่องดีมากๆ และการสังเกตตัวเองว่าเข้าค่ายGaslightingด้วยหรือเปล่าเพราะจะได้รีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ได้ ฉะนั้นต้องใจเขาใจเรา สิ่งสำคัญคือไม่ควรปล่อยผ่านเพื่อไม่ให้เราสูญเสียตัวตนลงไป อย่าให้คำพูดของคนอื่นมาทำร้ายตัวเรา จงเชื่อมั่นและมั่นใจในตัวเองเข้าไว้


บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ